วันศุกร์ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

แรงแค้น แรงเสน่หา 5

แรงแค้น แรงเสน่หา 6 ลุ่มหลง โดย ใจร้าย ความเดิมตอนที่แล้ว “คุณเก่งจังเลย” เดน่าชม หลังจากที่ถอนริมฝีปาก “เธอก็ใช่ย่อยนะ เก่งเหมือนกัน” มดชมกลับพร้อมกับใช้มือทั้งสองข้างดึงใบหน้าของเดน่าเข้ามาจูบอีกครั้ง “เราขึ้นไปข้างบนกันเถอะ แดดเริ่มร้อนแล้ว” เดน่าชวนมดเมื่อเห็นแสงแดดที่แรงขึ้นทุกที ************************************************** สองวันแล้วที่มาอยู่ที่นี่ เธอยังไม่รู้เลยว่าทำไมเธอถึงไม่หาทางที่จะออกไปจากที่นี่ทั้ง ๆ ที่เธอรู้อยู่แก่ใจดีว่า เดน่าต้องการจะแก้แค้นเธอ มดถอนหายใจเฮือกใหญ่ เธอยืนกอดอก อยู่ในชุดคลุมอาบน้ำ ผมมัดเกล้าไว้หลวม ๆ ดวงตาคู่สวยเหม่อมองไปนอกหน้าต่างบนห้องนอน ท้องฟ้ามืดสนิทมองเห็นแต่แสงดาวอยู่เต็มท้องฟ้า บรรยากาศภายนอกเงียบสงบ ผ้าม่านปลิวไปตามลมที่พัดผ่านมาเบา ๆ “ทำไมเราถึงยังอยู่ที่นี่?” คำถามเกิดขึ้นในความรู้สึกของมด “เดน่าไม่ได้กักขังเรา ไม่ได้กำหนดอะไรเราเลย ทำไมเราถึงยังอยู่” มดคิดพยายามหาคำตอบให้กับตัวเอง “แกร๊ก” เสียงประตูห้องน้ำเปิดออก เดน่าเดินออกมาจากห้องน้ำ อยู่ในชุดคลุมอาบน้ำ เธอเห็นมดยืนมองออกไปทางนอกหน้าต่าง เหม่อลอย แล้วถอนหายใจ จนไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าของเดน่าที่เดินเข้ามาข้างหลัง “คิดอะไรอยู่” เดน่าเดินเข้ามาซ้อนที่ข้างหลังมดโดยใช้มือข้างหนึ่งกอดไว้ที่เอว ส่วนมืออีกข้างลุกล้ำเข้าไปในเสื้อคลุมลูบคลำเบา ๆ ที่ดอกบัวคู่งาม มด ตกใจเล็กน้อยสายตายังคงเหม่อมองออกไปทางนอกหน้าต่างเหมือนเดิม มดไม่ตอบคำถามเดน่า เธอใช้มือทั้งสองข้างของเธอดึงแขนของเดน่าให้โอบกระชับรอบเอวเธอแน่นยิ่ง ขึ้น “ยืนตากลมอยู่อย่างนี้ไม่หนาวเหรอ” เดน่าโอบกระชับเอวมดแน่นขึ้นตามแรงดึงของมด เดน่าใช้คางของเธอวางไว้บนไหล่ของมด “ทีแรกก็หนาว แต่เธอมากอดเนี่ยมันกลับกลายเป็นร้อนแทน” มดอมยิ้มกับคำตอบที่เธอตอบกลับไป “ร้อนอะไร ร้อนกาย หรือ ร้อนใจ” เดน่าใช้ปลายจมูกไล้ไปตามแก้มขาวของมด กระซิบที่ข้างใบหู ทำให้มดรู้สึกขนลุกขึ้นมา ความวาบหวามเริ่มเข้ามาครอบงำอีกแล้ว ตั้งแต่เมื่อวานเธอได้รับความสุข ความรัญจวน จากเดน่าที่ปรนเปรอให้เธอไม่ขาดสาย เดน่าให้สิ่งนั้นกับมด จนทำให้เธออดคิดไม่ได้ว่าที่เธอไม่ยอมหนีไปไหนเพราะจากเหตุผลนี้รึเปล่า เดน่าที่กำลังง่วนกับการซุกไซร้ต้นคอขาวของเธอ มือของเดน่าไม่อยู่กับที่อีกแล้ว มือของเดน่าปลดสายเสื้อคลุมอาบน้ำที่มดผูกไว้หลวม ๆ มดหันหน้ามาหาเดน่า เธอใช้มือทั้งสองข้างของเธอโอบอุ้มที่ใบหน้าของเดน่า ออกจากต้นคอของเธอ มดจ้องมองไปในดวงตาคู่สวยคู่นั้น เธอพยายามมองเข้าไปให้เห็นถึงข้างในหัวใจของเดน่า ว่าตอนนี้เดน่ากำลังทำอะไรกับเธออยู่ แต่เธอพบแต่ดวงตาที่สั่นไหวที่เต็มไปด้วยไฟราคะที่พร้อมจะปลดปล่อยมันออกมา แลดูท่าทางจะไม่หยุดง่าย ๆ ดวงตาคู่สวยคู่นั้นจ้องมองกลับมาอย่างไม่สะทกสะท้าน ดวงตาของทั้งคู่ต่างคนต่างจ้องมองกันและกัน มือของเดน่า ที่ตอนนี้คลืบคลานเข้าไปในเสื้อคลุมอาบน้ำอีกครั้ง ลูบไล้ไปมาที่ปทุมถันทั้งสอง บีบเคล้น เบา หนัก สลับกันไป มันทำให้อารมณ์รักของมดปะทุขึ้นมาเรื่อย ๆ “ซน อีกแล้วนะ” มดต่อว่าเดน่า กลาย ๆ “ซน อย่างนี้ชอบไหมค่ะ” เดน่าไม่พูดเปล่าเธอดันมดจนไปติดหน้าต่าง เดน่าใช้มืออีกข้างไล้เรื่อยลงไปตั้งแต่หน้าท้องแบนราบมาที่เนินสวาทพร้อม กับบีบอย่างหนักหน่วง การกระทำของเดน่าทำให้มดต้องสะดุ้ง “ยะ..............อย่าซนสิ” มดตอบเสียงกระเส่า มือของเดน่าไม่ได้บีบเพียงอย่างเดียว เดน่าใช้ปลายนิ้วก้อยสัมผัสไปตรงส่วนที่ไวต่อความรู้สึก วนไปวนมา จนทำให้มดแทบไม่เป็นอันยืน มือทั้งสองที่โอบอุ้มใบหน้าของเดน่าอยู่ ค่อย ๆ กลายมาเป็นโอบรอบคอเดน่าไว้ เดน่าจ้องมองใบหน้าของหญิงสาวตรงหน้าที่ตอนนี้ กำลังแดงขึ้นเรื่อย ฟันซี่สวยกัดริมฝีปากเพื่อสกัดกั้นเสียง และอารมณ์สวาท เสื้อคลุมอาบน้ำของมดตอนนี้ร่วงลงไปกองกับพื้น มดยืนตัวเปล่าเปลือย ร่างกายอ่อนไหวไปตามนิ้วมือที่บีบเคล้นเนินสวาทอย่างหนักหน่วง และปลายนิ้วเริ่มแทรกซึมผ่านเข้าไปในช่องทางสวรรค์ ที่น้ำรักที่โปรยปรายลงมาเพื่อที่อำนวยความสะดวกให้ผ่านเข้าไปอย่างง่ายดาย มือทั้งสองข้างของมด โอบรอบต้นคอ ค่อย ๆ เลื่อนมาถอดชุดของเดน่าออกมือทั้งสองลูบไล้ไปตามแผ่นหลัง จิกเล็บลงบนแผ่นหลังของเดน่าในบางครั้ง เหมือนต้องการให้เดน่าได้รับรู้ถึงอารมณ์ของเธอที่ตอนนี้มันไปตามอารมณ์วาบ หวามที่เดน่าหยิบยื่นให้ เดน่าโผเข้าหามด ใช้ร่างกายเข้าเบียดชิดแทบเป็นเนื้อเดียวกัน มดยกขาข้างหนึ่งมาเกี่ยวที่ช่วงเอวของเดน่า เพื่อให้ช่องทางสวาทนั้นเปิดทางให้สำหรับผู้ลุกล้ำได้มากขึ้น ปลายคางของเธอวางอยู่บนไหล่ของเดน่า “ปล่อยเสียงออกมาซิ จะเก็บไว้ทำไม” เดน่ากระซิบที่ริมใบหูมด เพราะตอนนี้นิ้วของเดน่า ทั้ง 3 นิ้วได้เข้าไปอยู่ในรูสวาทเรียบร้อยแล้ว แต่เดน่ายังอยู่เฉย ยังไม่ขยับเขยื้อนใด ๆ ทั้งสิ้น เธอต้องการให้มดมีความต้องการมากขึ้น เดน่า ใช้นิ้วหัวแม่มือที่ยังว่างอยู่เขี่ยไปที่ติ่งเสียวของมด เธอต้องการให้มดส่งเสียงออกมา เธออยากจะแกล้งมด “อาส์..............อืม.....ยะ......อย่า แกล้ง กันซิ” มดกัดฟันพูดเพราะนิ้วหัวแม่มือของเดน่ากระตุ้นอารมณ์เธอ จนแทบจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว จนทำให้มดต้องพูดออกมา “ขอร้องสิ” เดน่ายังกระซิบที่ใบหู และใช้ลิ้นเลียที่ใบหูเบา ๆ เพื่อกระตุ้นอารมณ์มดให้มากขึ้น “ขะ....ขอร้องยังไงละ จะ......ให้พูดอะไร อ่าส์............” มดพูดเสียงกระเส่าเพราะมืออีกข้างของเดน่าเปลี่ยนจากการบีบเคล้นที่ปทุมถัน มากอดช่วงสะโพกของมดให้แน่นขึ้นทำให้ร่างกายมีการเสียดสี นิ้วที่ยังอยู่ในช่องสวาทมีการเสียดสีเกิดขึ้น ทำให้มดต้องครางออกมา ห้ามไว้ไม่อยู่ เดน่าแสยะยิ้มเมื่อเห็นอาการ “ขอร้องสิ พูดอย่างไรก็ได้ “ เดน่าขยับนิ้วที่คาอยู่นิดหน่อยเพื่อให้มดเกิดความต้องการมากขึ้น ทำให้อ้อมแขนที่กอดเดน่าอยู่นั้นกอดรัดแน่นขึ้นอีก “ก็.....ๆๆๆ ได้ เดน่าช่วยฉันทีซิ ทะ...ทำหะ...ให้....ฉัน ขะ......ขอร้องละ อย่า....กะ....แกล้ง กัน” มดพูดด้วยอารมณ์เสียวที่ยังไม่ได้รับการปลดปล่อย เหงื่อเริ่มซึมออกตามผิวกาย ความร้อนของร่างกายเริ่มทวีขึ้นเรื่อย ๆ “ยังไม่พอขอร้องอีกสิ เอาแบบอ้อนวอน ปนเซ็กซี่ หน่อย” มดยังคงแกล้งเดน่าต่อ พร้อมกับขยับนิ้วอีกนิดหน่อยเพื่อกระตุ้นอารมณ์อีกครั้ง “อ๊ะ!” มดอุทานออกมาเบา ๆ เมื่อโดนกระตุ้นอีก “ ขอร้องละ ฉะ……ฉัน ตะ…..ต้องการเธอ ทะ……ทำให้ฉัน ฉันจะ….ทะ…..ทน ไม่ไหวอยู่แล้ว” “ต้องการแบบไหนละจ๊ะ” เดน่ายังคงแกล้งมดต่อ เดน่าใช้ริมฝีปากกัด เบา ๆ ที่ใบหูของเดน่า “ละ…..แล้ว แต่เธอ เร็วเข้าสิ เธออยากให้ฉันขาดใจตายรึไง!” มดเริ่มเสียงดังขึ้น แต่น้ำเสียงนั้นยังสั่นไปด้วยความเสียว ที่เธอรู้สึกว่าถ้าเธอไม่ได้รับการปลดปล่อยเธอต้องขาดใจตายแน่นอน “ก็แค่นี้ละที่ต้องการ เตรียมรอรับได้เลย” มดไม่พูดเปล่าเธอใช้มือข้างที่กอดสะโพกเดน่าเปลี่ยนมาจับขาเดน่าข้างที่พาด อยู่ช่วงเอวให้แน่นขึ้น พร้อมกับกดนิ้วที่ทั้งสาม ที่อยู่ในช่องสวาทลงไปจนสุด “อาส์....................................................” เสียงร้องของมดดังขึ้น เดน่า ไม่รอช้าเธอใส่แรงทั้งหมดของเธอลงไปยังแขนเพื่อให้มีแรงในการกระแทกเข้าไป ให้มากที่สุด เดน่าใช้แรงกระแทกเข้าไปแรงขึ้น แรงขึ้น แรงขึ้น เรื่อย ๆ ใบหน้าของมดที่วางอยู่ที่ไหล่เธอเงยหน้าขึ้นด้วยจากความเสียว ความรุนแรง ที่เดน่าถาโถมใส่ ไรฟันสีขาวที่กัดริมฝีปากไว้เริ่มมีเลือดซึมออกมา “ร้องสิ ร้องออกมาสิ ๆ ร้องออกมาดัง ๆ อยากได้ยิน” เดน่าพูดกระตุ้นอารมณ์มด พร้อมกับใส่แรงให้หนักเพิ่มขึ้นเข้าไปอีก มดพยายามสกัดกั้นเสียงไม่ให้ออกมา เพราะเธอรู้ดีว่าถ้ามันเล็ดลอดออกมามันคงเป็นเสียงที่ดังมาก แต่สุดท้ายเธอก็ทนไม่ไหว “อาส์ ………อะ…………” เสียงที่เปล่งออกมานั้นเริ่มดังขึ้นเรื่อย ๆ ตามแรงที่มดใส่เข้าไป ร่างกายเดน่า สั่นไหวไปตามจังหวะการกระแทกที่ร้อนแรง รุนแรง ที่เดน่ากระแทกใส่ลงมาไม่ยั้ง ใบหน้าของมดหงายขึ้นเหมือนพยายามที่จะเปล่งเสียงออกมาให้เต็มที่สมกับความ รุนแรงนั้น ใบหน้าที่เต็มไปด้วยเหงื่อ แสดงถึงสีหน้าเหยเกที่แสดงออกมาจากความเสียวที่ใกล้จะถึงขีดสุด “อาส์ .....ยะ....อย่...าง....นี้สิ อาส์.....” สุดท้ายร่างกายของมดก็เกิดอาการเกร็งช่องสวาทตอดรัดนิ้วของเดน่า “คุณนี่เวลาส่งเสียง ช่างเซ็กซี่จัง” เดน่าชมมดที่แทบจะหมดแรง นิ้วของเดน่ายังคาอยู่ น้ำรักไหลลงมาจนเต็มมือของเดน่า “ดูสิน้ำยังไม่หยุดไหลเลย” เดน่าพูดหยอกล้อมด “ก็ใครละที่ทำให้มันไหลอย่างนี้” มดตอบกลับไปขณะที่ยังหายใจหอบอยู่ “อืม งั้น เดี๋ยวจะรับผิดชอบเองก็ได้” เดน่าไม่พูดเปล่า เธอกำลังจะดึงนิ้วออกแต่มดเอามือจับแขนของเดน่าไว้ “ฉะ……….ฉันยังอยากให้มันไหลอีก” ใบหน้าของมดแดงขึ้นทันทีเมื่อเธอพูดขึ้น “จริงเหรอ” เดน่า ถามตอบกลับยิ้ม ๆ กับท่าทางของคนตรงหน้า มดพยักหน้ารับ “ยังมีวิธีอื่นที่ทำให้ไหลได้อีกเยอะ” เดน่าตอบกลับ เธอค่อย ๆ ดึงนิ้วออก น้ำรักเปรอะเปื้อนเต็มที่มือของเธอเดน่าใช้ร่างกายของเธอยืนเบียดมดไว้ เดน่าใช้นิ้วที่เลอะน้ำรักนั้นใส่เข้าไปในปากของมดให้เธอลิ้มลอง มดใช้ลิ้นของเธอค่อย ๆ ลิ้มเลียที่นิ้วมือของเดน่า “ตรงที่ข้างล่างละใครจะรับผิดชอบ” มดยังคงแกล้งถามเดน่าต่อ เพราะเธอยังอยากให้บทรักเกิดขึ้นอีก “ใครเป็นคนทำก็ต้องรับผิดชอบสิ แต่มันยังไม่ใช่ตอนนี้” เดน่าตอบกลับ เธอดึงมดไปที่เตียงให้นั่งลง พร้อมกับใช้ริมฝีปากบางประกบเข้าริมฝีปากมดอย่างเร่าร้อน ดูดดื่ม เดน่าดันลิ้นของเธอเข้าไปควานหาความหอมหวานจากมด ลิ้นร้อนของสองสาวตวัดรัดเกี่ยวกัน เดน่าค่อย ๆ ถอนริมฝีปากออกแต่ลิ้นของมดยังคงรั้งลิ้นของเดน่าไว้ “ใจเย็น ๆ สิ ค่ะ” เดน่าตอบ เดน่าลุกขึ้นยืน เธอเดินไปเปิดลิ้นชักหัวเตียง เธอหยิบของเทียมออกมา มันเป็นแบบที่มีทั้งสองด้าน เดน่ายื่นสิ่งที่เธอเอาออกมาให้กับมด “ใส่ให้หน่อยสิ” มดรับสิ่งนั้นมาเธอมองมันและอมยิ้มออกมา เดน่านั่งลงที่เตียงแผ่นหลังของเธอพิงอยู่ที่หัวเตียง เดน่าค่อย ๆ อ้าขาของเธอออก เพื่อเป็นการเชิญชวนมดให้ทำในสิ่งที่เธอต้องการ “ก็ได้เดี๋ยวจะใส่ให้” มดตอบกลับการท้าทายของเดน่า ก่อนที่มดจะลงมือ นั้น มดรีบซุกใบหน้าของลงไปบนเนินสวาท เธอใช้ลิ้นเลียที่ติ่งเสียว วนไปวนมา “อืม……อาส์ .........อย่...าง....นี้สิ อาส์.....” เดน่าครางด้วยความพอใจในการกระทำของมด เดน่าแยกขาตัวเองให้กว้างยิ่งขึ้น เธอแอ่นสะโพกเพื่อต้อนรับการมาเยือนของลิ้นร้อน ที่กำลังหยอกล้อกับเนินสวาทที่ เต็มไปด้วยน้ำรักที่ไหลออกมาชโลมเพิ่มความหล่อลื่น ให้การต่อสู้ครั้งนี้ไหลลื่นไปได้ดี มดไม่รอช้า เธอใช้ของเทียมอีกด้านหนึ่งดันใส่เข้าไปในช่องสวาทของเดน่า โดยไม่ยั้ง “สวบ” “โอ้ย!” เดน่าส่งเสียงเมื่อมีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในร่างกายของเธออย่างรวดเร็วใบ หน้าที่แสดงออกถึงความเสียวที่ท้องน้อยจี๊ดขึ้นมาในทันที “แกล้งกันใช่ไหม” เดน่าถามมด เมื่อเธอมองที่ใบหน้ามด ที่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้มที่พอใจกับการกระทำของเธอ “ก็ใครอยากแกล้งใครก่อนละ” มดตอบกลับแบบยิ้ม ๆ เดน่าดึงใบหน้ามดเข้ามาใกล้ ๆ แล้วใช้ปากของเธอกัดซ้ำไปที่ริมฝีปากที่มีเลือดซึมของมดไปทีนึง “โอ๊ะ นี่แกล้งกันนิ” แต่ไม่ทันที่มดจะว่าต่อ เดน่าก็จูบเข้าไปที่ริมฝีปากนั้นอีกครั้งอย่างหนักหน่วง เนิ่นนาน มดได้โอกาสแกล้งเดน่ากลับคืนบ้าง เธอขยับสิ่งแปลกปลอมที่ยังค้างอยู่ที่ช่องสวาทนั้น ทำให้เดน่าต้องถอนริมฝีปากออกพร้อมกับเสียงครางที่ไม่เป็นศัพท์ “อาส์...............” มดไม่รอช้าเธอไม่อยากเสียเวลาอีกต่อไป มดใช้อีกมือข้างหนึ่งจับแท่งนั้นให้คงที่แล้วเธอก็ค่อยใช้อีกข้าง ค่อย ๆ สอดใส่เข้าไปในช่องสวาทของเธอ ตอนนี้ทั้งสองสาวนั่งอยู่ในท่าซ้อนกันอยู่ ทั้งสองสาวค่อย ๆ โยกสะโพกเข้าหากัน “อือ……ๆ..ๆ.ๆ…ๆ…ๆ…อ้าส์……………………” เสียงของทั้งสองสาวดังสลับกันไปมา ต่างคน ต่าง โยกสะโพกใส่กันอย่างรุนแรง ทำให้แท่งที่อยู่ตรงกลางระหว่างสองสาวมีประสิทธิภาพมากขึ้น มดก้มลงจูบเดน่าอย่างดูดดื่ม ขณะที่เธอยังโยกสะโพกของเธอไม่หยุด เดน่าก็ตอบสนองกลับไปเช่นกันลิ้นเกี่ยวพันหมุนเวียนกันอยู่ในปากของทั้งคู่ จูบที่รุนแรงของทั้งคู่ทำให้เลือดที่ซึมอยู่ริ่มฝีปากของมดค่อย ๆ ไหลปนลงมากลับน้ำลายที่ไหล เยิ่มออกจากมุมปากที่ทั้งสองสาวต่างหยิบยื่นให้กัน มดยังกระแทกสะโพกของเธออย่างไม่ยอมรามือ เดน่า ก็กระแทกสวนกลับไปเหมือนกัน มดใช้มือทั้งสองข้างของเธอช้อนที่สะโพกของเดน่าเพื่อให้กระชับและมั่นคงใน การที่เธอจะกระแทกสะโพกเพื่อให้แท่งที่อยู่ตรงกลางสองสาวเข้าไปให้ลึกที่สุด เดน่าก็ตอบรับกลับไปเช่นกัน มือทั้งสองข้างของเดน่าขยำบีบ เคล้น ปทุมถันของฝ่ายตรงข้าม แบบไม่ยั้ง “อาส์……เร็ว ๆ เข้า เร็วเข้า เร่งอีก แรงอีก……….” เดน่าถอนริมฝีปากออกจากริมฝีปากมดพร้อมกับเร่งให้มดกระทำให้รุนแรงขึ้นอีก มดยิ่งได้ใจเธอยิ่งเร่งโยก กระแทก สะโพกของเธอให้หนักเข้าไปเพราะเธอก็ใกล้ที่จะถึงที่สุดแล้ว “อาส์………มะ……ไม่ไหวแล้ว………………” เดน่าถึงจุดสุดยอดของเธอ ร่างกายของเดน่าเกิดอาการเกร็งในทันทีเธอหงายหลังนอนแผ่ไปกับหัวเตียง เมื่อมดเห็นอาการของเดน่า เธอก็รีบเร่งโยกของเธอให้เร็วขึ้น จนเธอเกิดอาการเช่นเดียวกับเดน่า มดล้มทับไปบนตัวของเดน่า ใบหน้าของเธอวางอยู่ตรงหน้าอกของเดน่าที่กระเพื่อมขึ้นด้วยแรงหอบ ทำให้มดหมั่นเขี้ยวเธอกัดที่ยอดปทุมถันสีชมพูของเดน่าอย่างแรง “โอ้ย” เอาอีกแล้วนะแกล้งกันอีกแล้ว” เดน่าพูดเมื่อรู้สึกเจ็บแปล๊บที่หัวปทุมถันของเธอ เธอมองที่ยอดปทุมถันของเธอเห็นมีเลือดซึมออกมา “แก้แค้นเธอไงที่ทำให้ฉันต้องเลือดไหล” มดเงยหน้าขึ้นมาพูดกับเดน่าแล้วเธอก็ใช้ลิ้นเลียที่ยอดปทุมถันข้างที่เธอ เพิ่งจะกัดไปเพื่อซับเลือดที่ซึมออกมา “น้ำไหลออกมาทั้งคู่อย่างนี้ใครจะเป็นคนรับผิดชอบละ” มดเงยหน้าจากยอดปทุมถันขึ้นมาพูดกับเดน่า เดน่ายิ้ม "เดี๋ยวจัดการเอง" เดน่าค่อย ๆ ดันตัวขึ้น มดก็ขยับตัวขึ้น แท่งตรงกลางยังค้างอยู่ระหว่างช่องสวาทของทั้งคู่เดน่าค่อยถอนตัวออกจากแท่ง สวาทนั้น ทำให้น้ำที่อยู่ไหลออกมาเยอะกว่าเดิม เธอใช้มือของเธอดึงแท่งนั้นออกจากช่องสวาทของมดน้ำของมดก็ออกมามากเช่นกัน แล้วเธอก็ดันมดไปที่หัวเตียง มดมองเดน่าด้วยสายตาสงสัยว่าเดน่ากำลังจะทำอะไร เดน่าจับมดอ้าขาออก เดน่าใช้เนินสวาทของเธอเข้าไปสีกับเนินสวาทของมด มดค่อยๆ โยกสะโพกของเธอเบา ๆ เพื่อให้จุดเสียวของทั้งสองเบียด เสียดสี กัน และแล้วทั้งสองสาวก็ถึงสวรรค์พร้อมกันอีกครั้ง “ตอนนี้ น้ำของเราทั้งสองรวมกันแล้วนะต้องช่วยกันรับผิดชอบ” เดน่าบอกมด พร้อมกับยิ้มแบบเจ้าเล่ห์ใส่มด มดยิ้มอย่างรู้ทันว่าต่อไปต้องทำอะไรต่อไปอีก

แรงแค้น แรงเสน่หา 5

แรงแค้น แรงเสน่หา ตอนที่ 5 ลุ่มหลง โดย ใจร้าย ความเดิมตอนที่แล้ว ทั้งสองสาวยืนกอดก่ายกัน ร่างกายของทั้งคู่ชุ่มฉ่ำไปด้วยเหงื่อ ใบหน้าของมด ซบลงไปตรงซอกคอของเดน่า ไม่มีคำพูดใด มีแต่เสียงหายใจหอบถี่ ๆ ของทั้งคู่ เดน่าดึงนิ้วออกมาจากน้องสาวของมดทันที มดสะดุ้งอีกครั้ง เดน่าก้มลงไปเลียน้ำรักของอาจารย์สาวที่ไหลเป็นทาง เดน่าใช้ลิ้นเลียทำความสะอาดให้กับน้องสาวของอาจารย์ที่ตอนนี้ยืนหมดเรี่ยว แรง ไม่มีกำลังจะต่อสู้ต่อ เดน่ายังยืนเบียดกับมด เดน่าจัดการติดกระดุมให้ตัวเอง แต่งตัวให้เรียบร้อย เดน่าจึงหันไปดึงชั้นในตัวน้อยของมดขึ้นมาใส่ให้ เช็ดเหงื่อที่ใบหน้าอย่างเบามือ เช็ดรอยลิปสติกที่เปรอะเลอะเทอะ ใช้มือเขี่ยไรผมที่ปกลงมาที่ใบหน้า จัดแต่งเสื้อผ้าของมดให้เข้าที่ ก่อนที่เดน่าจะเปิดประตูห้องน้ำออก เดน่าจูบที่หน้าผากมดเบา ๆ พร้อมกับพูดว่า “ก็แค่เนี๊ยะ ผู้หญิงร่านสวาท” เดน่าพูดพร้อมกับสแหยะยิ้มด้วยสายตาดูถูก ***************** “เจ็บใจ ๆ ๆ ๆ” มดสบถกับตัวเอง พร้อมกับทุบกำปั้นลงบนที่นอน เมื่อกลับมาถึงบ้าน เธอไม่น่าพลาดท่าให้กับเดน่า เลย มดล้มตัวลงนอนหงายบนที่นอนของเธอ “บ้าที่สุด บ้าที่สุดยัยเด็กบ้า” มดตะโกนออกมาสุดเสียง มดหลับตาลง ภายในสมองที่วนเวียนอยู่นึกถึงแต่เรื่องเหตุการณ์เมื่อกลางวัน มดลุกขึ้น เธอเดินไปโทรศัพท์ หาสุธี “สุธี พูดครับ” เสียงตอบรับมาจากปลายสายโทรศัพท์ “สวัสดีค่ะ มดค่ะ” “ครับคุณ มด ” สุธีตอบรับกลับ น้ำเสียงแสดงความดีใจที่หญิงสาวโทรมาหาเขา “เอ่อ.... มดอยากจะชวนคุณสุธี ออกไปดื่มหน่อยนะค่ะ จะสะดวกไปด้วยกันไหมค่ะ” มดถามด้วยน้ำเสียงปนเกรงใจ แต่สีหน้าที่แสดงออกมานั้นเธอรู้อยู่เต็มอกว่าไม่มีทางที่สุธี จะปฏิเสธอย่างแน่นอน “ครับ ได้เลยครับ ผมสะดวกอยู่แล้ว เจอกันที่ไหนดีละครับ” สุธี รีบตอบกลับ “อืม ... ที่ไหนก็ได้ค่ะ มดไม่ค่อยรู้จักที่เที่ยวซักเท่าไหร่ แล้วแต่คุณสุธี ละกัน” “ได้ครับ เอาอย่างนี้รอสักครึ่งชั่วโมงนะครับผมไปรับคุณมด ที่คอนโดนะครับ ครับ ๆ ผมจะรีบไป” “ค่ะ มดจะรอค่ะ” มด รีบเดินเข้าไปอาบน้ำแต่งตัว เธอเลือกเสื้อผ้าที่เธอคิดแล้วว่าสุธีเห็นต้องมองเธอด้วยความลุ่มหลง เธอเลือกเสื้อเป็นผ้าเบาและบางสีเทาอ่อนทำให้มองเห็นรูปเสื้อชั้นในที่เธอจง ใจใส่เป็นสีดำและเห็นหน้าอกที่เต็มเสื้อชั้นในจนเนินอกล้นออกมาและกระโปรง เธอเลือกกระโปรงที่สั้นเหนือหัวเข่า 1 คืบ ส่วนรองเท้าเธอเลือกรองเท้าส้นเข็มพันข้อถึงช่วงหน้าขา เธอคิดว่าเสื้อผ้าชุดนี้ทำให้เธอดูสะดุดตาของใคร ๆ โดยเฉพาะสุธี เธอเลือกแต่งหน้าด้วยโทนสีเข้ม ออกเปรี้ยวจี๊ด คืนนี้เธอต้องออกไปพบเจอสิ่งภายนอกบ้าง ไม่อย่างนั้นเธอก็จะเฝ้าวนเวียนคิดถึงเหตุการณ์เมื่อกลางวัน มดลงมารอสุธี ที่ลอบบี้ของคอนโด เธอยังไม่อยากให้สุธี ขึ้นไปบนห้องของเธอ เธอคิดเสมอว่า ห้องของเธอจะให้คนเข้าห้องนี้ได้ถ้าไม่ใช่ญาติ พี่น้อง หรือเพื่อนที่สนิทจริง ๆ เมื่อครั้งที่เธออยู่ที่เยอรมัน เธอก็ไม่เคยพาผู้ชายที่คบด้วยไปนอนที่ห้องของเธอแม้แต่มาร์ค อย่างมากก็ได้ส่งแค่หน้าห้อง มด ออกจากลิฟต์ พบสุธีที่นั่งรออยู่ที่ล็อบบี้พร้อมกับดอกกุหลาบแดงช่อใหญ่ เมื่อสุธีเห็นมดเขาต้องตะลึงในความสวย เซ็กซี่ของมดที่จงใจเปิดเผยผิวกาย “คืนนี้ คุณมด สวยจังครับ” สุธีรีบชมทันที เมื่อเขาเดินมารับมด “ขอบคุณค่ะ” มดตอบรับกลับคมชม ของสุธี พร้อมกับส่งยิ้มหวานให้ “รีบไปกันดีกว่านะค่ะ” มด พูดกับสุธี เมื่อเธอเห็นสุธียังยืนมองเธออยู่ไม่วางตาและไม่มีที่ท่าว่าจะขยับไปไหน “ครับ ๆ” สุธี รีบรับคำแก้เก้อ เมื่อเขาเห็นหญิงสาว ยืนอมยิ้ม พร้อมกับขำในท่าที่ของเขา รถเบ๊นส์คันงามแล่นออกจากคอนโดของ มด มาจอดที่หน้าผับชื่อดังแห่งหนึ่ง ผับนี้เป็นที่นิยมของผู้มีอันจะกิน ที่ลานจอดรถจึงมีแต่รถยี่ห้องแพง ๆ รุ่นใหม่ ๆ จอดอยู่เต็มลาน สุธี จอดรถเรียบร้อยเขารีบลงรถ มาเปิดประตูให้มด “ชอบไหมครับ ที่นี่เป็นที่ ๆ ใหญ่ที่สุดแล้วก็เป็นที่ฮิตกันมากด้วย ต้องเป็นคนที่เป็นสมาชิกเท่านั้นถึงจะเข้าได้” สุธี สาธยายเพื่อให้มดทราบถึงความรวยของเขา โดยที่เขาไม่รู้เลยว่า มดก็เป็นเศรษฐีคนนึง มดนั้นเคยมาที่นี่แล้วแต่นั่นก็นานมาแล้ว ก่อนที่เธอจะไปเยอรมัน มดยิ้มตอบแต่ไม่ได้พูดอะไรเพราะเธอไม่ต้องการให้สุธีเสียหน้า “สงสัยนายสุธี ต้องเป็นเศรษฐีใหม่แน่ๆ” มดคิดในใจ ขณะที่เธอมองท่าทีความอวดรวยของสุธี “เชิญครับ” บริกร เปิดประตูให้มดกับสุธีเข้าไปในผับ ในขณะที่เธอเดินเข้าไปในผับ มีผู้ชายหลายคนที่หันมามองเธอ สุธีพยายามที่จะเบียดเข้ามาใกล้มด เพื่อให้ใครที่มองมด หรือที่คิดจะเข้ามาจีบนั้น ได้รู้ว่ามดนั้นมีเจ้าของแล้ว มดไม่ได้แสดงท่าทีจะถอยหนี แต่สายตาของมดก็สนุกสนานไปกับงานในผับ “คืนนี้คนเยอะสงสัยเขามีงานปาร์ตี้กัน” สุธีกระซิบที่ข้างหูมด เพื่อให้ได้ยิน “ดีจัง น่าสนุกดีค่ะ ตั้งแต่กลับมามดยังไม่มีโอกาสไปงานปาร์ตี้เลย” มดกระซิบที่ข้างหูสุธี ทั้งสองพากันเดินไป หาที่นั่ง เมื่อมดนั่ง สุธี ก็เรียกบริกร “สวัสดีครับ คุณสุธี” บริกรกล่าวสวัสดีกับสุธี “อือ” สุธีตอบรับกลับแบบไม่ให้เสียมารยาท “รับอะไรดีครับ” บริกรถามกลับสุธี “ดื่มอะไรดีครับ คุณมด” สุธีหันไปหามดซึ่งกำลังเพลิดเพลินกับการฟังเพลง “มด ขอมาตินี่ละกันค่ะ” “มาตินี่แก้วนึง บรั่นดีแก้วนึง วันนี้ทำไมคนเยอะ” สุธีหันไปสั่งกับบริกรพร้อมกับถามถึงเหตุการณ์ในผับคืนนี้ที่ดูครึกครื้น “อ๋อ วันนี้มีงานเลี้ยงวันเกิดลูกเจ้าของผับครับ ก็เลยมีการจัดปาร์ตี้ให้กับแขกที่มาเที่ยววันนี้ครับ” บริกร ตอบพร้อมกับเดินเลี่ยงออกไป มดกับสุธี นั่งคุยกันไปพร้อมกับดื่มเครื่องดื่ม อย่างครื้นเครง เพลงเริ่มจากช้า ๆ เริ่มเร็วขึ้นเรื่อยๆ เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศที่สนุกสนานขึ้นเรื่อย ๆ “สวัสดีครับแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน” เสียงของดีเจดังขึ้น “ต้องขออภัยด้วยนะครับ ที่รบกวนความสนุกของทุกท่าน วันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดของลูกสาว เจ้าของผับ……….. เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองวันนี้ทางผับของเรา ได้จัดปาร์ตี้ เพื่อให้ความบันเทิงกับพวกท่าน ขอให้ทุกท่านร่วมงานปาร์ตี้ครั้งนี้ให้สนุกนะครับทุกคน” เสียงดีเจพูดจบ เสียงเฮของผู้ที่มาเที่ยวต่างปรบมือเพื่อแสดงความยินดี เสียงดนตรีดังต่อ “คุณมด ออกไปเต้นรำด้วยกันนะครับ” สุธีเอ่ยปากชวนมด เพื่อที่จะเขาจะได้มีโอกาสใกล้ชิดกับมดมากกว่านี้ “ค่ะ” มดรีบตอบรับ เพราะเธอก็อยากออกไปเต้นอยู่แล้ว ทั้งสองเดินจูงมือกันออกไป ที่ยังฟลอเต้นรำ มดและสุธีเต้นรำกันอย่างสนุกสนาน ทั้งมดและสุธีเต้นรำกันคลอเคลียกันไปมา ใกล้ชิดกัน ร่างกายแทบจะเบียดชิดกัน “สวัสดีค่ะ ทุกคน” เสียงดีเจดังขึ้นมาอีกครั้งแต่ครั้งนี้เป็นเสียงผู้หญิง เสียงผู้คนต่างปรบมือต้อนรับดีเจคนนี้ เพราะทุกคนต่างรู้ดีว่าดีเจคนนี้ ก็คือเจ้าของวันเกิดนั่นเอง มดแหงนหน้าขึ้นไปมองบนเวที “เดน่า” มดอุทานออกมาเบา ๆ “เดน่า ๆ ๆ อีกแล้วเหรอนี่” มดสบถออกมาเบา ๆ “มีอะไรเหรอครับ” สุธีถามกลับเมื่อได้ยินมดพูดพึมพำขึ้นมา “ไม่มีอะไรค่ะ” มดตอบแก้เก้อ “วันนี้ขอให้เพื่อน ๆ ทุกคนสนุกให้เต็มที่นะค่ะ วันนี้ฟรีทุกรายการค่ะ” เดน่าตะโกนออกมา เพราะเธอก็เริ่มมีอาการเมา แล้ว เสียงเฮของทุก ๆ คนดังลั่นอีกครั้งนึง เสียงเพลงจากเร็วกลายเป็นช้า เดน่าเดินลงมาที่ฟลอร์เต้นรำ เดน่าแต่งกายด้วยชุดแซกสีแดงเพลิงโนบรา คว้านลึกด้านหน้าเนื้อผ้าแนบไปตามลำตัว เผยให้เห็นเนินอกขาวเนียนและสัดส่วนของเธอ ด้านหลังคว้านลึกลงไปเกือบถึงบั้นท้าย เผยผิวขาวเนียนดูเซ็กซี่และยั่วยวนยิ่งนัก เธอเต้นรำกับชายหนุ่มคนนึงซึ่งเข้ามาขอเธอเต้นรำ ทำให้เดน่า หันไปเห็นว่า มีสาวหน้าตาคุ้นเคยกำลังเต้นรำกับชายหนุ่มอีกคนนึงอยู่ “มด” เดน่าเอ่ยชื่อมดออกมาเบา ๆ ในการเต้นรำในครั้งนี้จะมีการสลับสับเปลี่ยนคู่เต้นรำกันไปเรื่อย ๆ จนเดน่า ได้มาจับคู่กับมด “สวัสดีค่ะ อาจารย์” เดน่าทักทายมดเมื่อทั้งสองหันมาเต้นรำด้วยกัน พร้อมกับรวบมือเข้าไปโอบเอวเข้ามาแนบชิดกับตัวเธอ หน้าอกแนบชิดกัน สัมผัสได้ถึงลมหายใจที่ใกล้ชิดกัน มดไม่ตอบรับกลับ แต่มือทั้งสองข้างของมดก็โอบเข้ารอบคอของเดน่า “เธอมาทำอะไรที่นี่ เธอยังเป็นนักศึกษาอยู่นะ แล้วท่าทางดูเธอคงจะเมาแล้วด้วย กลิ่นเหล้าเต็มไปหมด” มดพูดต่อว่าเดน่ากลาย ๆ “ก็ที่นี่ ชั้นเป็นเจ้าของนี่ และนี่ก็งานวันเกิดของชั้นด้วย ยังไงก็ขอบคุณนะที่มาร่วมงาน” เดน่าบอกให้มดรู้ “งั้นก็สุขสันต์วันเกิดนะ” มดอวยพรให้อย่างไม่เต็มใจนัก “ขอบคุณค่ะ แล้วที่มาเที่ยวอย่าบอกนะว่านอนไม่หลับ คิดถึง…..” เดน่าตอบกลับ พร้อมกับถามกลับไปกวน ๆ ส่งสายตาหวานให้กับมด มดได้เห็นสายตาหวานของเดน่าแล้ว หัวใจเธอเริ่มเต้นแรง ยิ่งได้กลิ่นแอลกอฮอล์ในตัวเดน่าแล้วผสมกับแอลล์กอฮอล์ ที่เธอดื่มเข้าไปนั้น ทำให้ร่างกายเธอร้อนวูบวาบขึ้นมา ช่วงเปลี่ยนคู่เต้นรำพอดี มดได้เปลี่ยนไปเต้นคู่กับสุธีเหมือนเดิม “เฮ้อ!” มดถอนหายใจทันที เธอรู้ตัวดีว่าถ้าเธอยังเต้นคู่กับเดน่าไปเรื่อย ๆ เธอต้องห้ามใจไม่อยู่แน่ “ใช่สิ เราจะต้องทำให้ใยเด็กนั่นได้รู้ว่าเราไม่ยอมแพ้ ไม่สนใจยัยเด็กนั่นด้วย” มดคิดในใจพร้อมกับมาให้ความสำคัญกับสุธี เธอเต้นรำกับสุธีอย่างใกล้ชิด เธอเอามือโอบรอบคอของสุธี เบียดร่างกายของตัวเองเข้าเบียดชิดกับอกของสุธี สุธีเองก็เอามือโอบรอบเอวของมด ดึงมดให้เข้ามาใกล้ชิดเขามากยิ่งขึ้น พร้อมกับพูดหัวเราะต่อกระซิกกันอย่างสนุกสนาน บางทีแทบจะจูบกัน หรือหอมกัน หน้าอกที่ได้รูปของมดนั้นเบียดกับร่างกายที่บึกบึนของความเป็นชายของสุธี สุธีกอดมดแน่นขึ้น มดรับรู้ได้ถึงความต้องการของสุธี แต่มดก็ยังเฉยอยู่เพื่อไม่ให้สุธีคิดว่าเธอง่ายเกินไป การกระทำทุกอย่างของมดกับสุธี นั้นอยู่ในสายตาเดน่าตลอด สักพักเดน่าก็เดินออกไปจากฟลอร์เต้นรำ หายออกไป “นี่ก็ดึกมากแล้ว กลับบ้านกันดีกว่าค่ะ พรุ่งนี้มีสอนด้วย” มดพูดชวนสุธีกลับบ้าน มด หันหลังกลับไปที่ฟอล์เต้นรำ พร้อมกับมองหาเดน่า ซึ่งเธอไม่เห็นเดน่าตั้งแต่แยกกันจากที่เต้นรำ “ครับ” สุธีตอบรับ พร้อมกับจูงมือมดพากันเดินออกมา ทั้งสองพากันมาขึ้นรถที่ลานจอดรถ เมื่อรถแล่นมาถึงคอนโดของมด “ขอบคุณนะค่ะ ที่พามดไปเที่ยววันนี้มดสนุกมากเลย” “ไม่เป็นไรครับ สำหรับคุณมดแล้วผมเต็มใจ ไว้คราวหน้าคุณมดอยากไปเที่ยวไหนบอกผมแล้วผม จะพาคุณมดไปเที่ยวอีก” “ค่ะ” มดตอบรับ พร้อมกับยื่นหน้าเข้าไปหอมแก้มสุธี “เป็นของขวัญที่พามดไปเที่ยวค่ะแล้วเจอกันพรุ่งนี้นะค่ะ” มดพูดพร้อมกับเปิดประตูรถลงไป เธอโบกมือให้กับสุธี เมื่อเขาขับรถออกไป “ว้าย!……….” เสียงมดร้องดังขึ้น มีผู้ชาย 5 คนใส่เสื้อสีดำ ใส่หมวกไหมพรมสีดำคลุมหน้า เข้ามาอุ้มตัวเธอ “ช่วยด้วย! ช่วยด้ว……..ย” มดร้องขอความช่วยเหลือพร้อมกับดิ้นรน “ปึ้ก” มดโดนผู้ชาย 1 ใน 5 คนนั้น ต่อยที่ท้องจนเธอจุก ไม่มีเรี่ยวแรงที่จะร้องขอความช่วยเหลือ มีผ้าเช็ดหน้าผืนนึงมาโปะที่ใบหน้าของเธอ หลังจากนั้นสติสัมปชัญญะของเธอก็ขาดลง “โอย ปวดหัวจัง” เสียงมดครวญครางออกมาเมื่อเธอเริ่มรู้สึกตัว มดค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา สิ่งที่เธอเห็นนั้นไม่ใช่ที่ ๆ เธอคุ้นเคย เธอเอามือทั้งสองข้างกุมศรีษะของเธอ มดค่อย ๆ ดันตัวลุกขึ้นนั่ง เธอเริ่มลำดับเหตุการณ์ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ “เราโดนจับตัวมา” มดตะโกนออกมาด้วยเสียงที่แหบพร่า “ใช่เมื่อคืนเราโดนจับตัวมา” เมื่อมดเริ่มคิดได้เธอรีบสำรวจตัวเธอเองว่า เธอโดนทำร้ายร่างกายอะไรบ้าง มดค่อยโล่งใจเมือเธอเห็นว่าเสื้อผ้าของเธอที่นุ่งมายังอยู่บนร่างกายของเธอ ครบ มดเอามือกุมที่ท้องของเธอ เพราะเธอรู้สึกเจ็บขึ้นมาจี้ด ๆ จากการเธอโดนชกที่ท้อง มดเริ่มมองสำรวจสิ่งรอบ ๆ ตัว รอบ ๆ ห้อง เป็นห้องไม้สีน้ำตาลอ่อน ๆ ภายในห้องมีทั้งตู้เสื้อผ้า โทรทัศน์ อุปกรณ์เครื่องใช้ต่าง ๆ ครบครัน ตกแต่งเข้ากันได้เป็นอย่างดี เธอมองออกไปนอกหน้าต่าง สีน้ำตาลเข้ม มีผ้าม่านสีฟ้าอ่อน ๆ ปลิวไสวไปตามลม มีแสงแดด อ่อน ๆ ลอดเข้ามา มดเดินตรงไปที่หน้าต่าง เธอมองออกไปมีแต่ต้นไม่เขียวขจี “เราอยู่ที่ไหนเนี่ย” มดพูดออกมา มดค่อย ๆ เดินมาที่ประตู เธอค่อย ๆ เปิดประตูออก มดค่อย ๆ เดินออกมา เธอมองไปรอบบ้าน เป็นบ้านไม้สีน้ำตาลอ่อน ทั้งโซฟา โต๊ะอาหาร จัดเรียงไว้อย่างสวยงาม มีเคาท์เตอร์สำหรับเครื่องดื่ม ทุกอย่างจัดไว้อย่างสวยงาม เหมือนบ้านพักตากอากาศ มดเดินออกมาหน้าบ้าน เธอพบกับสวนดอกไม้ ที่จัดอย่างสวยงาม ผีเสื้อหลากหลายสีสันบินฉวัดเฉวียนไปมา “สวัสดีค่ะ ตื่นแล้วเหรอค่ะ” มีผู้หญิงคนนึงเข้ามาทักทายเธอ “เธอเป็นใคร แล้วฉันอยู่ที่ไหนเนี่ย” มดรีบถามกลับทันที “ดิฉัน ให้คำตอบคุณไม่ได้หรอกค่ะ แต่คนที่จะให้คำตอบคุณได้ อยู่ที่ลำธารด้านหลังค่ะ” ผู้หญิงคนนั้นตอบกลับมดพร้อมกับเดินไปอีกทางนึง มด เดินอ้อมไปทางด้านหลังเธอค่อย ๆ ได้ยินเสียงน้ำไหลดังขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเธอเดินมาถึง มดได้เห็นน้ำตก อันสวยงามไหลเอื่อย ๆ ได้ยินเสียงนกเจื้อยแจ้ว ฟังแล้วไพเราะ มดค่อย ๆ เดินไปที่น้ำตก สายตาเธอก็หันไปเห็นหญิงสาวผิวขาวสวย ผมสีทอง แหวกว่ายอยู่ในลำธาร แสงจากดวงอาทิตย์ที่ลอดผ่านต้นไม้ส่องมายังเธอคนนั้น ร่างกายที่แหวกว่ายไปมา ไร้อาภรณ์ใด ๆ ปกปิดร่างกาย แสงแดดสัมผัสกับผิวขาวของหญิงสาว ทำให้เหมือนนางเงือกน้อยที่แหวกว่ายไปมา “เดน่า” มดพึมพำ “ตื่นแล้วเหรอค่ะ” เสียงทักทายจากสาวน้อยที่กำลังแหวกว่ายอยู่ “เธอนี่เองตัวการ” มดตอบกลับ คำทักทายนั้น “เธอต้องการอะไรถึงจับตัวชั้นมาที่นี่” มดถามเดน่าทันที เดน่าค่อย ๆ ว่ายน้ำมาใกล้ ๆ ที่มดยืนอยู่ เธอค่อยเดินขึ้นมาจากน้ำ ทำให้มดเห็นทุกสัดส่วนของเดน่าอย่างเต็มตาอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ใบหน้าที่สวย ลำคอยาวระหงษ์ ผิวขาวเนียน หน้าอกที่ใหญ่ได้รูปตั้งชัน เอวที่คอดสมส่วน สะโพกที่กลมมน ไรขนสีทองที่ปกคลุมเนินสวาท เรียวขาที่ยาวสมส่วน ทุกส่วนของร่างกายของเดน่านั้นฉาบไปด้วยหยดน้ำที่เกาะพราวไปตามตัว มดหน้าแดงขึ้นมาในทันที ทั้ง ๆ ที่เธอก็เคยมีสัมพันธ์สวาทกับเดน่ามาแล้ว แต่ทุกครั้งเธอไม่เคยเห็นเรือนร่างของเดน่าอย่างเต็มตา เดน่าเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้ามดเธอยกฝ่ามือทั้งสองข้างจับที่ใบหน้าของมด พร้อมกับก้มลงไปจูบที่ริมฝีปากมดเบา ๆ “ก็ไม่มีอะไรมาก ก็แค่อยากพามาเที่ยวเฉย ๆ ก็ได้ยินว่าตั้งแต่กลับมายังไม่ได้ไปเที่ยวไหน” เดน่า ตอบ “นี่เธอแอบฟังที่ชั้นคุยกับคุณสุธีเหรอ” “ไม่ได้แอบฟังซักหน่อยก็เผอิญได้ยินพอดี ก็เลยพามาเที่ยวซะเลย” เดน่าไม่ตอบเปล่า เธอค่อย ๆ ถอดเสื้อให้กับมด เสื่อตัวนอกของมด ค่อยๆ หลุดออก “นี่เธอจะทำอะไรเนี่ย” มดรีบถามกลับเมื่อมือของเดน่าเริ่มอยู่ไม่สุข “ก็ไม่ได้ทำอะไร ก็แค่อยากให้เล่นน้ำเป็นเพื่อนกันเท่านั้นเอง” เดน่าตอบ มือของเดน่าปลดบราตัวน้อยของมด ออกเผยให้เห็นหน้าอกขาวได้รูป กำลังพอดีของมด ที่ตั้งชูชัน เดน่าค่อยเบียดตัวเปลือยเปล่าของเธอเข้าหามด หน้าอกทั้งสองเบียดชิดกัน ปทุมถันของทั้งสองแนบชิดกัน เดน่าค่อย ๆก้มหน้าลากปลายลิ้น ของเธอจากลำคอขาวของมดลากลงมาเลียที่ยอดปทุมถันทั้งสองข้าง มือทั้งสองข้างของเดน่าค่อยเลื่อน ๆมาปลดกระโปรงของมดหลุดลง เดน่าใช้ปลายนิ้วเขี่ยชั้นในตัวน้อยร่วงลงมา เดน่าเงยหน้าขึ้นจากยอดปทุมถันทั้งสองข้าง มาสบตากับมด สายตาของเดน่าค่อย ๆสำรวจร่างกายของมด ผิวขาวเหลือง หน้าอกที่ได้ขนาดชูชันรอสัมผัส หน้าท้องที่แบนราบ ไรขนสีดำปกปิดที่เนินสวาทแต่พองาม หน้าจับต้องจริง ๆ เดน่า จุมพิตที่ริมฝีปากของมดเบา ๆ พร้อมกับจูงมือพากันเดินลงไปในลำธาร เดน่าค่อย ๆ พามดเดินลงไป ก้าวแรกของมดที่ลงไปในลำธารเธอต้องหยุดชะงักชั่วขณะกับน้ำที่เย็นมาก เดน่า สังเกตุได้ถึงกริยานั้น เธอหันมายิ้มให้มด “เย็นนิดเดียว เดี๋ยวก็ชินค่ะ” เดน่า หันกลับไปบอกมด เมื่อทั้งสองสาวลงมาในลำธารเต็มตัว ทั้งสองสาวต่างแหวกว่ายเล่นน้ำกันอยู่ในลำธาร ทั้งสองว่ายน้ำคลอเคลียกันไม่ห่าง เหมือนนางเงือกสาวที่แหวกว่ายเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน “หนาวจัง” มดพูดปากคอสั่น ในขณะที่หยุดอยู่ที่แอ่งของลำธารที่เหมือนสระว่ายน้ำเล็ก ๆ “หนาวเหรอค่ะ” เดน่าพูดพร้อมกับโอบมือทั้งสองข้างของตัวเองเข้าไปกอดมดเอาไว้แน่น “ดูสิปากสั่นเชียว” เดน่าพูดหยอกล้อมด พร้อมกับยื่นหน้าเข้าไปประทับริมฝีปาก เริ่มจากเบา ๆ และหนักหน่วงขึ้นเรื่อย ๆ จนเป็นการจูบอย่างดูดดื่มเร่าร้อนกลางลำธารที่เย็นฉ่ำ เดน่าค่อย ๆ ถอนริมฝีปากออกมา “ดีขึ้นไหมค่ะ?” เดน่าถามยิ้ม ๆ มดพยักหน้าพร้อมกับยิ้มตอบรับ เดน่าค่อยจูงมือมดจากกลางลำธารไปยังโขดหินใกล้ ๆ ที่มีแสงแดดส่องลอดใบไม้ลงมา หญิงสาวร่างกายเปลือยทั้งสองค่อย ๆ ก้าวขึ้นไปบนโขดหิน “นั่งรับแสงแดดตรงนี้สักพักนะค่ะ” เดน่าพูดกับมด เดน่านั่งมองดูใบหน้ามด ที่ตอนนี้หน้าตาซีดจากการหนาวสั่น เดน่าค่อย ๆ พิศที่ใบหน้าของมด มดสัมผัสได้ถึงสายตาที่จับจ้องมา มดหันหน้าไปเผชิญสายตากับเดน่า เสียงลำธารที่ไหลเอื่อย ประกอบกับเสียงนกในยามเช้าที่เจื้อยแจ้วขับขานแข่งกัน ผีเสื้อตัวน้อยที่บินวนไปวนมา แสงแดดที่สาดส่องลอดผ่านกิ่งไม้ระยิบระยับ ทำให้อารมณ์ของมดครุกกรุ่นขึ้นมาเลือดในกายค่อยๆ สูบฉีด จากใบหน้าที่ขาวซีดจากความหนาว ค่อย ๆ แดงระเรื่อขึ้น มดมองเห็นใบหน้าสาวฝรั่งคนนี้ ช่างมีเสน่ห์ยิ่งนักจากการที่ได้สัมผัสรสความหอมหวานจากเดน่าทั้งสามครั้ง มันทำให้เธอเฝ้าแต่คิดถึงและอยากได้สัมผัสแบบนั้นอีก เธอไม่เคยรู้สึกตื่นเต้นอย่างนี้มาก่อน มดรู้สึกได้ถึงหัวใจของตัวเองที่เต้นแรง เลือดสูบฉีดไปทั่วร่างกาย ความร้อนของร่างกายที่เริ่มทวีเพิ่มขึ้น ดวงตาสีเขียวน้ำทะเล ยิ่งมองยิ่งทำให้เหมือนต้องมนต์สะกด ริมฝีปากสีชมพู ตัดกับสีผิวของใบหน้าที่สวยเด่น ผิวที่ขาวสวยเรียบเนียนไปทุกสัดส่วน หน้าอกที่ใหญ่เต่งตึง เม็ดปทุมถันสีชมพู สะโพกที่เต่งตึง เนินสวรรค์ที่มีไรขนสีทองปกคลุมอยู่ มดไม่นึกถึงสิ่งใดอีกแล้ว เธอรู้เพียงอย่างเดียว เธอต้องการสัมผัสผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเธอ มดค่อย เขยิบตัวเข้าไปใกล้เดน่า มดโน้มใบหน้าของเธอ ให้ริมฝีปากของเธอสัมผัสกับริมฝีปากเดน่า ริมฝีปากของทั้งสองสาวจูบกันอย่างดูดดื่มโหยหา เร่าร้อน เต็มไปด้วยความหอมหวานละมุนละไม มดค่อย ๆ ดันตัวของเดน่าให้ล้มลงไปบนโขดหินนั้นโดยที่ริมฝีปากไม่แยกจากกัน มดใช้ร่างกายของเธอเข้าบดเบียดแนบชิดไปบนร่างกายของเดน่าอย่างช้า ๆ ปทุมถันของทั้งสองบดเบียดกัน หน้าท้องที่แบนราบเข้าแนบชิดกัน มดค่อย ๆ ถอนริมฝีปากออกมาอย่างเชื่องช้าอ้อยอิ่ง เธอจ้องเข้าไปที่ดวงตาของเดน่า ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยอารมณ์ลุ่มหลง มดประทับริมฝีปากอย่างแผ่วเบาพร้อมกับลากลิ้นเบา ๆ ไปกับมือทั้งสองข้างของเธอค่อย ๆ ลูบไล้ไปตามร่างกายของเดน่าตั้งแต่ใบหน้า ลำคอระหง ลงมาจนถึงเนินปทุมถันทั้งสองลูบวนไปเวียนมา หนักเบาสลับกันไป สร้างความวาบหวามให้กับเดน่ายิ่งนัก ไล้ลงมาตามหน้าท้องที่แบนราบ ลากเลยมาจนถึงต้นขาที่ขาวเนียนมาจนถึงปลายเท้า มดค่อยดันตัวเธอขึ้นมาทับบนตัวของเดน่าอย่างเชื่องช้าแต่เต็มไปด้วยความเร่า ร้อน ความวาบหวามจากสัมผัสจากริมฝีปาก และมือทั้งสองข้าง ทำให้เดน่าส่งเสียงครางในลำคออย่างพึงพอใจ มดขึ้นมาจูบปากเดน่าอีกครั้งอย่างดูดดื่ม มดค่อย ๆ แยกขาของเดน่าออก มดเลื่อนใบหน้าลงไปสัมผัสกับกลิ่นหอมรัญจวนจากเนินสวรรค์ ของเดน่า มดใช้ลิ้นหยิบยื่นความเสียว ใช้ลิ้นหมุนวนอยู่ตรงร่องสวรรค์ จนน้ำรักของเดน่าไหลออกมา “อืม…………..อา……………………………” เสียงครางของเดน่าดังไม่ขาดสาย มดเห็นใบหน้าที่แดงกล่ำของเดน่า สีหน้าที่แสดงถึงความต้องการให้มดช่วยปลดปล่อยในสิ่งที่มดก่อขึ้นมา ยิ่งทำให้มดมีอารมณ์รักมากยิ่งขึ้น มดต้องการให้เธอและเดน่าไปถึงสวรรค์พร้อมกัน มดแยกขาของเดน่าออกให้กว้างมากยิ่งขึ้น มดใช้เนินสวรรค์ของเธอเข้าไปประกบติดกับเนินสวรรค์ของเดน่า เหมือนเดน่ารู้ว่ามดต้องการทำอะไร เดน่าแอ่นสะโพกขึ้นเพื่อให้รับกับเนินสวาทที่เข้ามาแนบชิดกับเนินสวาทของเด น่า มือทั้งสองข้างของเดน่าที่กำลังลูบไล้ไปตามร่างกายของมดอย่างเมามันมาหยุด รัดกระชับแน่นที่สะโพกของมด เพื่อที่จะได้สร้างความแนบแน่นของทั้งสองให้มากยิ่งขึ้น มดกระซิบที่ข้างหูของเดน่า “เธอสวยจัง ฉันทนไม่ไหวแล้ว เราไปด้วยกันนะ” “อืม…..อา…..”เดน่าตอบกลับสั้น ๆ แต่ได้ใจความ มดค่อย ๆ ขยับสะโพกขึ้นลง ๆ ๆ จากช้า ๆ เริ่มเร็วขึ้น เร็วขึ้นเรื่อย ๆ กระแทกจากเบา ๆ กลายเป็นหนักขึ้น หนักขึ้น ร่างกายของเดน่าสั่นสะท้านไปตามแรงโยกของมด มือของเดน่าที่รัดกอดที่ช่วงสะโพกของมดรัดแน่นมากขึ้นเรื่อย ๆ เหมือนกับกลัวว่ามันจะหลุดแยกออกจากกัน มดโยกเร็วขึ้นเท่าไหร่ร่างกายของเดน่าก็สั่นสะท้านไปตามแรงมากเท่านั้น ใบหน้าของทั้งสองสาวแดงกล่ำไปด้วยไฟราคะ ชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อที่ผุดขึ้นที่ใบหน้า “อือ……ๆ..ๆ.ๆ…ๆ…ๆ…อ้าส์……………………” เสียงของทั้งสองสาวดังสลับกันไปมา ไม่นานร่างกายของทั้งสองสาวก็สั่นสะท้าน พร้อมกับอาการกระตุกของเดน่า ทำให้มดได้รู้ว่าสาวน้อยตรงหน้าได้ไปถึงฝั่งฝันเรียบร้อยแล้ว มดยิ่งเร่งโยกแรงขึ้น แรงขึ้น กระแทกลงไปหนักขึ้น เรื่อย ๆ สักพักร่างกายของมดก็มีอาการกระตุก น้ำรักของทั้งสองไหลเยิ้มออกมา เต็มไปหมด มดฟุบตัวลงไปใบหน้าของมดอยู่ตรงซอกคอของเดน่า มือทั้งสองข้างของมด โอบกอดที่ร่างกายของเดน่า โดยที่เนินสวาทของทั้งสองยังอยู่แนบชิดกัน เดน่าโอบกอดร่างกายของมดที่เต็มไปด้วยเหงื่อ เธอใช้ริมฝีปากประทับจูบที่หน้าผากของมดเบา ๆ ทั้งสองนอกอดกันได้สักพักนึง เดน่าค่อย ๆ ดันให้มดนอนหงาย เดน่าค่อยเลื่อนใบหน้าของเธอไปที่เนินสวรรค์ของมด โดยที่เนินสวรรค์ของเดน่าหันไปทางไปหน้าของมด เดน่าค่อย ๆ ใช้ลิ้นเลียคราบน้ำรักที่เนินสวรรค์ของมด เหมือนกับมดที่ใช้ลิ้นเลียคราบน้ำรักที่เนินสวาทของเดน่า เดน่าก็ค่อย ๆ กลับขึ้นมาใช้ริมฝีปากจูบที่ริมฝีปากของมดอย่างหนักหน่วงอีกครั้งหนึ่ง “คุณเก่งจังเลย” เดน่าชม หลังจากที่ถอนริมฝีปาก “เธอก็ใช่ย่อยนะ เก่งเหมือนกัน” มดชมกลับพร้อมกับใช้มือทั้งสองข้างดึงใบหน้าของเดน่าเข้ามาจูบอีกครั้ง “เราขึ้นไปข้างบนกันเถอะ แดดเริ่มร้อนแล้ว” เดน่าชวนมดเมื่อเห็นแสงแดดที่แรงขึ้นทุกที

แรงแค้น แรงเสน่หา 4

แรงแค้น แรงเสน่หา ตอนที่ 4 ตกหลุมพราง โดย ใจร้าย ความเดิมตอนที่แล้ว วันนั้นทั้งวันมดไม่มีอารมณ์ที่จะอ่านหนังสือ อีกเธอกลับมาที่ห้องพักอาจารย์ในตอนเย็น และรีบกลับคอนโดของเธอทันที เมื่อถึงคอนโดเธอรีบเข้าห้องน้ำอาบน้ำในทันที เพื่อที่จะชำระร่างกาย เธอยืนหลับตาปล่อยให้น้ำจากฝักบัวไหลรดลงบนร่างกายเธอ ภาพเหตุการณ์ที่ห้องสมุดวนเข้ามาในหัวเธอ ภาพใบหน้าของเดน่า ผุดขึ้นมาในความคิด อุณหภูมิในร่างกายของมดค่อย ๆ ร้อนรุ่มขึ้นมา ตั้งแต่เธอเคยนอนกับผู้ชายมาเธอไม่เคยรู้สึกร้อนวูบวาบมากขนาดนี้มาก่อน ครั้งนี้เธอรู้สึกโหยหารสสัมผัสที่ เดน่า หยิบยื่นให้ที่ห้องสมุด มันเป็นสัมผัสที่ร้อนแรงขนาดนี้ซึ่งเธอไม่เคยได้รับจากชายใดมาก่อน ***************** 2 วันที่ผ่านมา เธอไม่มีความสงบในใจเลย ทั้งเรื่องความแค้นของเดน่า ที่เธอต้องคอยรับมือ รวมทั้งความวาบหวามที่เดน่าหยิบยื่นให้ เมื่อคืนเธอได้นอนเกือบเช้า เพราะความรู้สึกวาบหวามนั้นยังคงอยู่ในใจเธอยังไม่ได้รับการปลดปล่อยจากตัว ถ้าเป็นที่เยอรมัน ป่านนี้เธอคงออกไปเที่ยว หรือไปหาหนุ่ม ๆ ที่เธอคบไว้มากมาย เพื่อให้เธอได้คลายความรู้สึกลงบ้าง วันนี้เป็นวันที่ 3 แล้วที่เธอมาเป็นอาจารย์ มดมาถึง มหาวิทยาลัยตั้งแต่เช้าเหมือนปกติ แต่วันนี้เธอก็เริ่มคิดหนักอีกครั้ง เธอมีสอนนักศึกษา ปี 2 วันนี้เธอจะต้องเจอพิษสงของเดน่า อะไรอีกบ้างยังไม่รู้ ถ้าเธอต้องเจอแบบ 2 วันที่ผ่านมา เธอคงอกแตกตายแน่ “Good Morning จ๊ะน้องมด มาถึงแต่เช้าเหมือนเดิมเลยนะจ๊ะ” “Good Morning เหมือนกันค่ะพี่ลิลลี่ พี่ลิลลี่ก็มาเช้าเหมือนกัน” มดหลุดจากภวังค์ของตัวเอง พร้อมกับหันมาทักทาย ทุกอย่างสำหรับเช้าวันที่ 3 เป็นไปอย่างปกติ มด นั่งคุย กับลิลลี่อย่างสนุกสนาน “สวัสดีครับ พี่ลิลลี่ คุณมด” สุธี เข้ามาทักทายทันทีที่เขามาถึง “สวัสดีจ๊ะ” “สวัสดีค่ะ” มด ลิลลี่ ทักทายตอบพร้อมกัน “แหม!……. น้องสุธี มาแต่เช้าเหมือนกันเลยนะจ๊ะ เมื่อก่อนไม่เห็นมาแต่เช้าอย่างนี้เลย” สุธี ยิ้มตอบกลับ “ก็มาเช้าเหมือนเคยครับ แต่วันนี้มาห้องนี้ก่อน” พร้อมกับหันหน้าไปทางมด ที่ยิ้มตอบกลับเช่นกัน มดเข้าใจถึงความหมายที่สุธีพูด “อ๋อ……. แปลว่าห้องนี้ต้องมีอะไรดีแน่นอน ถึงทำให้ อาจารย์หนุ่มรูปหล่อ ตรงดิ่งมาที่ห้องนี้ได้ ทั้งที่ไม่เคยมา” ลิลลี่จีบปากจีบคอพูดแซวสุธี เรื่องนี้ลิลลี่รู้ดี ถึงความประสงค์ที่สุธีมาที่นี่เพราะอะไร เพราะเธอเป็นคนให้ข้อมูลกับสุธี เองว่ามด เป็นคนอย่างไร มาทำงานกี่โมง เพราะก็รู้จักสุธี มานานเห็นว่าสุธี เป็นคนดี น่าจะแนะนำให้รู้จักกับมด สุธี ยิ้มพร้อมกับหันไปมองมด เพื่อให้มดรู้ถึงประสงค์ของเขาที่เข้ามาห้องนี้ก็เพราะมาหามด โดยสัญชาตญาณของสาวเจ้าชู้อย่างมด มีหรือที่จะไม่รู้ว่าสุธีต้องการอะไร เธอส่งยิ้มตอบพร้อมกับส่งสายตาหวานให้สุธีเช่น กัน พร้อมกับเชิญสุธี นั่งดื่มกาแฟด้วยกัน ทั้ง 3 คนนั่งคุยกันอย่างสนุกสนาน ส่วนมากจะเป็น สุธี นั่งคุยกับ มด มากกว่า เพราะลิลลี่ คอยเปิดโอกาสให้สุธี ได้คุยกับมด “นั่งคุยกันไปก่อนนะจ๊ะ เดี๋ยวพี่ไปนั่งเคลียร์งานที่โต๊ะก่อนนะ” ลิลลี่ รีบหลบฉากออกไป ให้ทั้งสองได้คุยกัน “ตั้งแต่คุณมด กลับมาเมืองไทยได้ไปเที่ยวไหนบ้างรึยังครับ” “ยังเลยค่ะ พอกลับมาก็มัวแต่ทำธุระเรื่องต่าง ๆ อยู่ และพอดีได้งานด้วย ก็เลยทำงานเลยค่ะ” “คุณ มดอยากไปเที่ยวไหนบ้างละครับ ไปอยู่เยอรมันตั้งหลายปี เมืองไทยเปลี่ยนไปเยอะ มีที่สวย ๆ ให้เที่ยวเพิ่มขึ้น ” “คงต้องรอสักพักค่ะ รอให้อะไรหลาย ๆ อย่างเข้าที่ก่อนค่ะ แล้วเดี๋ยวค่อยหาเวลาเที่ยว ก็อย่างที่คุณสุธี บอกนะค่ะ เมืองไทยมันเปลี่ยนไปเยอะ มดก็ไม่ค่อยชินทางเหมือนเก่า เพื่อนเก่า ๆ ที่รู้จักกัน ต่างก็มีครอบครัวกันหมดแล้วจะชวนใครไปเที่ยวเป็นเพื่อน ก็ไม่มีใครว่าง” มดเปิดโอกาสให้สุธี “วันไหนคุณ มด อยากไปไหนบอกผมนะครับ ผมจะพาคุณมดไปเอง สำหรับคุณมด ผมพร้อมเสมอครับ” สุธีรีบออกตัวในทันที “ขอบคุณค่ะ” มดยิ้มตอบกลับ พร้อมส่งสายตาที่คิดว่าหวานที่สุดให้กับสุธี “สวัสดีค่ะ อาจารย์” เดน่าเปิดประตูเข้ามาในห้องพักอาจารย์ พร้อมกับยกมือไหว้สุธี มด และก็ลิลลี่ มด หันไปมองเดน่า “มาแต่เช้าเชียว วันนี้จะมาไม้ไหนอีก” มดคิดในใจ แต่กลับผิดคาด เดน่า เดินผ่าน มด และสุธี ไปโดยที่ไม่สนใจมอง เดินตรงไปหา อาจารย์ลิลลี่ “อาจารย์ค่ะ หมายกำหนดการงานเลี้ยงวันอาทิตย์หน้า ได้แล้วค่ะ” เดน่า พูดพร้อมกับยื่นเอกสารบางอย่างให้กับลิลลี่ “หรือจ๊ะ” ลิลลี่รับเอกสาร พร้อมกับเปิดออกดู “เร็วดีจังนะ อย่างนั้นเดี๋ยวอาจารย์จะยื่นให้อาจารย์ปทุมพรเขาดูก่อนนะจ๊ะ เผื่อมีอะไรต้องแก้ไข เอ่อ……. แล้วเรื่องจองโรงแรมและการแสดงบนเวทีนะ เรียบร้อยไหมจ๊ะ” “ เรียบร้อยดีค่ะ รุ่นพี่ปี 4 จัดการเรียบร้อยแล้วค่ะ เหลือแต่กำหนดการค่ะ ที่ยังรอให้อาจารย์ตรวจก่อนค่ะ” เดน่า พูดเป็นการเป็นงานกับลิลลี่ วันนี้ เดน่า แต่งชุดนักศึกษาสีขาวรัดรูป เผยให้เห็นส่วนเว้าส่วนโค้งได้ชัด กระโปรงสั้นตามสมัย ต้นขาขาวเรียวยาว ตัดกับรองเท้าส้นสูงตามสมัยนิยม ใบหน้าของเดน่ายามเช้าวันนี้ แต่งหน้าด้วยเครื่องสำอางสีอ่อน ๆ เข้ากับวัย จมูกที่โด่งเป็นสัน สายตาที่เย้ายวน ริมฝีปากที่อวบอิ่มเคลือบด้วยลิปสติกสีชมพู หน้าอกที่กลมมน ต้นขาขาวสวย ทุกอย่างน่าสัมผัส น่าลูบไล้ไปซะทุกที่ ทำให้ มด เผลอมองเดน่าโดยไม่รู้ตัว “คุณมด ครับ คุณมดครับ คุณมดครับ” สุธี เรียกมด “ค่ะ ๆ” มดรีบหันกลับมาตอบ “เป็นอะไรเหรอครับ” “เอ่อ……..อ้อ! มดคิดถึง…. ที่ที่จะไปเที่ยวนะค่ะ” มดรีบตอบ เดน่า เหลือบสายตาหันมามอง มด แล้วหันกลับไป คุยกับอาจารย์ลิลลี่ต่อ มด แกล้งคุยกับสุธี อย่างสนุกสนาน พร้อมกับทอดสะพานให้กับสุธี เพื่อเป็นการยั่วเดน่า ให้เดน่าได้รู้ว่าผู้หญิงอย่างเธอไม่กลัวคำขู่ และไม่ได้รู้สึกกับสิ่งที่เดน่าทำไว้กับเธอเมื่อสองวันก่อน เสียงออดดังเตือน เวลาเข้าเรียน “คาบแรกเรียนอะไรจ๊ะ แหม่ม” ลิลลี่ถามเดน่า “เรียน ภาษาเยอรมันค่ะ” เดน่าตอบกลับพร้อมกับแอบมอง มดที่นั่งคุยกับสุธี “เหรอจ๊ะ” “มด ๆ ๆ” ลิลลี่หันไปคุยกับมด “ค่ะ พี่ลิลลี่” มดละจากการคุยกับสุธี “วันนี้ไปสอนนะมีของเยอะมั้ยจ๊ะ” “ก็มีบ้างนะค่ะ พี่ลิลลี่” “ดีเลยจ๊ะ พี่จะให้ยัยแหม่มช่วยน้องถือของไปน๊ะจ๊ะ ไหน ๆ ก็จะไปที่เดียวกันแล้ว” “นี่ แหม่ม เดี๋ยวเธอช่วยอาจารย์เขาถือของไปด้วยละ” “ค่ะ” เดน่าตอบรับพร้อมกับส่งยิ้มแบบอ่อนหวานให้กับมด “อย่างนั้นผมขอตัวไปก่อนนะครับ แล้วเดี๋ยวกลางวันไปทานข้าวด้วยกันนะครับ” สุธี ขอตัวเมื่อเห็นว่ามดกำลังจะไปสอน “ค่ะ เจอกันตอนพักนะค่ะ” มดยิ้มให้สุธี เพื่อให้เดน่า เห็นอย่างจงใจ สุธี เดินออกไปจากห้องพักอาจารย์ตามด้วย ลิลลี่ ที่เดินออกไปสอนด้วยเหมือนกัน ภายในห้องพักอาจารย์ยังมีอาจารย์บางส่วนที่ยังนั่งอยู่ มด หยิบหนังสือ และส่งสมุดงานของนักศึกษาให้กับเดน่าถือ ในขณะที่เดินไปยังห้องสอน ไม่มีการพูดคุยใด ๆ เดน่า เงียบสงบ ไม่มีคำพูดจาถากถางใด ๆ ทั้งสิ้น แม้แต่ในคาบสอน เดน่า ก็ตั้งอกตั้งใจเรียน เป็นอย่างดี มดเดินไปตามโต๊ะของนักศึกษา เพื่อดูทักษะการเขียนภาษาเยอรมัน แบบโคลงกลอน จนมาถึงโต๊ะ ที่เดน่า นั่งอยู่ มดแอบอ่านบทกลอนของเดน่าที่กำลังเขียนอยู่ สายตาของมดพลันหันไปเห็นต้นคอขาว สายตาของมดไล่ลงมาเรื่อย ๆ จนถึง เนินอกขาวอวบอิ่ม ที่เผยออกมาจากเสื้อนักศึกษาของเดน่า เธอเห็นรอยแดงที่ต้นคอของเดน่า มันไม่ใช่จากฝีมือของเธอแน่นอน ความร้อนในตัวของมดพลุ่งพล่านขึ้นมาทันที เธอจึงรีบผละเดินออกมา การสอนในวันนี้ผ่านไปด้วยดีโดยไม่มีปัญหาใด ๆ ทั้งสิ้น จนเมื่อถึงเวลาพักเที่ยง มด ไปทานข้าวกับสุธี ที่โรงอาหาร เธอเห็น เดน่า นั่งคุยกับนักศึกษาสาวหน้าตาสวยอีกคนนึง จากกิริยาท่าทางที่มดเห็นนั้น ถึงแม้จะไม่ชัดเจนซักเท่าไหร่ แต่มดก็พอจะเดาได้ว่าสองคนนี้ต้องมีอะไรกันแน่ ๆ มองจากสายตาของสาวหน้าสวยคนนั้นทีมองมายังเดน่า แฝงด้วยความรัก ความเสน่หา อยู่เต็มเปี่ยม สักพัก มด ก็เห็นเดน่า พาสาวคนนั้นผ่านหน้าไปโดยที่ไม่มองมายังมด มดยังนั่งทานข้าวกับสุธี สุธีชวนมดคุยในเรื่องต่าง ๆ อย่างสนุกสนาน มดรู้สึกสนุกตามไปด้วยกับเรื่องที่สุธีเล่าให้ฟัง ในความรู้สึกของมด ตอนนี้เห็นสุธีเหมือนกับผู้ชายคนอื่น ๆ ที่มดจะคบเล่น ๆ แบบที่ผ่านมา เพื่อแก้เหงา และสุธีก็คงเป็นเหยื่อรายต่อไปสำหรับเธอ “ควงไปก็ไม่เสียหาย หน้าตาก็ดี ฐานะก็ดี” มดคิดในใจในขณะที่นั่งทานข้าวกับสุธี บางคนบอกมดว่า มด นั้นไม่เหมาะที่จะเป็นอาจารย์ด้วยความที่เป็นสาวสังคม ชอบออกงาน ชอบเที่ยว มด มักจะย้อนกลับไปว่ามันไม่เกี่ยวกัน อยู่ที่มหาวิทยาลัย เธอก็ต้องทำตัวให้เป็นแบบอย่างที่ดีกับนักศึกษา แต่เรื่องส่วนตัวก็คือเรื่องส่วนตัว เธอจะนอนกับใคร จะยุ่งกับใคร มันก็เป็นสิทธิส่วนบุคคลของเธอ “มด ขอตัวเข้าห้องน้ำก่อนนะค่ะ” มดบอกกับสุธี เมื่อจะเดินกลับขึ้นไปบนตึก “ครับ เดี๋ยวผมรออยู่ทางด้านโน้นนะครับ” สุธีพูดพร้อมกับชี้มือไปทางโต๊ะม้าหินที่ว่างอยู่ “ค่ะ” มดเดินตรงไปเข้าห้องน้ำอาจารย์ “อืม………….อาส์…………..อย่างนั้น ๆ ๆ ๆ เร็วเข้าค่ะ” “อาส์……………………..อาส์………….โอว์ส์……………..” “ซี้ด……………………..” เสียงผู้หญิงร้อง ไม่ได้ศัพท์อยู่ในห้องน้ำอาจารย์อีกห้องหนึ่งที่อยู่ถัดไป “ร้อนแรงขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย” มดคิดในใจ ขณะที่กำลังเข้าห้องน้ำที่อยู่ใกล้กัน “แหม่ม อย่าแกล้งกันสิ เร็ว ๆ เข้า ก้อยจะยืนไม่ไหวอยู่แล้วนะ” เสียงผู้หญิงพูดด้วยเสียงกระเส่า ถึงความรัญจวนที่ใกล้จะถึงที่สุด “อาส์……….โอวส์………………..อาส์ …………………..” เสียงครางหายไป มด ได้ยินแต่เสียง หายใจ แรง ๆ เสียงหอบถี่ ๆ แสดงให้เห็นว่าคนที่อยู่ในห้องน้ำข้าง ๆ นั้น ถึงฝั่งฝันเรียบร้อยแล้ว แล้วคนที่ถูกเอ่ยนามก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เดน่า นั่นเอง มดรีบออกมาจากห้องน้ำเพื่อไม่ให้เจอกับคนที่อยู่ห้องข้าง ๆ แต่เหมือนฟ้ากลั่นแกล้ง ทั้งสองห้องเปิดประตูออกมาพร้อมกัน เดน่า กับ สาวน้อยน่ารัก ออกมาจากห้องน้ำ ด้วยเครื่องแต่งกายนักศึกษาที่ยังแต่งไม่เรียบร้อยดี ทั้งสองหันมาเห็น มด นักศึกษาสาวคนนั้น รีบยกมือสวัสดีมด แล้วรีบออกไปด้วยความอาย ทิ้งไว้แค่มด กับ เดน่า ยืนอยู่ในห้องน้ำกัน 2 คน “แฟนเธอสวย ดีนี่” มดพูดกับเดน่าพร้อมกับยื่นมือไปล้างในอ่างล้างหน้า “ค่ะ” เดน่าตอบกลับสั้น ๆ พร้อมติดกระดุมเสื้อที่เผยให้เห็นถึงหน้าอกทั้งสองข้างของเธอที่มีรอยแดงจาก รสสัมผัสเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา มด เผลอมองโดยไม่รู้ตัวใจ สายตาของเธอจ้องอยู่ที่ ดอกบัวตูมทั้งขาวทั้งอวบ ทั้งสองข้างของเดน่า ใจเธอเต้นแรง แทบจะทะลุอกออกมา เดน่า มองเห็นท่าทางของมด เดน่า ยิ้มที่มุมปากอย่างมีชัย จึงทำให้เธอหยุดการติดกระดุมเสื้อปล่อยให้ดอกบัวตูมที่มีบราตัวสวยปิดไว้ เพียงอย่างเดียวเผยออกมาอย่างนั้น เดน่าเดินถอยหลังพร้อมกับส่งสายตายั่วยวน เข้าไปในห้องน้ำอีกครั้งนึง เธอเปิดประตูห้องน้ำไว้ มดเดินตามเข้าไปเหมือนต้องมนต์สะกด เดน่า ค่อย ๆ ใช้มือลูบไล้ตามร่างกาย มือของเธอลูบไล้ที่ดอกบัวตูมของตัวเอง ตอนนี้บราตัวสวยถูกเลื่อนลงมา ทำให้เห็น ยอดของบัวตูมทั้งสองข้างอย่างชัดเจน มือข้างนั้น ค่อย ๆ ลูบไล้จากฐานของบัวตูมคู่สวยทั้งบีบ เคล้น ปลายนิ้วไล้มาที่ยอดลูกเกดสีชมพู มืออีกข้างของเดน่าล้วงเข้าไปในกระโปรง นวดคลึงที่เนินสวรรค์ของตัวเอง ปลายนิ้วไล้วนอยู่ที่ติ่งเสียว “อืม………….อืม………………..อาส์………อาส์…….” ปลายนิ้วลากมาจนถึงร่องกลางของรูสวาท เดน่าค่อย ๆ ใช้นิ้วของตัวเองวนอยู่ตรงทางเข้าแล้วค่อย ๆ ดันนิ้วใส่เข้าไป “โอ๊ะ!…………….อือ…อืม..........อืม….” เดน่า ค่อย ๆ ชักนิ้วของตัวเองเข้าออก ช้า ๆ ๆ ค่อย ๆ เร็วขึ้น เร็วขึ้น เรื่อย ๆ พร้อมกับส่ายสะโพกของตัวเองตามจังหวะของนิ้ว จากช้า ๆ เป็นเร็วขึ้น เร็วขึ้น “อืม ………อาส์……อาส์ ….อาส์ ……………………โอวส์” เดน่า ถึงสวรรค์ของตัวเองเรียบร้อยแล้ว การกระทำของเดน่านั้น อยู่ในสายตาของมดตลอดเวลา มดยืนมองการกระทำของเดน่า ด้วยสายตาพิศวาส ร่างกายเธอร้อนรุ่มแทบจะระเบิดออกมา เมื่อเห็น เดน่า ช่วยตัวเอง ให้เธอดู หัวใจเธอเต้นแรง เธอตื่นเต้นไปกับการกระทำนั้น เหมือนเธอได้เข้าไปมีส่วนร่วมด้วย เดน่า นั่งลงบนชักโครก เธอแยกขาของเธอออก กางเกงในตัวน้อยดึงลงมากองที่ปลายเท้า เผยให้เห็นน้องสาวของเธอที่ฉ่ำไปด้วยน้ำรัก ความรู้สึก ความอดทน ที่มดอดทนมาทั้งสองวัน ได้ขาดสะบั้นลง มดเดินตรงเข้าไปหาเดน่า พร้อมกับก้มลงไปเลียที่น้องสาวของเดน่าอย่างเมามัน ปลายลิ้นร้อนสัมผัสกับน้องสาวของเดน่า เดน่า เสียววาบที่เนินสวาททันที เธอใช้มือทั้งสองข้างกดศรีษะอาจารย์สาวให้แนบแน่นยิ่งขึ้น พร้อมกับยกขาอีกข้างหนึ่งขึ้นพาดบนบ่าของมด ปลายลิ้นของอาจารย์สาวหมุนวน พร้อมกับแทรกปลายลิ้นเข้าไปในรูสวาท เดน่าส่ายสะโพกให้เข้าจังหวะลิ้นของอาจารย์สาว เดน่าส่ายสะโพกเร็ว ขึ้น ๆ ไปพร้อมกับลิ้นที่รัวจังหวะเร็วขึ้นเรื่อย ๆ “โอ้วส์………………อาส์………..ซี้ด………….อาส์………. อาส์” เดน่าเกร็งไป ทั้งตัว ทำให้รู้ว่าเธอได้ถึงสวรรค์อีกครั้งนึง เดน่า จับใบหน้าของมดขึ้นมาประกบปากอย่างดูดดื่ม เดน่าลุกขึ้นยืนพร้อมกับดึงมดขึ้นมา ปากของทั้งสองยังประกบกันอย่างดูดดื่ม เมามัน มือทั้งสองข้างของมดเอื้อมมากอดศรีษะเดน่าแน่น เดน่าเอื้อมมือไปปิดประตูห้องน้ำ พร้อมกับดันมดจนชิดกับผนัง เดน่าถลกกระโปรงของ อาจารย์สาวขึ้น มืออีกข้างนึงยกขาของอาจารย์สาวขึ้นเพื่อให้น้องสาวของมดเผยกว้างขึ้นเพื่อ ที่จะได้ต้อนรับการมาเยือนของเดน่า เดน่าดันนิ้วเข้าไปในน้องสาวของมดทันที! ….. เฮือก! ………… มดสะดุ้งสุดตัว พยายามจะถอยหลัง แต่มดถอยไม่ได้อีกแล้ว เดน่าใช้นิ้วสอดเข้าไปทีเดียวพร้อมกันทั้งสองนิ้ว “อืม…..อื…..ม” มดพยายามที่จะส่งเสียงครางออกมา แต่ไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมาได้ด้วยปากของ เดน่าที่ประกบติดไม่ยอมห่างไปไหน อารมณ์ดิบ หื่นกระหายของเดน่าปะทุขึ้นมา อย่างเร่าร้อน เดน่า ซอยนิ้วถี่ขึ้น ถี่ขึ้น เร็วขึ้น เร็วขึ้น กระแทกนิ้วเข้าไป แรงขึ้น แรงขึ้น เรื่อย ๆ ร่างกายมดสั่นไปตามจังหวะการโหมกระหน่ำเข้ากระแทกของเดน่า จนมดทนไม่ไหว มดเกร็งสุดตัว ร่างกายกระตุก รูสวาทตอดนิ้วของเดน่า น้ำรักไหลลงมาเป็นทาง เดน่ายังไม่หยุดความอัดอั้นทั้งหมดถาโถมลงไป เดน่ากระหน่ำเข้าไปซ้ำแล้วซ้ำอีก “อาส์…โอวส์…อาส์…….อาส์ …..โอ๊ะ…..อาส์.” เสียงครางของมดหายเข้าไปในลำคอ เดน่าใช้ปากประกบแน่นไม่ให้เสียงเล็ดลอดออกมาได้ เดน่า จู่โจมอีกครั้ง รุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ จนร่างกายของมด กระตุกเกร็ง รูสวาทตอดรัดนิ้วของเดน่า ทำให้เดน่ารู้ว่าอาจารย์สาวของเธอถึงสวรรค์ ถึงสองครั้ง ความรู้สึก รัญจวน วาบหวามของมด ที่สะสมไว้ สองวันที่ผ่านมา ได้ถูกปลดปล่อย เหมือนคลื่นพายุ ที่โหมพัดเข้าหาฝั่ง อย่างรุนแรง คลายความบ้าคลั่งลง ทั้งสองสาวยืนกอดก่ายกัน ร่างกายของทั้งคู่ชุ่มฉ่ำไปด้วยเหงื่อ ใบหน้าของมด ซบลงไปตรงซอกคอของเดน่า ไม่มีคำพูดใด มีแต่เสียงหายใจหอบถี่ ๆ ของทั้งคู่ เดน่าดึงนิ้วออกมาจากน้องสาวของมดทันที มดสะดุ้งอีกครั้ง เดน่าก้มลงไปเลียน้ำรักของอาจารย์สาวที่ไหลเป็นทาง เดน่าใช้ลิ้นเลียทำความสะอาดให้กับน้องสาวของอาจารย์ที่ตอนนี้ยืนหมดเรี่ยว แรง ไม่มีกำลังจะต่อสู้ต่อ เดน่ายังยืนเบียดกับมด เดน่าจัดการติดกระดุมให้ตัวเอง แต่งตัวให้เรียบร้อย เดน่าจึงหันไปดึงชั้นในตัวน้อยของมดขึ้นมาใส่ให้ เช็ดเหงื่อที่ใบหน้าอย่างเบามือ เช็ดรอยลิปสติกที่เปรอะเลอะเทอะ ใช้มือเขี่ยไรผมที่ปกลงมาที่ใบหน้า จัดแต่งเสื้อผ้าของมดให้เข้าที่ ก่อนที่เดน่าจะเปิดประตูห้องน้ำออก เดน่าจูบที่หน้าผากมดเบา ๆ พร้อมกับพูดว่า “ก็แค่เนี๊ยะ ผู้หญิงร่านสวาท” เดน่าพูดพร้อมกับสแหยะยิ้มด้วยสายตาดูถูก

แรงแค้น แรงเสน่หา 3

แรงแค้น แรงเสน่หา ตอนที่ 3 เริ่มต้นการชำระแค้น โดย ใจร้าย ความเดิมตอนที่แล้ว “พอดี แหม่ม กำลังถามอาจารย์เขาเกี่ยวกับประเทศเยอรมันค่ะ ว่าเป็นอย่างไรบ้าง” เดน่า ปรับทั้งสีหน้าและคำพูด โดยใช้คำพูดแทนตัวเองว่าแหม่ม กับอาจารย์ลิลลี่ เป็นคำพูดที่ไพเราะ เปลี่ยนสีหน้าให้เป็นนักศึกษาน่ารักสดใส ผิดกับคนละคนที่ยืนคุยกับมดเมื่อสักครู่ “งั้นแหม่ม ขอตัวกลับบ้านก่อนนะค่ะ เย็นแล้ว สวัสดีค่ะอาจารย์” เดน่ายกมือสวัสดี อาจารย์ลิลลี่ และหันไปสวัสดี มด มองมด ด้วยสาตาอาฆาต ***************************************************** ติ๊ด ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เสียงนาฬิกาปลุกเตือน เป็นเวลา 6 โมงเช้า “วันนี้อากาศดีจัง” เป็นเช้าวันที่สอง ของการทำงานเป็นอาจารย์ วันนี้ มด ตื่นเช้าเป็นพิเศษ เป็นเพราะว่าเมื่อคืนเธอนอนไม่ค่อยหลับมากกว่า มด หวนคิดถึงเรื่องมาร์ค และ เดน่า ที่ประกาศจะแก้แค้นแทนพี่ชายของเธอ มด ไม่รู้ตัวเลยว่าสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น กับเธอตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป มันจะเปลี่ยนชีวิตเธอ วันนี้เธอรู้สึกสบายใจมากกว่าเมื่อวาน วันนี้เธอไม่เจอกับสายตาอาฆาตของเดน่า เพราะวันนี้เธอไม่มีสอน นักศึกษา ปี 2 มดรีบอาบน้ำ แต่งตัว เธอแต่งตัวเปรี้ยวตามสไตล์ของเธอ แต่ยังคงความเรียบร้อยในอาชีพของเธอไว้ “สวัสดีค่ะ อาจารย์, สวัสดีค่ะ อาจารย์, สวัสดีค่ะ,” นักศึกษาบางคนที่รู้จัก มด กล่าวสวัสดี ทักทาย มด เมื่อเธอเดินเข้าตึกมา “วันนี้มีสอน ตั้งแต่เช้า คาบ 1 – 3 ” มดพูดกับตัวเอง ขณะที่เข้ามาถึงห้องพักอาจารย์มดหันไปมองรอบห้อง ยังไม่มีอาจารย์ท่านไหนมาถึงเลยซักคน “ดีเหมือนกันจะได้มีสมาธิเตรียมการสอนของเช้านี้” มดคิดในใจ “ต๊าย! สวัสดีจ๊ะน้องมด มาแต่เช้าเลยนะ มาถึงตั้งแต่กี่โมงจ๊ะเนี่ย มาช่วยภารโรงเขาเปิดตึกรึจ๊ะ” เสียงทักทายของลิลลี่ ทักขึ้น ทำให้มดสะดุ้งตกใจ เพราะเธอกำลังใจจดใจจ่อกับการอ่านหนังสือเพื่อเตรียมการสอน “สวัสดีค่ะ พี่ลิลลี่ แหมพี่ลิลลี่ก็มดเพิ่งมาถึงเมื่อสักครู่นี่เองค่ะ ก็บ้านมดอยู่ใกล้แค่นี้เอง ก็เลยมาถึงเร็ว พี่ลิลลี่ก็มาเช้าเหมือนกันนะค่ะ” มดทักทายกับพร้อมกับแก้ตัวเล็กน้อย “แหม พี่แซวเล่นนะจ๊ะ บ้านพี่ก็อยู่ใกล้ ๆ เหมือนกัน ก็เลยมาเช้า ฮิ ๆ ๆ ๆ ” ลิลลี่พูดไปหัวเราะไปในท่าทางของมด “ทำอะไรอยู่เหรอจ๊ะ” “อ่านหนังสือเตรียมการสอนหน่อยนะค่ะ วันนี้มดมีสอนเช้าต้องเตรียมตัวดี ๆ เช้านี้ สอนปี 4 ด้วย กลัวนักศึกษาลองเชิง จะได้ไม่อายเด็กนะค่ะพี่” “เดี๋ยวพี่จะลงไปทานข้าวที่โรงอาหารไปด้วยกันไหมจ๊ะน้องมด” “เชิญพี่ลิลลี่ เลยค่ะ มดทานกาแฟแล้ว” “ทานแค่กาแฟจะอิ่มเหรอจ๊ะ เดี๋ยวสาย ๆ จะหิวนะจ๊ะ” “ไม่เป็นไรค่ะพี่ มดชินกับการดื่มกาแฟเป็นอาหารเช้าค่ะ” “งั้นพี่ไปทานข้าวก่อนนะจ๊ะ เดี๋ยวจะซื้อขนมมาฝาก” “ขอบคุณค่ะ” มดกล่าวขอบคุณในความมีน้ำใจของลิลลี่ “เอาไว้เดี๋ยวตอนเที่ยงเราค่อยไปทานข้าวพร้อมกันที่โรงอาหารพร้อมกันน๊ะจ๊ะน้องมด” “ค่ะ ดีเหมือนกัน มดจะได้มีเพื่อนทานข้าวด้วย เมื่อวานนั่งทานข้าวคนเดียวเหงาเหมือนกัน” มดตอบกลับด้วยรอยยิ้มที่สดใส ซักพักอาจารย์ท่านอื่น ๆ ก็ทยอยกันเข้ามาในห้องพักอาจารย์ เช้านี้มดสอนนักศึกษาชั้นปี 4 ด้วยความสนุกสนาน ด้วย มดเป็นคนหน้าตาสวย เปรี้ยว และเป็นกันเองกับนักศึกษา ทำให้นักศึกษา ตอบรับการสอนของมดเป็นอย่างดี นักศึกษาต่างชื่นชมในความเก่งของมด ออด……………. เสียงออดหมดเวลาคาบเรียน “วันนี้แค่นี้ก่อนนะจ๊ะทุกคน ไว้เจอกันสัปดาห์หน้าค่ะ” เฮ้อสอนเสร็จแล้วดีจังได้พักสักที มด ค่อย ๆ เก็บของแล้วตรงไปที่ห้องพักอาจารย์ เมื่อมดเก็บของเรียบร้อย ก็ลงไปทานข้าวกลางวันกับลิลลี่ ที่รออยู่ที่ห้องพัก “เอ่อพี่ลิลลี่ ค่ะ เดี๋ยวมดจะไปที่ห้องสมุดหน่อยค่ะ อยู่ที่ตึกไหนค่ะพี่” มดถามลิลลี่ถึงตึกที่เธอต้องการไป “ห้องสมุดอยู่ตึกด้านหลังตึกคณะเราเนี่ยละจ๊ะ น้องมดจะไปทำไมเหรอค่ะที่ห้องสมุดนะ” ลิลลี่ถามใคร่รู้ “มดอยากไปหาหนังสืออ่านหน่อยค่ะพี่ลิลลี่ พูดตรง ๆ เลยนะค่ะ มดอยากหานิยายไทยอ่านบ้างนะค่ะ อยู่ที่เยอรมันหายากมาก พอกลับมาเมืองไทยก็ทำงานเลยไม่มีเวลาไปหาซื้อนะค่ะ ก็เลยอยากไปยืมหนังสือที่ห้องสมุดหน่อย” “อ๋อ ๆๆๆๆๆๆๆ อย่างนี้นี่เอง ตามสบายนะค่ะ เดี๋ยวพี่จะขึ้นไปที่ห้องพักก่อนนะค่ะ” ลิลลี่ลากเสียงยาวเมื่อทราบถึงความจริงที่มดไปห้องสมุด มดเดินไปที่ตึกห้องสมุด เธอเข้าไปทักทายกับบรรณารักษ์และถามหาถึงชั้นที่มีนิยายวรรณกรรม ต่าง ๆ หลังจากที่เธอทราบเธอก็เดินไปชั้นที่เธอต้องการ ขณะที่เธอยืนเลือกหนังสืออยู่นั้น “สวัสดีครับ” มีเสียงทักทายมาจากข้างหลังเธอ มดหันกลับไปมอง “เอ่อ…..ค่ะ สวัสดีค่ะ” มดทักทายกลับมา ทั้ง ๆ ที่ยังงงอยู่กับคนตรงหน้าว่าเป็นใคร “ผมขอแนะนำตัวก่อนนะครับ ผมชื่อ สุธี ครับ สอนวิชาเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ครับ ห้องพักอาจารย์หมวดของผมอยู่ติดกับห้องพักอาจารย์หมวดของอาจารย์ครับ” ชายหนุ่มรีบแนะนำตัวเอง พร้อมกับยื่นมือออกมาทักทายกับเธอตามสไตล์ฝรั่ง เขาสังเกตุได้จากการแต่งตัวของเธอ และเขาก็ได้แอบถามกับลิลลี่แล้วว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร เขาเห็นผู้หญิงคนนี้เข้ามาทำงานตั้งแต่เมื่อวาน เธอสวยถูกใจเขาเป็นอย่างมาก เขาหาโอกาสที่จะเข้ามาแนะนำตัวตั้งแต่เมื่อวานแต่เขาก็ยังไม่มีโอกาส จนมาวันนี้เขาบังเอิญมาพบเธอตรงหน้าตึกห้องสมุดเขาเลยเดินตามเธอเข้ามา และหาโอกาสทักทายและแนะนำตัวให้เธอรู้จัก “ค่ะ” เธอยิ้มให้เขา พร้อมกับยื่นมือออกมาจับมือทักทายกัน มด รู้สึกได้ทันทีว่าผู้ชายคนนี้ต้องปิ๊งเธอแน่นอน ถึงได้เข้ามาทักทายเธอ เพราะเธอก็เห็นเขาตามเธอมาตั้งแต่หน้าตึกแล้ว “ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักคะ ชื่อภัคจิราค่ะ เรียกสั้น ๆ ว่ามด ก็ได้ค่ะ” “ผู้ชายคนนี้ดูดีจัง ปิ๊งเราซะด้วย คบเอาไว้ดูเล่นดีกว่า” มดคิดในใจ ตามประสาของคนเจ้าชู้ สุธี เป็นผู้ชายที่รูปร่างสูงสมส่วน ผิวสีเหลือง ผมรองทรงต่ำ ดูพอดีกับใบหน้า ที่มีความหล่อแบบชายไทยแท้ ๆ ตาสวย ไว้เคราเล็กน้อย ทำให้ดูมีเสน่ห์ แถมพ่วงท้ายด้วยท่าทางกรุ้มกริ่มพอสมควร “หาหนังสืออะไรอยู่ครับ ให้ผมช่วยไหมครับ” สุธี รีบอาสาที่จะช่วยหาหนังสือให้เธอ “ไม่ได้เจาะจงว่าเป็นหนังสืออะไรหรอกค่ะ ดูไปเรื่อย ๆ นะค่ะ” มดตอบกลับด้วยอัธยาศัยที่ดี พร้อมกับส่งยิ้มหวานที่เป็นเสน่ห์ ของเธอ เพื่อยั่วยวนให้เขาหลงใหล “คุณสุธี สอนมากี่ปีแล้วค่ะ” มดชวนคุย “ผมสอนที่นี่ มา 2 ปีกว่าแล้ว ครับ พอจบจากอังกฤษก็ ช่วยครอบครัวทำธุรกิจอยู่สักระยะนึง พอธุรกิจเข้าที่ดีแล้ว ก็มาเป็นอาจารย์สอนที่นี่นะครับ เพราะเบื่องานธุรกิจอยากทำงานอะไรเป็นประโยชน์กับสังคมบ้าง” เขาตอบคำถามของมด มากกว่าที่มดอยากรู้ แต่มดพอจะเดาออกว่าเขาต้องการนำเสนอตัวเขาให้มดรู้จัก มดกับสุธี เดินคุยกันเบา ๆ ไปเรื่อย ๆ ตามชั้นหนังสือ คุยทั้งเรื่องหนังสือ และเรื่องสัพเพเหระ สุธี ชื่นชมในความสวยของมด ความเก่งของเธอ ที่แสดงออกมาในขณะที่เธอแสดงความคิดเห็นกับหนังสือเล่มต่าง ๆ โดยที่ มด ไม่ทันสังเกต ว่ามีสายตาคู่หนึ่งจับจ้องเธออยู่ จนสักพักสุธีขอตัวก่อนเพื่อที่จะไปเข้าสอน มด ยังหาหนังสือที่เธอต้องการต่อไปเรื่อย ๆ เนื่องเป็นช่วงเวลาที่นักศึกษาส่วนใหญ่ จะมีการเรียนการสอน อยู่ทำให้ห้องสมุดดูเงียบเหงากว่าทุกวัน ทำให้มีความเป็นส่วนตัวในการที่จะค้นหาหนังสือหรืออ่านหนังสือ “ว่าไงจ๊ะ อาจารย์ใจง่าย” คำทักทายที่แสนแดกดัน กับน้ำเสียงที่ได้ยินแล้ว ทำให้ มด นึกออกทันทีว่าเป็นใคร เธอหันกลับมาทันที เพื่อตั้งหลักประชันหน้ากับนักศึกษาสาวฝรั่งที่หมายมั่นจะแก้แค้นเธอ “มีธุระอะไร” มดถามกลับไปห้วน ๆ “ก็ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ก็แค่คิดถึงเลยมาหาเท่านั้นเอง” เดน่า ตอบกลับด้วยน้ำเสียงยียวน แต่แววตานั้นจ้องมองเหมือนจะฆ่าเธอให้ตายให้ได้ “มาถึงเมืองไทยไม่ทันไรก็มีผู้ชายหน้าโง่เข้าหาทันทีเลยนะค่ะ” “มันก็เป็นธรรมดาของผู้ชายที่จะหน้าโง่มาหลงชอบผู้หญิงเอง ทั้ง ๆ ที่ผู้หญิงก็ไม่ได้ใส่ใจด้วย” มดตอบกลับไป พร้อมกับพูดจาแดกดันถึง มาร์ค ความโมโหเข้าครอบงำ เดน่า ทันทีที่ มดพูดจาพาดพิงถึงพี่ชายของเธอ เธอเดินตรงดิ่งเข้าหาอาจารย์สาวโดยทันที มดคิดไว้แล้วว่าต้องเป็นอย่างนี้เธอรีบหลบฉากเดินหนีทันที มดรีบเดินหนี แต่เธอหารู้ไม่ว่ายิ่งเดินหนีเข้าไปลึกเท่าไหร่ นักศึกษาที่นั่งอ่านหนังสือก็น้อยลง จนเธอหนีเข้าไปลึกมากขึ้นเธอก็หันหลังกลับมามอง เธอไม่เห็นเดน่า ตามเธอมา “นึกว่าจะแน่ แค่นี้ก็ตามไม่ทัน ไม่ซ้ำรอยเดิมแน่นอน” แต่ไม่ทันที่มด จะพูดจบ ก็มีมือเอื้อมมาจากข้างหลัง “ว้าย” ไม่ทันที่เสียงจะเล็ดรอดออกมา มือข้างนั้นก็ปิดปากเธอสนิททันที มืออีกข้างนึงโอบมารวบตัวของเธอแล้วลากเธอเข้าไปข้างหลัง มดไม่ได้ทันตั้งตัว และใส่รองเท้าส้นสูง ทำให้เธอเกือบล้มในทันที่ที่โดนลาก แต่ด้วยคนข้างหลังเธอประคองเธอไว้ทำให้เธอไม่ล้มแต่กลับไปอยู่ในอ้อมกอดของ คน คนนั้นแทน มดพยายามดิ้นรนแต่สู้แรงของคนข้างหลังไม่ไหว หลังของมดสัมผัสได้ถึงไอร้อนของร่างกาย และอกนุ่ม ๆ ที่เบียดชิดอยู่ข้างหลังเธอ เธอรู้ได้ในทันทีเลยว่า เธอเสียท่า เดน่าเข้าให้แล้ว เดน่า ลากมดมาจนลับตาผู้คน ด้วยร่างกายที่สูงไล่เลี่ยกัน แต่ เดน่าจะได้เปรียบกว่าเพราะเธอแต่งกายด้วยชุดนักศึกษาที่ทะมัดทะแมง เดน่ายังเป็นเด็กที่ชอบทำกิจกรรม ออกกำลังกาย ทำให้ร่างกายเธอค่อนข้างแข็งแรง มันเลยเป็นเรื่องง่ายที่จะลากผู้หญิงที่รูปร่างใกล้เคียงกันและยังไม่ได้ทัน ตั้งตัว เดน่าจับมดหันหน้ามา เธอดันมดจนหลังของเธอติดผนัง มือข้างหนึ่งยังคงปิดปากมดอยู่ มือทั้งสองข้างของเดน่าเปลี่ยนมาเป็นจับมือของมดดันขึ้นเหนือหัวเพื่อที่จะ ตรึงอาจารย์สาวไว้เพื่อไม่ให้ดิ้นรนไปไหน ไม่ทันที่มดจะอ้าปากร้อง ริมฝีปากได้รูปของเดน่า ประทับลงไปบนริมฝีปากของ อาจารย์สาวในทันที เดน่า แทรกลิ้นเข้าไปในปากของมด ลิ้นต่อลิ้นตะหวัดรัดเกี่ยวกันภายในปากของทั้งสองคน “อืม……………อืม……….จ๊วบ…… จ๊วบ…. จ๊าบ….” เสียงของริมฝีปากของทั้งสองบดขยี้สูกัน มดไม่ได้ขัดขืนเดน่า แต่อย่างไรกลับจูบตอบสนองเดน่าอย่างเร่าร้อนเช่นเดียวกัน มือทั้งสองข้างของเดน่า เปลี่ยนจากการจับมือมด เลื่อนลงมาเป็นเกาะกุมหน้าอกของอาจารย์สาวแทน ริมฝีปากของทั้งสองยังจูบกันอย่างเร่าร้อน ร้อนแรงอย่างไม่มีใครยอมใคร มือของเดน่า รีบปลดกระดุมเสื้อของมดออกในทันที เผยให้เห็น หน้าอกขาวที่ได้รูปที่มีเพียงบราตัวสวยที่ปิดบังอยู่ มีขนาดพอดีมือเหมาะแก่การบีบ เคล้น เดน่าทั้งบีบ ทั้งเคล้น จากเบาเป็นหนัก จากหนักเป็นเบาสลับกันไปมา ริมฝีปากของเดน่าค่อย ๆ เลื่อนมาซุกไซร้ที่ลำคอยาวของมด ทั้งหอม ทั้งขบกัดเบา ๆ เดน่าใช้ปลายลิ้นของเธอค่อยไล้เลียลงมาเรื่อยจนมาถึงยอดปทุมถัน ซึ่งตอนนี้ แม้แต่บราตัวสวยก็หลุดลงมา เดน่าทั้งเลีย ทั้งดูด ยอดปทุมถันสีชมพูที่ตัดกับสีผิวขาวผ่องของปทุมถันทั้งสองข้างที่แต่งตั้งชู รอรับสัมผัสที่ร้อนแรง สลับกัน ไปมาอย่างหื่นกระหาย เหมือคนที่ขาดน้ำ กระหายน้ำมาเป็นเวลานาน หน้าของเดน่า ซุกไซร้อยู่ที่อกขาวของ มด อย่างเมามัน ทั้งความหอมของกลิ่นกายอาจารย์สาว “อือ……………..อา………..อา……………..” “อาส์ …………โอ้ว………………..อา……..” เสียงครวญครางของอาจารย์สาว ที่แสดงถึงความพอใจในการกระทำของลูกศิษย์ มันทำให้ความรู้สึกของเดน่า ที่ครุกรุ่นอยู่ในใจเพิ่มทวีคูณขึ้นมา ร่างกายของมด ตอบสนองการกระทำของเดน่า อย่างเร่าร้อนเช่นเดียวกัน มือทั้งสองข้างของมดที่หลุดจากการเกาะกุมของเดน่า แทนที่จะผลักใสเดน่าให้ออกไป แต่กลับใช้แขนทั้งสองข้างนั้นกอดเดน่าให้แน่นยิ่งขึ้น เหมือนไม่อยากให้เดน่า หลุดไปไหน มือของมดก็ไม่ได้อยู่เฉยเช่นกัน มือของเธอกอดก่ายไปทั่วตัวของเดน่า โดยที่ไม่รอช้ากระดุมเสื้อ บราตัวน้อย ของเดน่าก็หลุดออกมาเช่นกัน มือของมดก็ไม่อยู่เฉยเธอลูบไล้หน้าอกขาวของเดน่าอย่างเมามัน เดน่าบีบเคล้นหน้าอกเธอเช่นไร มด เธอก็ทำตอบกลับไปเช่นนั้น เมื่อเดน่าเงยหน้าจากปทุมถันของ อาจารย์สาว มดก็ไม่รอช้า ดึงใบหน้าของเดน่าเข้ามาจูบอย่างดูดดื่ม ต่างคนต่างไม่ยอมแพ้กันและกัน เหมือนนักรบที่มีฝีมือเท่าเทียมกันเข้าห้ำหั่นกันด้วยเพลงอาวุธที่ร้ายกาจ ไม่มีใครยอมใคร เหมือจะให้ตายกันไปข้างนึง ปทุมถันที่ได้รูปของมดเข้าบดเบียดแนบชิดกับปทุมถันของเดน่า ที่ใหญ่ได้รูปแทบจะเป็นเนื้อเดียวกัน ร่างกายของทั้งสองที่ครุกรุ่นไปด้วยไฟราคะ แทบจะหลอมละลายเข้าไปเป็นเนื้อเดียวกัน ในขณะที่ปากของทั้งสองจูบกันอย่างดูดดื่มไปมา มือของทั้งสองต่างลูบไล้ร่างกายของฝ่ายตรงข้าม เดน่า เบียดต้นขาของเธอเข้าไประหว่างกลางลำตัวของมด มดก็อ้าขาให้กว้างขึ้นเพื่อรอรับสัมผัสสวาทที่เดน่าหยิบยื่นให้ เธอใช้ต้นขาของเธอขยับส่ายไปมาตรงเนินสวรรค์ตรงกับติ่งเสียวของอาจารย์สาวทำ ให้อาจารย์สาวต้องเงยหน้าจากการจูบ “อาส์…………….อืม……………..อาส์………..อย่างนั้น ๆ ๆ” มดส่งเสียงออกมาจากอาการเสียววูบวาบ ที่เนินสวรรค์ของเธอ แต่เดน่าก็ไม่ยอมให้ มด ส่งเสียงได้นาน เธอก็ดันหัวของมดให้ก้มลงมาดูดดื่มยอดปทุมถันของตัวเดน่า ที่รอให้ มดเชยชมอย่างไม่รู้เบื่อหน่าย “อืม…………….อืม……………อาส์…………….” เสียงครางของ เดน่า ดังออกมาจากริม ฝีปากของเธอ เมื่อเธอถูก มด ดูดดื่มที่ยอดปทุมถันเม็ดใหญ่ของเธอ ลิ้นของ มดหมุนวนไปมา สลับกันไปมาระหว่าง ปทุมถัน ทั้งสองข้างอย่างตายอดตายอยาก “นี่เดี๋ยวเราเข้าไปหาหนังสือข้างในเถอะเผื่ออยู่แถว ๆ นั้น” เสียงของนักศึกษาที่เข้ามาใช้ห้องสมุด ดังขึ้นมา ทำให้ เดน่า และมดต้องผละออกจากกัน ต่างคนต่างรีบใส่เสื้อ เมื่อนักศึกษากลุ่มนั้นเดินมาถึง ก็เห็นเดน่า ช่วยมด ถือหนังสืออยู่ นักศึกษากลุ่มนั้นยกมือสวัสดี มดทันที มดรับไหว้ตอบ นักศึกษากลุ่มนั้นก็เดินไป โดยที่ไม่ทันสังเกตุอาการของคนทั้งสองคน “คุณร้อนแรงอย่างนี้นี่เอง ผู้ชายถึงได้หลงหัวปักหัวปำ” เดน่ากระซิบที่หูของมดพร้อมทั้งใช้ปลายลิ้นเลียที่ติ่งหูของอาจารย์สาวพร้อม กับเข้าไปเบียดชิดใช้หน้าอกเบียดเข้าที่ต้นแขนของอาจารย์สาวเมื่อนักศึกษา กลุ่มนั้นเดินผ่านไป “ชั้นบอกเธอแล้วเดน่า ว่าชั้นไม่ตกหลุมพรางเธอง่าย ๆ และชั้นก็ไม่ใช่ผู้หญิงบริสุทธิ์ผุดผ่องที่จะไม่รู้เรื่องพรรค์นี้ อยากให้เธอรู้ว่าทำไมคนอื่นถึงหลงไหลชั้นนัก แต่เธอก็เก่งมากนะ ไม่เห็นมาร์คเคยเล่าให้ฟังเลยว่ามีน้องสาวเป็นเลสเบี้ยนที่ทั้งสวย และเก่งเรื่องพรรค์อย่างว่าซะด้วย” “ฮ่า ๆ ๆ ๆ แล้วเดี๋ยวคุณจะได้เจอในสิ่งที่คุณไม่เคยเจอ อีกเยอะเลยค่ะ” เดน่า เดินจากไปพร้อมกับคำพูดท้าทายทิ้งท้าย เมื่อเดน่า เดินจากไป อารมณ์พิศวาสที่ยังอยู่ในร่างกายมดนั้นยังไม่หายไป ลับตาคน เธอใช้มือเธอล้วงเข้าไปในเสื้อของเธอลูบคลำที่อกของตัวเอง ลูบไปมา บีบเบา โดยที่เธอใช้มือของเธอเองอีกข้างล้วงเข้าไปในกระโปรง เธอใช้นิ้วของเธอเองกดไปที่เนินสวาทของตัวเองที่มีน้ำรักออกมารอตั้งแต่ตอน ที่เดน่าทำให้เธอ เธอล้วงเข้าไปในชั้นในตัวจิ๋วของ เธอค่อย ๆ สอดนิ้วของเธอเองเข้าไปถึงสองนิ้ว ค่อย ๆ ดันให้ลึกเข้าไป แล้วก็ค่อย ๆ เธอส่ายสะโพกให้รับกับนิ้วของเธอที่กำลังชักเข้าชักออก เร็วขึ้น เร็วขึ้นเรื่อย ๆ จนน้ำรักของเธอไหลออกมาเต็มมือของเธอ เธอเริ่มชักนิ้วเข้าออก เข้าออก อีกครั้งเร็วขึ้นอีก เร็วขึ้นอีก “อาส์………อาส์………………อาส์………… ” เธอครางออกมาไม่ได้ศัพท์ พร้อมกับร่างกายที่มีอาการเกร็งเล็กน้อยในที่สุดเธอก็ถึงสวรรค์ รูสวาทของเธอตอดรัดนิ้วของเธอถี่ขึ้น ทำให้เธอยืนหายใจแรง ๆ อยู่ในห้องสมุด เดน่า เมื่อเดินออกมาจากห้องสมุด ที่รีบตรงไปหา เพื่อนสาวของเธอทันที เธอดึงมือของเพื่อนสาวเข้าไปในห้องน้ำ เดน่าโถมจูบเพื่อนสาวของเธอ รุนแรง เพื่อปลดปล่อยอารมณ์ดิบของเธอ เดน่าหันไปปิดฝาชักโครกลงเธอถอยตัวขึ้นไปนั่งบนชักโครก เธอค่อย ๆ กดหัวเพื่อนสาวของเธอที่กำลังสาละวนกับหน้าอกของเธอ เมื่อชั้นในตัวจิ๋วของเธอหลุดลงมาที่ปลายเท้า กระโปรงนักศึกษาโดนถกขึ้นไปจนสุด เผยให้เห็นถึง ความเป็นหญิงของเธอที่มีไรขนสีทองปกคลุมอยู่แต่พองาม เดน่าแอ่นสะโพกขึ้นเพื่อตอบรับลิ้นของเพื่อนสาว ที่กำลังสาละวนก้มหัวลงไปทั้งเลีย ทั้งดูด พร้อมทั้งใช้ลิ้นดันเข้าไปในรูสวาทของเดน่า หมุนวนไปมาสลับกับจุดเสียวกับรูสวาทที่รอการบุกรุก เดน่าส่ายสะโพกไปมาเพื่อให้ลิ้นเข้าไปในรูสวาทของเธอได้ดียิ่งขึ้น “อาส์ ………….อาส์………….อือ……..เร็ว ๆ เข้า จะไม่ไหวแล้ว” น้ำรักของเดน่าไหลออกมา เพื่อนสาวของเดน่า สอดใส่นิ้วเข้าไปพร้อมกับชักเข้า ชักออก เร็ว ขึ้น เร็วขึ้น “โอ้ย………….” ไม่ไหวแล้ว สิ้นเสียงร่างกายของเดน่ามีอาการกระตุกเล็กน้อย รูสวาทของเธอตอดรัดนิ้วเพื่อสาวของเธอ ใบหน้าของเดน่าแดงกล่ำฟุบลงไปกับไหล่ของเพื่อนสาว ในความนึกคิดของเดน่า ขณะที่เพื่อนสาวทำให้เธออยู่นั้นใบหน้าของอาจารย์สาวผุดขึ้นมาตลอดเวลา วันนั้นทั้งวันมดไม่มีอารมณ์ที่จะอ่านหนังสือ อีกเธอกลับมาที่ห้องพักอาจารย์ในตอนเย็น และรีบกลับคอนโดของเธอทันที เมื่อถึงคอนโดเธอรีบเข้าห้องน้ำอาบน้ำในทันที เพื่อที่จะชำร่างกาย เธอยืนหลับตาปล่อยให้น้ำจากฝักบัวไหลรดลงบนร่างกายเธอ ภาพเหตุการณ์ที่ห้องสมุดวนเข้ามาในหัวเธอ ภาพใบหน้าของเดน่า ผุดขึ้นมาในความคิด อุณหภูมิในร่างกายของมดค่อย ๆ ร้อนรุ่มขึ้นมา ตั้งแต่เธอเคยนอนกับผู้ชายมาเธอไม่เคยรู้สึกร้อนวูบวาบมากขนาดนี้มาก่อน ครั้งนี้เธอรู้สึกโหยหารสสัมผัสที่ เดน่า หยิบยื่นให้ที่ห้องสมุด มันเป็นสัมผัสที่ร้อนแรงขนาดนี้ซึ่งเธอไม่เคยได้รับจากชายใดมาก่อน

แรงแค้น แรงเสน่หา 2

แรงแค้น แรงเสน่หา ตอนที่ 2 ประกาศสงคราม โดย ใจร้าย ความเดิมตอนที่แล้ว “ใยเด็กบ้า!” มดสบถออกมา “คอยดูฉันจะไม่มีวันเข้าใกล้เธออีกเป็นแน่” มดพูดพร้อมกับติดกระดุมเสื้อและแต่งกายให้เรียบร้อย ************************ เดน่า เดินออกจากห้องพักอาจารย์ ทิ้งความรู้สึกไว้หลาย ๆ อย่าง ไว้ให้มด มด ทั้ง โกรธ โมโห แค้นใจ อาย ที่โดนดูถูก ทั้ง ๆ ที่เพิ่งเจอกันเป็นครั้งแรก รวมทั้งรู้สึกในอารมณ์วาบหวามที่เดน่าทำไว้กับเธอ ไม่ทันที่มดจะแต่งตัวเสร็จดี ลิลลี่ ก็เดินเข้ามาในห้องพักอาจารย์ “เป็นอย่างไรบ้างจ๊ะน้องมด สอนวันแรก” ลิลลี่ ทักทายทันที่เข้ามาในห้องพักอาจารย์ “ดีค่ะ พี่ลิลลี่” มดตอบสั้น ๆ พร้อมหันหลังก้มหน้าก้มตารีบแต่งตัว กลบเกลื่อนหน้าตาและความรู้สึกของตัวเองที่ยังครุกกรุ่นอยู่ “แล้วทำไมหน้าแดงอย่างนั้นละ ไม่สบายรึเปล่า” ลิลลี่ ถามกลับเมื่อสังเกตเห็นสีหน้าของมด “เอ่อ.............” มดตะกุกตะกักที่จะตอบ “คงยังไม่หายตื่นเต้นละสิ” ลิลลี่ถามพร้อมกับยิ้ม เมื่อคิดว่าตัวเองคิดถูก “ค่ะ คงเป็นอย่างนั้น คงยังตื่นเต้นอยู่ค่ะ” มดรีบตอบทันที เพื่อไม่ให้ พี่ลิลลี่สงสัยอีก “อย่างนี้ละค่ะ สอนครั้งแรกใครก็เป็นอย่างนี้ทั้งนั้น ตอนสมัยพี่ก็เหมือนกัน สอนครั้งแรกตื่นเต้นจนแทบอยากจะเป็นลม แต่น้องมดเนี่ยเก่งนะค่ะ ดูแล้วคงสู้ไหวนะค่ะ เอ่อ...... ก่อนเข้ามาพี่เห็นใยแหม่มกะปิ แว๊บ ๆ เด็กคนนั้นมาพบพี่รึเปล่าจ๊ะ อุ้ย! พี่ลืมบอกน้องมดไป ว่าพี่เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาของนักศึกษาปี 2นะ” ลิลลี่พูดเจื้อยแจ้วไปเรื่อย ๆ พร้อมกับถามถึงข้อสงสัยของตัวเอง “เอ่อ................ เดน่า ช่วยมดถือของนะค่ะ พี่ลิลลี่เป็นที่ปรึกษาของ นักศึกษาปี 2 เหรอค่ะ” มดเริ่มใคร่อยากที่จะรู้เรื่องของนักศึกษาปีนี้ ยิ่งเรื่องของนักศึกษาสาวหน้าตาฝรั่ง “ใช่จ๊ะ นักศึกษาห้องนี้น่ารักทุกคนจ๊ะ แต่อย่างที่บอกมีพวกทโมนเยอะพอสมควร แต่พี่ขอรับรองด้วยเกียรติของสาวประเภทสองที่สวยที่สุดในมหาลัยนะจ๊ะว่าเด็ก ห้องนี้นิสัยดีมาก มาก ขอบอก ยิ่งยัยแหม่มที่ช่วยน้องมดถือสมุดนะ นิสัยดีมาก ชอบกิจกรรม ช่วยเหลืองานอาจารย์ดี แต่ที่สำคัญที่สุดอาจารย์ที่ปรึกษาดีด้วยจ๊ะ” ลิลลี่สาธยายถึงความดีของนักศึกษาในความดูแลของตัวเอง.......... “หรือค่ะ ใช่ค่ะ มด ดูแล้วนักศึกษาห้องนี้ต้องดีแน่ ๆ เลย เพราะมีที่ปรึกษาดีอย่างพี่ลิลลี่นี่เอง ฮิ ๆ ๆๆ” มดหัวเราะชอบใจในสิ่งที่ลิลลี่พูด “มด อยากรู้ถึงพฤติกรรมเด็กคนไหนเป็นพิเศษไหมจ๊ะ พี่จะได้บอกว่าคนไหนเป็นอย่างไร พี่สามารถบอกได้ทุกคนจ๊ะ” ลิลลี่พูดพร้อมกับทำท่าเป็นผู้หยังรู้ในทุก ๆ เรื่อง ได้ทีของมดในทันที ที่จะได้รู้ข้อมูลของ นักศึกษาสาวหน้าฝรั่งที่ดูถูกเธอ “ที่สะดุดตา มดนะค่ะ เอ่อ....... ก็มีเดน่า ที่พี่ลิลลี่เรียกว่า แหม่มนะค่ะ” “น้องมด เนี่ยตาแหลมนะจ๊ะ เพราะใยแหม่ม เนี่ย ป๊อบในหมู่นักศึกษาทั้งหญิง ทั้งชาย ทั้งเก่งเรื่องเรียน เก่งกิจกรรมด้วย อ๋อ ใยแหม่มเนี่ย เป็นฝรั่งเลยจ๊ะไม่มีเชื้อไทย” ออด................ เสียงออดดังเปลี่ยนคาบเรียน “ออดแล้ว พี่ไปก่อนนะจ๊ะน้องมด พี่มีสอน เดี๋ยววันหลังพี่เล่าให้ฟังใหม่นะ” ลิลลี่ รีบออกไปเมื่อได้ยินเสียงออด “ใยเด็กฝรั่งบ้า คอยดูเถอะเธอจะไม่มีทางทำกับชั้นอย่างนี้ได้เป็นครั้งที่สองแน่” มดคิดในใจ ขณะที่มดนั่งรอเวลางานเลิก เธอก็ได้นั่งตรวจงานของนักศึกษาที่เธอสั่ง เมื่อตรวจมาถึงงานของเดน่า เธออ่านแล้วเธอก็ต้องตกใจในข้อความที่เดน่า เขียนไว้ว่า “ความรักที่แท้จริงไม่มีในโลก เพราะทุกอย่างมันเกิดขึ้นจากอารมณ์ มากกว่า เมื่อความรู้สึกของคน ที่เราเรียกว่าความรักเกิดขึ้น มันมักจะทำให้คน ๆ นั้น เป็นทุกข์ เสียใจ และใจสลาย แต่ถ้าใครสามารถทำใจยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้นได้ คน ๆ นั้น ก็พ้นทุกข์ไป ส่วนใครที่ทำใจไม่ได้ก็ต้องทนยอมรับความเจ็บปวด อยู่ที่ว่าใครจะทนได้มากน้อยแค่ไหนถ้าใครทนไม่ได้ก็ต้องตายไป หรือจากไป สำหรับบางคนก็จะกลายเป็นความแค้นที่จะรอวันชำระ ให้คน ๆ นั้นรู้สึกถึงสิ่งที่ทำไว้กับคนอื่น ให้มันสาสม ให้กระอักออกมาเป็นเลือด ให้ทุกข์ เจ็บปวด เสียใจ มากกว่าคนที่โดนกระทำเป็นร้อยเท่าพันเท่า” “เด็กคนนี้มีความคิดแปลก ๆ” มดคิดในใจ เมื่อปิดหน้าสมุดของเดน่า มดก็ต้องตกใจอีกครั้งนึงกับชื่อของเดน่า ชื่อเต็ม ๆ ของ เดน่า คือ เดน่า ลุมเบิร์ก ! “นี่ นามสกุล มาร์ค” มดอุทานออกมาในทันทีที่เห็นชื่อและนามสกุล ของ เดน่า ทำให้ มดหวนคิดถึงอดีตที่เธอยังศึกษาอยู่ที่เยอรมัน มาร์ค เป็นเพื่อนที่เรียนปริญญาโท ที่มหาวิทยาลัยเดียวกัน เป็นชาวต่างชาติที่มดยอมคบให้ความสนิทด้วย มดให้ความสำคัญกับ มาร์ค มากกว่าผู้ชายคนอื่น ๆ ที่เข้ามาในชีวิตเธอช่วงที่เธออยู่ที่เยอรมัน มด ยอมรับตัวเองเสมอว่าเธอเป็นคนเจ้าชู้ เธอไม่ใช่ผู้หญิงไทยที่เรียบร้อย รักนวลสงวนตัว ที่มีความเป็นกุลสตรี แต่กลับตรงกันข้าม มด เป็นหญิงไทยที่ยุคใหม่ ที่มีความเป็นฝรั่งอยู่ในตัวเองสูง รักอิสระ รักความเสรี ชอบให้ชีวิตตัวเองโลดแล่นไปกับสิ่งต่าง ๆ ที่เข้ามาในชีวิต ชอบที่จะลองรักในรูปแบบต่าง ๆ ก่อนที่เธอจะเจอมาร์ค เธอก็คบกับชาย มากหน้าหลายตา แม้แต่ตอนที่คบมาร์คอยู่เธอก็ยังคบกับคนอื่นที่เธอต้องการ ถ้าถามว่าเธอรักมาร์ค ไหม เธอสามารถตอบใจตัวเองได้ทันทีว่า เธอไม่ได้รักมาร์ค เลย เธอแค่มีความรู้สึกดี ๆ ให้กับ มาร์ค มากกว่าคนอื่น ๆ เธอจึงไปไหนมาไหนกับมาร์ค ให้ความสำคัญกับมาร์ค แต่เมื่อวันนึงที่เธอได้มีความสัมพันธ์กับมาร์คทำให้ มาร์คเริ่มเข้ามาวุ่นวายในชีวิตส่วนตัวของเธอ แสดงความเป็นเจ้าของในตัวเธอ ซึ่งเวลาที่มาร์คบอกรักเธอ และมาร์ค จะถามกลับเสมอว่า “รักมาร์คบ้างไหม” ทุกครั้งที่มาร์ค ถาม เธอจะตอบเสมอว่าตอนนี้มาร์คเป็นคนที่มดสนิทด้วยมากที่สุด หรือ บอกว่าตอนนี้มาร์คเป็นคนพิเศษสำหรับเธอ มดไม่ เคยบอกรักมาร์คเลยสักครั้งเดียว เวลาที่มาร์คขอเธอแต่งงาน เธอก็จะปฏิเสธทุกครั้ง และเธอพูดปัดเสมอว่า มดไม่พร้อม มดอยากจะบอกมาร์ค ว่ามดไม่ได้รักมาร์ค แต่เธอก็ไม่อยากทำลายน้ำใจผู้ชายที่ดีกับเธอ มาร์คเป็นฝรั่งที่มีความเป็นไทยในตัวเองสูง มาร์ค เคยเล่าให้มดฟังว่า เขาเกิดที่เมืองไทย เขามีน้องสาวอีกคนนึง ที่อยู่ที่เมืองไทย พอเขาอายุได้ 18 เขาก็ย้ายมาอยู่กับยายที่เยอรมัน เขาจึงถูกอบรม ได้รับการดูแลจากพี่เลี้ยงที่เป็นคนไทย ทำให้เขามีความคิดแบบคนไทย ชอบผู้หญิงไทย เพราะมาร์คจะคิดเสมอว่า ผู้หญิงไทย เป็นคนที่รักเดียวใจเดียว เลยทำให้มาร์คให้ความรักกับเธอ เต็มที่ แต่มาวันนึงเมื่อมาร์ค มาเจอมด ที่กำลังยืน พลอดรัก กอดจูบกับผู้ชาย คนอื่น ทำให้มาร์คเสียใจมาก เขายืนดูมดกับผู้ชายอีกคนแสดงความรักกัน ยืนอยู่อย่างนั้น จึงทำให้มดเห็นว่า มาร์คยืนมองเธออยู่ “ทำไม มดทำกับมาร์ค อย่างนี้ มดมีคนอื่น มดไม่ได้รักมาร์คเหรอ ” มาร์คตัดพ้อทั้งน้ำตา เสียใจกับสิ่งที่เขาเห็น ทันทีเมื่อเขามาพบมดที่ห้อง “มาร์ค มดขอโทษมาร์คนะ แต่มด.........” มดไม่รู้จะตอบอย่างไรดี เพราะเมื่อเธอเห็นน้ำตาของเขาเธอก็รู้สึกผิด “ทำไม ๆ ๆ ๆ มดไม่สนใจความรู้สึกของมาร์คเลย ทั้ง ๆ ที่มดบอกว่า มาร์ค เป็นคนพิเศษ เป็นคนสำคัญ ทำไม ๆ ๆ” มาร์คพูดพร้อมกับเอามือทั้งสองข้างดึงมดเข้ามากอดไว้แน่น เหมือนจะให้หัวใจของเขาหยั่งรู้ถึงหัวใจของเธอ “มาร์ค มดขอโทษ” มดดันตัวมาร์คออก ถึงคราวที่เธอต้องพูดความจริงกับมาร์คเสียที “มาร์ค เป็นคนพิเศษสำหรับมด แต่.............. มดไม่ได้รักมาร์ค” มดพูดโพล่งออกมา “มดไม่ได้รัก....” เสียงของมาร์คพูดออกมาเสียงหายเข้าไปในลำคอเหมือนเป็นเสียงกระซิบ ไม่มีเรี่ยวแรงที่จะเปล่งเสียง “แล้วมด ให้ความสำคัญกับ มาร์ค ทำไม แล้วที่เรามีอะไรกัน ไปไหนมาไหนด้วยกัน ไม่เคยปฏิเสธซักครั้งเวลาที่มาร์ค บอกกับเพื่อว่ามดเป็นแฟนมาร์ค ที่ผ่านมา 4 ปี ไม่มีความหมายเลยรึไง” มาร์คตะโกนออกมาดัง ๆ เหมือนอยากให้คนทั้งโลกรับรู้ถึงความรู้สึกของเขา เขาดึงกระชากตัวมดเข้ามาเขย่าตัวเธอแรงขึ้น แรงขึ้น มดพยายามสะบัดตัวออกจากมือของมาร์ค “ก็บอกแล้วไง มด ไม่ได้รักมาร์ค มาร์คก็แค่เป็นเพื่อนมดเท่านั้น กับการที่เราเคยนอนด้วยกันนะ มันไม่ได้สำคัญอะไรสำหรับมดหรอกนะ มดก็เคยนอนกับคนอื่นเหมือนกัน มดอยากจะยุ่งกับใครมันก็เรื่องของมด การที่เรามีอะไรกัน มันก็แค่ความสนุกร่วมกันก็แค่นั้น” มด หมดความอดทนกับความรู้สึกของมาร์ค เธอตะโกนใส่หน้ามาร์ค ไม่แคร์ความรู้สึกของมาร์คอีกต่อไป “ไม่ ๆ ๆ ๆ ๆ” มาร์คตะโกนเสียงดังผลักมดล้มลง แล้วมาร์คก็วิ่งออกจากห้องไป ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์วันนั้น มด ก็ไม่ได้พบมาร์คอีกเลย ทั้งที่มหาวิทยาลัย และที่อื่น ๆ ที่มาร์ค เคยไป ความที่มดเป็นสาวสมัยใหม่ เป็นคนมั่นใจในตัวเองสูง ทำให้มดไม่ได้สนใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นสักเท่าไหร่ มีแค่ความรู้สึกผิดนิดหน่อยที่ทำให้ผู้ชายคนนึงเสียใจ ก็เท่านั้น “ขยันจังเลยนะจ๊ะน้องมด” เสียงพี่พร หัวหน้าหมวดทักขึ้น ทำให้มดหลุดจากภวังค์ความคิดของตัวเอง “ค่ะ......มดไม่อยากให้งานมันค้างนะค่ะ จะได้มีเวลาเตรียมการสอน” มดตอบรับแบบเขิน ๆ “ขยันอย่างนี้ พี่รักตายเลย” ยกนาฬิกาที่ข้อมือขึ้นดู “อย่างนั้นพี่กลับก่อนนะค่ะ ได้เวลาเลิกงานพอดี กลับบ้านดี ๆ นะค่ะ” พี่พร หัวหน้าหมวดของเธอพูดชื่นชมแกมเอ็นดูนิด ๆ “ถึงเวลาเลิกงานแล้วเหรอเนี่ย ทำงานวันแรกของเรา ก็เจอดีซะแล้ว” มดพูดกับตัวเองเบา ๆ พร้อมกับเก็บงานของนักศึกษาที่เธอตรวจเรียบร้อยแล้ว เมื่อเธอเดินออกมาทางหน้าตึกคณะ เธอก็รู้สึกว่าเหมือนมีคนมองเธออยู่ เธอหันกลับไปข้างหลัง เธอก็เห็น เดน่า สาวหน้าฝรั่งคนนั้น ยืนมองเธออยู่ด้วยสายตาที่มุ่งหมายจะทำอะไรสักอย่าง มดเดินเอาของไปเก็บที่รถที่จอดไว้ที่หน้าตึก เธอหันกลับมามองอีกที เธอก็ยังเห็น สาวฝรั่งคนนั้น ยังยืนมองเธออยู่ เธอยังไม่ก้าวขึ้นรถในทันที เธอปิดประตูรถ เธอหันกลับเดินตรงไปหาเดน่า ที่หน้าตึกในขณะนั้น นักศึกษาเหลืออยู่ไม่กี่คน เพราะเป็นเวลาเย็นแล้ว นักศึกษาส่วนมากจะกลับบ้านกันไปแล้ว หรือจะไปนั่งกันตามที่นั่งในสวนหย่อมของบริเวณมหาวิทยาลัย “เรามีอะไรต้องพูดกัน” มด พูดทันทีเมื่อเธอมายืนอยู่ตรงหน้าเดน่า มดพูดด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบพอที่จะได้ยินกันสองคน “คุณมีอะไรจะพูดกับชั้น เหรอค่ะ หรือว่า คุณ อยาก....................แบบเมื่อตอนกลางวัน ติดใจแล้วละสิ แต่ตรงนี้คนอยู่เยอะนะค่ะ คุณน่าจะหาที่คนน้อยกว่านี้หน่อย ” เดน่า ทำหน้าตายียวนกวนประสาท พร้อมกับใช้นิ้วมือเขี่ยที่กระดุมเสื้อของตัวเองทำท่าเลียนแบบเหตุการณ์ที่ ห้องพักอาจารย์ “เดน่า! เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกลางวันนะ มันไม่ทำให้ชั้นรู้สึกอะไรสักเท่าไหร่หรอกนะ มันก็แค่เรื่องเล็กน้อย มันไม่ได้มีผลกระทบอะไรหรอก กับแค่เด็กที่ปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม ริอาจจะลองก็แค่นั้น” มดพูดย้อนกลับใส่หน้า เดน่า ด้วยสีหน้าและแววตาที่นิ่งเฉย เหมือนไม่ได้มีความรู้สึกใด ๆ “ชั้นลืมไปว่าคุณไปอยู่เมืองนอกตั้งหลายปี คงจะช่ำชองเรื่องพรรค์อย่างนี้อยู่แล้ว มันคงเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับคุณ” เดน่า ตอกกลับไปโดยไม่ยอมลดละ “เอาละ เปลี่ยนเรื่องคุย อาจารย์อยากจะถามเธอว่า เธอเป็นน้องของมาร์ค ใช่ไหม” มดถามถึงข้อสงสัยของเธอ “ใช่ค่ะ มาร์ค ลุมเบิร์ก นะ พี่ชายชั้นเอง คุณจำได้ด้วยเหรอค่ะ มาร์ค ผู้ชายที่คุณทิ้งไปอย่างไม่มีเยื่อใย คุณรู้ไหมทุกวันนี้ยังไม่มีใครตาม มาร์ค เจอ มาร์ค หายไป ไม่ติดต่อกลับมา มันเป็นเพราะคุณนั่นแหละ คุณรู้ตัวบ้างรึเปล่า ว่าคุณทำลายชีวิตของผู้ชายคนนึง ทำให้ครอบครัวเขาต้องเสียใจ ไม่รู้ว่า มาร์คยังอยู่หรือตายไปแล้ว” น้ำเสียงของเดน่าเต็มไปด้วยความแข็งกระด้าง มีแต่ความขุ่นแค้นที่แสดงออกมาทางสีหน้าและแววตา “มันไม่ใช่ความผิดของชั้น พี่ชายเธอนั่นแหละ ที่ทำตัวของเขาเอง ชั้นไม่เคยรักเขา และไม่คิดจะรักด้วย พี่ชายเธอคาดหวังในตัวของชั้นเอง ถึงชั้นจะย้อนเวลากลับไปได้ ชั้นก็ไม่รักพี่ชายของเธอ” มด ไม่ยอมรับในสิ่งที่เดน่า กล่าวหาเธอ เรื่องอะไรที่เธอจะต้องยอมรับชีวิตเป็นของเธอ เธออยากจะทำอะไรก็ได้ “ทั้ง ๆ ที่ มาร์ครักคุณมาก อย่างนั้นหรือค่ะ” “ใช่ !” มดตอบกลับไปอย่างหนักแน่น “อ้อ! ชั้นพอจะเข้าใจคุณแล้ว คุณจำคำพูดของคุณไว้ให้ดีนะค่ะ ชันขอบอกกับคุณไว้ตรงนี้เลย ชั้น จะแก้แค้นให้ มาร์ค คุณระวังตัวไว้ให้ดี ชั้นจะทำให้คุณย์ต้องเจ็บปวดกว่ามาร์คหลายเท่า ชั้นจะทำให้คุณรู้ว่าความเจ็บปวดนะมันเป็นอย่างไร คุณจะต้องได้รับกรรมในสิ่งที่คุณทำกับมาร์คไว้” “ได้! ชั้นจะรอดูว่าเธอจะทำอะไร แต่ขอบอกไว้อย่างนึงนะ ชั้นไม่มีวันที่จะตกหลุมพรางของเธอแน่นอน เธอยังรู้ชั้นน้อยเกินไป” “แล้วเราจะได้รู้กันค่ะ แล้วคุณจะได้รู้ในสิ่งที่คุณไม่เคยรู้” ทั้งสองคนต่างยืนจ้องหน้ากัน สายตาคนนึงมองด้วยความเคียดแค้น แต่อีกคนนึง มองด้วยสายตาท้าทายและเย็นชา ไม่มีความรู้สึกผิดกับสิ่งที่เกิดขึ้น “อ้าวยังไม่กลับบ้านหรือจ๊ะน้องมด” เสียงลิลลี่ดังมาแต่ไกล ทำให้ทั้งสองสาวที่ยืนจ้องหน้ากันอย่างไม่ลดละ ต้องหันไปมองทางเดียวกัน “กำลังจะกลับค่ะพี่ลิลลี่” มดตอบกลับ เมื่อตั้งสติได้ “อ้าว! ใยแหม่ม ยืนคุยอะไรกับอาจารย์เขาเหรอจ๊ะ ถ้าท่าทางจริงจังเชียว” ลิลลี่หันไปถามสาวน้อยหน้าฝรั่งที่ยืนปรับสีหน้าอยู่อีกทางนึง “พอดี แหม่ม กำลังถามอาจารย์เขาเกี่ยวกับประเทศเยอรมันค่ะ ว่าเป็นอย่างไรบ้าง” เดน่า ปรับทั้งสีหน้าและคำพูด โดยใช้คำพูดแทนตัวเองว่าแหม่ม กับอาจารย์ลิลลี่ เป็นคำพูดที่ไพเราะ เปลี่ยนสีหน้าให้เป็นนักศึกษาน่ารักสดใส ผิดกับคนละคนที่ยืนคุยกับมดเมื่อสักครู่ “งั้นแหม่ม ขอตัวกลับบ้านก่อนนะค่ะ เย็นแล้ว สวัสดีค่ะอาจารย์” เดน่ายกมือสวัสดี อาจารย์ลิลลี่ และหันไปสวัสดี มด มองมด ด้วยสายตาอาฆาต

แรงแค้น แรงเสน่หา

“ติ้ด ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ” เสียงนาฬิกาปลุกบอกเวลา 6 โมงเช้า มือเรียวยาวเอื้อมไปกดนาฬิกาให้เสียงเงียบ “ได้เวลาทำงานวันแรกแล้ว” มด คิดในใจ พร้อมกับรีบลุกขึ้นจากเตียง เธอตรงดิ่งเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำทันที สักพักเธอก็เดินออกมาจากห้องน้ำ เปิดตู้เสื้อผ้า เธอยืนเลือกเสื้อผ้าอยู่สักพัก เธอก็ได้ชุดที่ถูกใจ เธอยืนหมุนดูรอบตัวเองว่าแต่งตัวเรียบร้อยดีหรือยัง เหมาะสมกับการเป็นอาจารย์วันแรก “มด” ชื่อจริงของเธอคือ “ภัคจิรา” เธอเป็นนักเรียนนอก เมื่อเธอจบปริญญาตรีที่ประเทศไทยเธอก็ไปอยู่กับแม่ที่ประเทศเยอรมันนี จนเธอจบการศึกษาระดับ ปริญญาโท เธอจึงเลือกกลับมาทำงานที่เมืองไทย โดยเธอไปสมัครเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง เธอเลือกสอนด้านภาษาเยอรมัน จากประสบการณ์ที่เธอไปเรียนต่อเป็นเวลา 6 ปี ด้วยอายุเพียง 25 ปีเท่านั้น เธอจึงเป็นที่สนใจของอธิการบดี จึงได้รับเธอเข้าทำงานทันทีที่เธอสมัคร ด้วยความสามารถใบเกียรติประวัติต่าง ๆ แถมพ่วงด้วยเกรดเฉลี่ย A ทุกวิชา เธอมีบ้านอยู่ที่กรุงเทพฯ แต่เธอเลือกที่จะซื้อคอนโดของเธออยู่เอง ด้วยความที่เธออยากอยู่เป็นส่วนตัว และใกล้มหาวิทยาลัย เพราะบ้านเธอนั้นยังมีพี่สาว และน้องสาว ที่มีครอบครัวแล้วทั้งคู่ “เอาละ สวยแล้ว รีบไปดีกว่าเดี๋ยวสาย” มดเธอรีบออกจากคอนโดของ เธอ เธอขับรถป้ายแดงที่ซื้อมาใหม่ BM Series 3 สีแดง รุ่นสปอร์ตใหม่ล่าสุด เป็นสิ่งแรกที่เธอซื้อเมื่อกลับมาถึงเมืองไทย ด้วยฐานะทางบ้านเรียกได้ง่าย ๆ ว่า เศรษฐี ทำให้เธอไม่ค่อยสนใจในเงินเดือนที่ได้สักเท่าไหร่ เธอเลือกที่จะทำงานในสิ่งที่เธอชอบและถนัดมากกว่า “สวัสดีค่ะ ท่านอธิการบดี” เธอยกมือสวัสดีอธิการบดีของมหาวิทยาลัยทันทีเมื่อเข้ามารายงานตัวทำงานเป็นวันแรก “สวัสดีครับ พร้อมรึยังครับสำหรับการสอนวันแรก” “พร้อมแล้วค่ะ แต่ก็ยังมีตื่นเต้นนิดหน่อยค่ะ” มดกล่าวอย่างไว้ตัว “อืม ดีมากครับ เดี๋ยวผมจะให้หัวหน้าหมวดพาอาจารย์ภัคจิรา ไปที่ห้องพักอาจารย์ก่อนนะครับ และ หัวหน้าหมวดจะอธิบายรายละเอียดต่าง ๆ ให้ทราบ อีกทีนะ” “ค่ะ ขอบคุณค่ะ” มดกล่าวขอบคุณพร้อมกับยกมือไหว้อีกครั้ง เดินตามหลังอาจารย์หัวหมวด “พี่ชื่อ อาจารย์ปทุมพร นะค่ะ เรียกสั้น ๆ ว่าพี่พร ก็ได้นะค่ะ ถึงพี่จะชื่อเชย แต่พี่ไม่เชยตามชื่อนะค่ะ 5 5 5” ผู้ที่เป็นอาจารย์หัวหน้าหมวดแนะนำตัวอย่างอารมณ์ดี และเป็นกันเอง เธอเป็นหญิงวัย 40 ต้น ๆ รูปร่างท้วม ใบหน้ากลม เหมือนมีรอยยิ้มอยู่ตลอดเวลา ท่าทางอารมณ์ดี “สวัสดีค่ะ ชื่อภัคจิรา ค่ะ เรียกว่า มด ก็ได้ค่ะ” เธอกล่าวตอบพี่พรอย่างยิ้มแย้มสดใส “ยินดีที่ได้ร่วมงานกันนะจ๊ะ โต๊ะของ มด อยู่ด้านซ้ายมือนะจ๊ะ มาเดี๋ยวพี่จะพาไปรู้จักอาจารย์ท่าน อื่น ๆ ในหมวดนะ” หลังจากนั้นพี่ศรี ก็พาเธอไปรู้จักอาจารย์อีก 5-6 ท่านที่ทำงานอยู่ในหมวด้วยกัน ซึ่งในนั้นทั้งหมด มีอาจารย์อยู่คนนึงที่อายุไล่เลี่ยกับมด เขาชื่อ สมชาย แต่เรียกกันง่าย ๆ ว่า อาจารย์ลิลลี่ ด้วยท่าทางที่ดูตุ้งติ้ง กริยาออกไปทางผู้หญิงซะมากกว่า อายุแก่กว่า มด แค่ 5 ปีเท่านั้น อาจารย์พร เลยให้ลิลลี่คอยช่วยดูแลมด หลังจากที่ได้ทักทายและได้พูดคุยกับลิลลี่แล้ว มดก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาบ้างที่มีเพื่อนอายุใกล้เคียงกัน และยังเป็นคนร่าเริงสนุกสนานอีกด้วย “มด จ๊ะ วันนี้มดมีสอนคาบที่ เท่าไหร่จ๊ะ สอนปีอะไรเอ่ย” ลิลลี่จีบปากจีบคอถาม มด ทันทีเพื่อให้มดได้เตรียมตัวในการสอน “มด มีสอน อืม............ คาบที่ 3-5 ค่ะ ปี 2 ค่ะพี่ลิลลี่” “อ๋อ ๆๆๆๆๆๆๆๆ” อ๊อดลากเสียงยาว “เด็กปีนี้นี่เอง จะมีนักศึกษา ประมาณ 20 กว่าคนนะจ๊ะ ที่ลงเรียนคลาสนี้ มีแสบหลายคนอยู่เหมือนกันนะ แต่ก็น่ารัก ๆ ๆ ทั้งนั้น ถ้าโดนเด็กพวกนี้ป่วนละก็ ต้องใจเย็น ๆ หน่อยนะจ๊ะ เพราะมด ดูอายุรุ่นราวคราวเดียวกับพวกเค้า คอยดูนะต้องโดนพวกทโมนพวกนี้แซว แน่ ๆ แต่ละคนนะ เป็นถึงนักศึกษากันแล้ว ระดับมหาวิทยาลัยแล้ว ยังทำตัวเป็นเด็กมัธยมกันทั้งนั้น ...........” ลิลลี่ พูดร่ายยาวไปเรื่อย มดก็ได้แต่นั่งฟังพร้อมกับขำในท่าทีของลิลลี่ และเรื่องที่ลิลลี่เล่าให้ฟัง ทำให้อดนึกถึงนักศึกษาของเธอไม่ได้ว่าจะเป็นอย่างไร เธอเริ่มรู้สึกประหม่าในการสอนครั้งแรกของเธอ “สวัสดีค่ะ นักศึกษา ทุกคน อาจารย์ชื่ออาจารย์ภัคจิรา นะค่ะ อาจารย์มาสอนภาษาเยอรมันให้พวกเธอ” มดกล่าวแนะนำตัวเองเมื่อเธอเดินเข้ามาในห้องเรียนและมาหยุดที่โต๊ะเลคเชอร์ ที่เธอใช้สอน นักศึกษาทุกคนต่างมองอาจารย์ใหม่ เป็นตาเดียวทุกคน ด้วยที่อาจารย์ใหม่ของพวกเขานั้น เป็นผู้หญิงผิวขาว รูปร่างสูงโปร่ง หุ่นเพรียว ผมยาวสีดำปะบ่า ตากลมโตสีน้ำตาล จมูกโด่ง ริมฝาปากได้รูปแดงระเรื่อด้วยสีลิปสติก แต่งหน้าด้วยสีของเครื่องสำอางที่ไม่เข้มและไม่อ่อนจนเกินไป แต่งตัวด้วยเสื้อเชิ้ตสีขาวแขนยาวข้างใน ผูกไทด์สีน้ำตาลเส้น สั้น ๆ น่ารัก ทับด้วยเสื้อสูทสีดำ นุ่งกระโปรงสีเข้ากับเสื้อสูทสั้นระดับหัวเข่ากำลังพอดีใส่ถุงน่องเข้ากับสี ผิว สวมด้วยรองเท้าส้นสูงที่ทันสมัย “สวยจังเลยครับ” นักศึกษาหนุ่มคนนึงเอ่ยแซวขึ้นมาในทันทีที่ คำแนะนำตัวจบ “ขอบคุณค่ะที่ชม ชั่วโมงนี้เป็นชั่วโมงแรกที่เราได้พบกัน ให้ทุกคนแนะนำตัวให้อาจารย์ได้รู้จักกันหน่อยนะค่ะ และเดี๋ยวใครอยากสอบถามอาจารย์เกี่ยวกับเรื่องอะไรก็ค่อยถามกันอีกทีนะค่ะ” นักศึกษาแต่ละคนค่อย ๆ แนะนำตัวกัน ทีละคน จนมาถึงคนสุดท้าย มด สะดุดตาขึ้นมาทันทีด้วยความที่หน้าตาแบบชาวต่างชาติจ๋า.... ไม่มีเค้าโครงความเป็นไทยหรือชาวเอเซียเลยสักนิดเดียว ใบหน้ารูปไข่ ตาสีเขียวมีประกาย ผมสีนำตาลถักเปียยาวถึงกลางหลัง บนใบหน้ามีกระเล็กน้อยพอน่ารัก ผิวขาวฝรั่ง จมูกโด่งแหลม ริมฝีปากสีชมพู หน้าตาไม่ได้แต่งแต้ม ตัวสูง แบบชาวต่างชาติ ใส่ชุดนักศึกษาสีขาวรัดรูป รูปทรงของร่างกายดูสมส่วน แต่ทำไมพูดภาษาไทยชัดเจน และเพราะหน้าของนักศึกษาคนนั้น คล้ายกับคนที่เธอเคยรู้จักเมื่อนานมาแล้ว จนเธอลืมไปแล้ว จนเมื่อได้เห็นหน้านักศึกษาคนนี้มันทำให้เธอกลับนึกถึงหน้าคน ๆ นั้นขึ้นมาอีก “ชื่อ เดน่าค่ะ เป็นลูกครึ่ง อิตาลี เยอรมัน ค่ะ พ่อกับแม่มาทำธุรกิจที่เมืองไทย เกิดและโตที่เมืองไทยค่ะ อยากเรียนภาษาเยอรมันให้แก่งเพราะตั้งใจว่าจบจากนี่แล้วจะย้ายไปอยู่ เยอรมัน” เธอพูดตอบด้วยภาษาไทยที่ฉะฉาน ริมฝีปากสีชมพูระเรื่อขยับไปมาน่ามอง จนทำให้ มด ยืนอดที่จะยืมอมยิ้มไม่ได้ขณะที่มองคนใบหน้าสวยนั้นแนะนำตัว “คราวนี้ถึงคราวอาจารย์บ้างนะค่ะที่จะตอบคำถามของพวกเรา” เดน่า ถามกลับทันที ที่แนะนำตัวเสร็จ “อาจารย์มีแฟนรึยังค่ะ” เดน่า ยิงคำถามทันที ทำให้เพื่อนทั้งห้องพากันโห่ร้องชอบใจ “ตอนนี้ยังไม่มีค่ะ” มดตอบกลับ “อาจารย์อายุเท่าไหร่แล้วค่ะ ทำไมถึงมาสอนภาษาเยอรมันค่ะ อาจารย์บ้านอยู่ไหนค่ะ แล้วอยู่กลับใครค่ะ ตอนที่อยู่เยอรมันพักอยู่เมืองอะไรค่ะ” เดน่ารีบถามกลับทันที “เฮ้ย ยัยแหม่ม แกจะสำรวจสำมโนครัวอาจารย์เขารึไงว่ะ ถามซักไซร้จังโว้ย” เพื่อน ๆ ในห้องตะโกนแซวเดน่า เพื่อน ๆ ในชั้นปีเดียวกัน ต่างเรียกเธอเล่น ๆ ว่า แหม่ม กันทั้งนั้น เพราะย่อมาจากใยแหม่มกะปิ เป็นเพราะเดน่าเธอชอบน้ำพริกกะปิมาก “ อายุ 25 ค่ะ อาจารย์เรียนจบด้านนี้มาโดยตรงที่เยอรมันค่ะ อาจารย์พักอยู่คอนโดใกล้ ๆ มหาลัยค่ะ ส่วนพักอยู่กับใครไม่ขอตอบนะค่ะ ตอนที่อยู่เยอรมัน อาจารย์พักอยู่กับคุณแม่ที่ เบอร์ลิน และก็ แฟรงค์เฟิส ค่ะ บ้านแม่อาจารย์อยู่ที่เบอร์ลิน ส่วนอาจารย์ไปเรียนมหาวิทยาลัยที่แฟรงค์เฟิสค่ะ” เดน่า มองอาจารย์สาวที่อยู่ตรงหน้า ทำไมเธอจะจำอาจารย์ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ ก็ผู้หญิงคนนี้เป็นแฟนของพี่ชายเธอนั่นเอง พี่ชายของเดน่า ชื่อ มาร์ค เขาไปอยู่กับกับคุณยายที่เยอรมัน ตั้งแต่อายุ 18 แต่ระหว่างเดน่ากับพี่ชายของเธอยังติดต่อกันอยู่ตลอดเวลา พี่ชายของเดน่าส่งรูปแฟนของเขามาให้เธอดูทางอินเตอร์เน็ตในทุกอริยาบถ เพราะพี่ชายเธอรักผู้หญิงคนนี้มาก ที่ว่าอยากจะแต่งงานด้วยเลยก็ว่าได้ พี่ชายของเดน่ามักจะส่งเมลล์มาเล่าให้ฟังว่าเขามีแฟนเป็นผู้หญิงไทยหน้าตา สวย น่ารัก หนุ่ม ๆ ทั้งในหลายในคลาส ต่างพากันจีบเธอแต่ไม่มีใครจีบติดนอกจากพี่ชายเธอ ระยะเวลา 4 ปีที่พี่ชายของเดน่า คบกับผู้หญิงคนนี้มาเขามีทั้งสุขและทุกข์ เพราะเวลาสุขพี่ชายเธอจะเมลล์มาบอกว่าผู้หญิงไทยคนนี้ดีกับเขาทุกอย่างดูแล เอาใจใส่ซึ่งกันและกัน รักและเข้าใจเขา และเขายังเป็นของกันและกันแล้ว แต่เวลาทุกข์พี่ชายเธอก็จะเมลล์มาบอกเช่นกันว่าเวลาที่เขาขอผู้หญิงคนนี้ แต่งงานทีไรผู้หญิงคนนี้จะปฏิเสธเขาทุกครั้ง เธอมักจะบอกเสมอว่าเธอยังไม่พร้อม และเขามักจะได้ยินเพื่อน ๆ พูดเสมอว่าผู้หญิงไทยคนนี้เจ้าชู้ไม่ได้คบกับเขาเพียงคนเดียว แต่เขาก็ไม่เคยเชื่อ จนวันนึงเขาได้ไปเห็นผู้หญิงที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแฟนเขายืนกอด จูบ กับผู้ชายอีกคนนึง เขาเสียใจมาก แทบเป็นบ้า เขาทนที่จะอยู่เห็นหน้าผู้หญิงคนนี้ไม่ได้อีก จนเขาต้องเลิกเรียนแล้วหายตัวออกจากบ้านไป จนทุกวันนี้ยังไม่ได้ข่าวคราวเลย “ในที่สุดชั้นก็ได้เจอเธอจนได้น่ะ คนที่ทำให้พี่ชายชั้นต้องหายตัวไป คอยดูฉันจะแก้แค้นให้พี่ฉัน จะทำให้เธอไม่มีวันได้ผุดได้เกิดเลย” เดน่า มองหน้าอาจารย์สาวด้วยสายตาอาฆาต “เอาละ ไหน ๆ วันนี้เราก็ได้เจอกันเป็นคาบแรกนะค่ะ อาจารย์จะให้ทุกคนทำงานส่งอาจารย์เบา ๆ ก่อนนะค่ะ” มดพูดกับนักศึกษาในห้อง “โอ้ย ...... ทำไมให้รีบทำงานจัง อย่าเพิ่งทำเลยนะๆๆๆ .” เสียงนักศึกษาในห้องต่างร้องเสียงโอดครวญ “อาจารย์จะให้นักศึกษาทุกคน เขียนเรียงความเกี่ยวกับ เรื่องอะไรดีเอ่ย ...... เรื่องชีวิตรักในวัยรุ่น เป็นภาษาเยอรมันนะค่ะ หนึ่งหน้ากระดาษค่ะ” เดน่า พูดสั่งงานพร้อมกับอมยิ้มกับท่าทางของนักศึกษา ออด............................... เสียงออดดังหมดเวลาเรียน แล้ว นักศึกษาต่างเอาสมุดงานที่เขียนมาส่ง และทยอยพากันเดินออกไป มด รวบรวมสมุดที่นักศึกษานำมาส่ง และหิ้วของที่พะรุงพะรังของเธอจะเดินกลับห้องพัก “หนูช่วยถือค่ะ อาจารย์” เดน่าเสนอตัวเข้ามาช่วย มด ทันที “จ๊ะ ขอบใจจ๊ะ” มดตอบ พร้อมกับยื่นสมุดส่งให้เดน่า เดน่าเดินตาม มด ออกไปพร้อมกับมองหลังของมด “หุ่นดีอย่างนี้นี่เองพี่ชายเราถึงได้หลงนัก” เดน่าคิดในใจ พร้อมกับเดินตรงเข้าไปเดินข้าง ๆ มด “ตัวสูงจัง หุ่นดีด้วย สมกับเป็นเด็กฝรั่งจัง” มดพลางคิดในใจเมื่อเดน่าเดินมาข้าง ๆ “แอ้ด......” มดเปิดประตูเข้าไปในห้องพักอาจารย์ แต่ในห้องพักอาจารย์นั้นไม่มีใครอยู่เลย “ขอบใจอีกทีนะ ที่อุตสาห์ช่วยถือให้ วางไว้บนโต๊ะเลยจ๊ะ” มดหันไปบอก เดน่า แล้วก็หันกลับมาที่ชั้นวางแฟ้ม เธอพยายาม ที่จะหยิบแฟ้มที่ว่างมาใส่เอกสารซึ่งอยู่บนชั้นบนสุด เธอพยายามเอื้อมมือหยิบ แต่ก็หยิบไม่ถึง ทันใดเธอก็ได้กลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ และไอร้อนจากร่างกายของคน มาซ้อนอยู่ด้านหลังของเธอ ร่างกายของคนที่อยู่ข้างหลังดันตัวเธอ จนหน้าเธอไปจนชิดชั้นวางแฟ้ม มือข้างหนึ่งของคนข้างหลังเอื้อมเข้ามาโอบเอวเธอ ส่วนมืออีกข้างหนึ่ง เอื้อมเข้ามาจับหน้าอกของเธอ พร้อมกับบีบเบา ๆ “ว้าย!” “ปล่อยนะ เธอจะทำอะไร” มดร้องเสียงดังตกใจ มือที่โอบเอวเธอเลื่อนขึ้นมาปิดปากเธอ ไม่ให้เสียงเธอเล็ดลอดออกมา ส่วนมือที่จับหน้าอกอยู่นั้นก็เริ่มบีบหนักขึ้นเรื่อย ๆ ริมฝีปากของคนที่อยู่ด้านหลัง ก็แตะไล่อยู่ที่ด้านหลังหูไล่เรื่อยลงมาที่ต้นคอ จนทำให้มด รู้สึกวูบวาบกับการกระทำนั้น ด้วยคนที่อยู่ข้างหลังเธอนั้นดันเธอจนชิดชั้นวางแฟ้ม ทำให้มดดิ้นหลุดออกมาไม่ได้ นิ้วมือที่เค้นคลึงอยู่ที่หน้าอกก็เริ่มปลดกระดุมเสื้อของมดออก มือนั้น ก็ค่อย ๆ หายเข้าไปในเสื้อเชิ้ตของมด มือข้างนั้นได้สัมผัสกับเนื้อปทุมถันที่ขนาดพอเหมาะที่ชูชันรอรับมือ ตามอารมณ์วาบหวามของคนที่โดนจู่โจมทั้งบีบ ทั้งเคล้น รุนแรงเหมือนจะให้แหลกคามือทันที มือข้างนั้นได้สัมผัสกับปทุมถัน ทั้งสองข้างอย่างพอใจแล้ว ก็ค่อย ๆ เลื่อนลงไปจนถึงเนินสวาท ลูบคลำ คลึง หมุนวน อยู่ตรงเนินสวาท แล้วนิ้วเรียวยาวลากลงไปตรงกลางร่องสวาททั้งที่ยังมีชั้นในขวางกั้นอยู่ นิ้วเรียวงามนั้นลากไปมา อยู่ตรงบริเวณ จุดเสียวทำให้อารมณ์ของคนที่โดนจู่โจมกระเจิดกระเจิง จนร่างกายที่แข็งขืนเริ่มอ่อนเปลี้ยไปตามอารมณ์ น้ำรักของเธอไหลออกมาจนเปียกชั้นในตัวน้อยจนคนเป็นต้นเหตุนั้นรู้สึกได้ ทันใดนั้นมดก็ถูกดึงออกมาจากชั้นหันมาเผชิญหน้ากับสาวน้อยหน้าตาฝรั่งในตา สวยที่ทำให้เธออ่อนเปลี้ยอยู่ในขณะนี้ มือทั้งสองข้างของมดถูกดึงขึ้นไว้เนื้อหัว ดันติดไว้กับชั้นวางแฟ้ม ร่างกายของทั้งสองแนบชิดกัน หน้าอกของเดน่าดันชิดกับหน้าอกของมด เรียวขายาวของสาวฝรั่งแทรกดันไปตรงระหว่างขาของมด เพื่อหยุดการดิ้นรน ใบหน้าของทั้งสองแนบชิดกัน เดน่าใช้ปลายลิ้นของเธอไล้เลียที่ริมฝีปากของอาจารย์สาวเบา ๆ ใบหน้าของสาวน้อยก็ค่อย ๆ เลื่อนลงมาจนถึงหน้าอกขาวสวยที่มีแต่เสื้อชั้นในตัวน้อยปกป้องอยู่ เธอใช้ลิ้นไล้เลียที่รอบยอดปทุมถันไปมา ทั้งดูด กัด ทั้งขบเบา ๆ จนทำให้อาจารย์สาวครางออกมาด้วยความเสียวกระสัน “วันนี้แค่นี้ก่อนนะค่ะ อาจารย์” เดน่าหยุดการกระทำทันที แล้วเลื่อนหน้าขึ้นมาเผชิญหน้า “เอาไว้คราวหน้าจะทำให้อาจารย์ถึงใจยิ่งกว่านี้อีกค่ะ” เดน่า พูดด้วยสีหน้าเย้ยหยันเมื่อเห็นอาการที่อ่อนปวกเปียกของอาจารย์สาว แล้วเธอก็ปล่อยให้อาจารย์สาวได้เป็นอิสระ พร้อมกับถอยออกมา “อย่าคิดหนีนะค่ะ เพราะอย่างไรอาจารย์ก็หนีไม่พ้นหรอก” เดน่าพูดพร้อมกับยิ้มที่มุมปากอย่างเป็นต่อ “ติดกระดุมเสื้อให้เรียบร้อยนะค่ะ รอยแดงนั้นอย่าให้ใครเห็นละ เดี๋ยวคนอื่นเห็นเข้าจะหาว่า อาจารย์นะเป็นผู้หญิงใจง่าย” เดน่าพูดพร้อมกับเดินออกจากห้องไป “ใยเด็กบ้า!” มดสบถออกมา “คอยดูฉันจะไม่มีวันเข้าใกล้เธออีกเป็นแน่” มดพูดพร้อมกับติดกระดุมเสื้อและแต่งกายให้เรียบร้อย

พิมผกา 2

รถจอดสนิทนิ่งอีกครั้งเสียงเครื่องยนต์ดับเงียบลงประตูด้านคนขับถูกเปิดรถยวบเอียงเมื่อคนที่นั่งด้านนั้นลุกออกจากรถไปและเสียงปิดประตูดังขึ้น พิมผกาเหลียวหน้าไปมองด้านที่เกิดเสียงนั้นด้วยสัญชาตญาณโดยลืมไปว่าเธอถูกปิดตาอยู่ และเหลียวหน้ากลับมาอีกด้านเมื่อเสียงเปิดประตูดังขึ้นมือแข็งแรงข้างหนึ่งคว้าจับแขนเธอไว้อีกมือหนึ่งโอบรอบไหล่ของเธอรั้งดึงเหมือนเตือนให้ขยับตัวลงจากรถ พร้อมกับเสียงแผ่วนุ่มที่ฟังแล้วรู้สึกอบอุ่น "ค่อยๆก้าวขาลงมาช้าๆนะครับ .....เอาละ...ทีนี้ก้าวมาข้างหน้าช้าๆ...น่านหล่ะดีมาก ค่อยๆเดินไป...ช้าๆจ้ะไม่ต้องรีบ...ฯลฯ.."กวินบอกบทนำทางให้คนถูกปิดตาก้าวเท้าเดินออกไปช้า "เอาละหยุด...อาจจะไม่สะดวกนิดนึงนะครับ ขออนุญาตให้วินอุ้มกวางนะครับ" พิมผกายังมึนงงเช่นเดิมแต่ก็พยักหน้ารับอย่างว่าง่าย แล้วเธอก็รู้สึกวูบหวิวเมื่อสองเท้าลอยพ้นพื้น แขนของกวินช้อนเข้ารับที่ใต้ข้อพับร่างกายเธอเอนหงายไปด้านหลังแล้วถูกรองรับด้วยแขนอีกข้างหนึ่ง แขนข้างนึ่งของพิมผกาโอบอยู่บริเวณต้นคอด้านหลังของลูกชายโดยอัตโนมัติ ส่วนอีกข้างที่ถูกปล่อยห้อยอยู่นั้นเธอก็เอื้อมไปโอบเหนี่ยวรอบคอเขาไว้อีกทีเพื่อเป็นหลักประกันว่าเธอจะไม่ร่วงหล่นลงไปหากผิดพลาดไป กวินก้าวเดินไปประมาณ3-4ก้าวแล้วก็หยุด ความเงียบปกคลุมมาอีกคำรบหนึ่งประมาณชั่วอึดใจ "กวางครับ.....ปล่อยมือออกแล้วแกะผ้าผูกตาออกเถอะ วินอุ้มกวางไว้กระชับดีแล้วกวางไม่ต้องกลัวนะคะ" ท้ายประโยคแผ่วนุ่มเป็นพิเศษ พิมผกาจึงคลายมือออกจากรอบคอของลูกชายแล้ววกกลับไปแก้ปมผ้าปิดตาที่ผูกขมวดไว้อย่างง่ายๆ เมื่อผ้าผูกตาหลุดออก ที่เธอเห็นคือแสงอ่อนๆสาดปกคลุมอยู่รอบกายเธอมันไม่สว่างจ้าเหมือนแสงที่เกิดจากหลอดไฟ เพราะมันเป็นแสงจากธรรมชาติเธอเหลียวหน้ามองไปที่กวินซึ่งขณะนี้ส่งยิ้มบางให้เธออยู่แล้ว เธอเห็นหน้าของกวินได้ค่อนข้างชัดเจนทีเดียว จากนั้นจึงเหลียวมองรอบๆด้านอย่างสำรวจตรวจตราสถานที่ ขณะนี้เธออยู่ท่ามกลางวงล้อมของธรรมชาติ รอบๆด้านมีแต่เงาทะมึนของต้นไม้ที่โยกเอนช้าๆไปตามแรงลมที่พัดระเรื่อยเอื่อยๆนั้น แล้วเธอก็สังเกตุเห็นอีกว่าที่พื้นซึ่งควรจะเป็นดินหรือหญ้า มันกลับไม่ใช่เพราะตอนนี้มันกำลังสะท้อนประกายระยิบระยับจับตาอย่างประหลาด เมื่อเพ่งตาดูอีกครั้งจนสายตายปรับระดับได้แล้วเธอจึงรู้ว่าตอนนี้เขาและเธออยู่เหนือผิวน้ำ แล้วสิ่งที่สะท้อนระยิบระยับอยู่นี้มันคืออะไร พิมผกาได้คำตอบอย่างรวดเร็วเมื่อเธอเงยหน้าขึ้น แสงเป็นจุดๆทั้งขนาดใหญ่และเล็กปะปนกันอย่างมากมายมหาศาลเหลือคณานับลอยกระพริบวิบวาวเต็มทั่วแผ่นฟ้าไปหมด ใช่แล้วที่เธอได้เห็นอยู่ในขณะนี้คือทะเลดวงดาวที่ลอยประชันแสงประดับอยู่บนแผ่นผืนของท้องฟ้าที่ดำมืดเป็นฉากหลังนั้น ความสวยงามตระการตาที่เธอไม่เคยพบพานมาก่อนเช่นนี้ทำให้พิมผกาตะลึงจนตาค้างไป เมื่อเหลียวไปรอบๆพิมผกาก็ได้พบกับต้นกำเนิดของแสงนวลใยนั้น เป็นจันทร์เสี้ยวที่แขวนค้างเปล่งรัศมีเรืองรองบางๆสาดส่องลงมา พิมผกาหันหน้ากลับมาที่กวินอีกครั้งโอบแขนทั้งสองข้างกระหวัดรัดโอบรอบคอเขาอีกครั้งยื่นหน้าเข้าหาจูบแผ่วๆลงบนริมฝีปากและข้างแก้มของเขาแล้วเอียงหัวซบเข้าที่ซอกคอของลูกชายแหงนหน้าน้อยๆเหลือบตาขึ้นมองท้องนภาที่ประดับดาราเกลื่อนกล่นเต็มทั่วแผ่นผืนนั้นอีกครั้ง แล้วครางออกมาเบาๆเหมือนรำพึงรำพัน "โอวว์ ช่างสวยงามเหลือเกิน ลูกจ๋าแม่ไม่เคยมีความสุขอย่างนี้มาก่อนเลย ไหนบอกแม่สิคะว่านี่ที่ไหน" ประโยคสุดท้ายหันไปถามกวิน ซึ่งยืนงงๆอยู่เพราะแม่กลับมาเรียกสรรพนามระบุความสัมพันธ์เดิมทำให้กวินรู้สึกว่าเกิดระยะห่างระหว่างเขาและแม่ กวินรู้สึกเหมือนสูญเสียอะไรบางอย่างไป ความสะท้อนใจนั้นถูกเก็บเงียบไว้ในใจฝืนยิ้มน้อยๆให้ผู้เป็นแม่ แต่ยังไม่สามารถตอบคำถามนั้นได้เพราะมีก้อนสะอื้นแล่นขึ้นมาจุกอยู่ที่ลำคอ พิมผกาเองก็สำเหนียกถึงความผิดปกติของลูกชายได้ "ปละ....ปล่อยแม่ลงก่อนได้มั้ยคะ" กวินยืนหน้าชาแทบไร้ความรู้สึก ไม่รู้ถึงการคงอยู่ของตัวเองค่อยๆปล่อยร่างของพิมผกาลงให้ยืนบนพื้นแพ พิมผกาก้าวเดินไปข้างหน้าห่างจากลูกชายไปก้าวหนึ่งพูดโดยที่ไม่เหลียวหลังกลับมา "ขอ...ให้แม่กลับเป็นแม่ของวินสักครู่ได้มั้ยคะ.......... วิน....แม่อยากนอนดูดาวที่นี่จังเลย ที่....ที่หลังรถมีหมอนอยู่ลูกไปหยิบมาให้แม่หน่อยได้มั้ยจ๊ะ" กวินรู้สึกใจชื้นขึ้นมานิดหนึ่ง อย่างน้อยก็รู้สึกดีที่แม่ชอบสิ่งที่เขาพาดู เดินจากแพกลับมาที่รถ เปิดไฟค้นหาสิ่งของที่ต้องการแล้วจึงเดินย้อนกลับไปที่แพยื่นส่งหมอนให้แม่แล้วจัดแจงปูผ้าที่หยิบติดมือมาด้วยลงบนพื้นแพไม้ไผ่ จนเสร็จเรียบร้อยพิมผกาหันมามองดูลูกชายด้วยดวงตาที่สุกกระจ่างดั่งดาวบนนภาในเวลานี้ "วิน พอจะพาแม่ออกไปตรงกลางๆของ..อืมม..ทะเลสาบ...น่าจะเรียกว่าทะเลสาปนะ พาแม่ไปตรงกลางนั้นได้มั้ยจ๊ะ" อย่างไม่รู้เหตุผลว่าทำไมแม่จึงของเช่นนั้น แต่กวินก็พยักหน้ารับคำสั่งแต่โดยดี เขาก้มลงแก้เชือกที่ผูกแพไม้ไผ่ไว้กับหลักบนฝั่งออก แล้วหันไปหยิบไม้ไผ่ลำยาวที่วางอยู่ตรงกราบข้างแพซึ่งไว้ใช้ทำเป็นถ่อ ดันปลายไม้ไผ่เข้ากับดินริมขอบฝั่ง ออกแรงผลักแพนั้นก็ค่อยๆแหวกน้ำเคลื่อนที่ออกไปอย่างช้าๆ เมื่อแพเริ่มขยับออกพิมผกาเองก็เซเล็กน้อยเนื่องจากไม่มีหลักให้จับยึด เธอจึงต้องทรุดตัวลงนั่งคุกเข่าบนผ้าที่ลูกชายปูรองพื้นไว้ให้ แพเคลื่อนที่ออกมาได้โดยแรงถ่อของกวินประมาณ3-4นาที พิมผกาก็หันไปบอกลูกชายด้วยเสียงใสๆหวานๆ "หยุดตรงนี้ได้มั้ยจ๊ะวิน แม่ว่าตรงนี้กำลังดีเลยมองเห็นท้องฟ้าได้ชัดขึ้น เพราะไม่มีต้นไม้บังแล้ว" กวินยิ้มรับง่ายๆเนือยๆ ปักลำไผ่ลงในน้ำกดจนมันจมไปในเลนลึกแน่นพอสมควรแล้วจึงทรุดตัวลงหยิบเชือกที่ติดอยู่กับตัวแพมามัดไว้กับหลักถ่อที่ปักไว้ พิมผกาหยิบหมอนขึ้นมากอดไว้แล้วนั่งแหงนคอมองดูความสุกสกาวพราวพร่างของหมู่ดาวที่วิบวับระยับตานั้นอย่างเงียบๆอย่างไม่รู้ตัวแม้กระทั่งกวินเดินกลับมานั่งลงที่ข้างๆ แต่ก็รักษาระยะห่างไว้ระดับหนึ่ง กวินก็แหงนหน้าชื่นชมกับความสวยงามที่ยิ่งใหญ่ตระการตานี้ปล่อยความคิดให้ลอยออกไปอย่างไม่มีจุดหมาย เอนกายไปด้านหลังเล็กน้อยสองแขนเหยียดไปด้านหลังท้าวค้ำเป็นหลักไว้สองขาทอดเหยียดยาวไปข้างหน้า ทั้งคู่นั่งเงียบกลืนไปกับบรรยากาศรอบๆตัวหลอมเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติไปแล้ว เหมือนไม่มีกาลเวลาอีกต่อไปในตอนนี้ พิมผการู้สึกเมื่อยคอเป็นกำลังอยากจนจะนอนลงเธอเหลียวหน้าช้าๆมองไปที่ลูกชายที่นั่งอยู่ด้านข้างอย่างเงียบๆริมฝีปากขบเม้มเหมือนจะตัดสินใจอะไรซักอย่าง สักครู่เธอจึงค่อยๆเอนกายลง ศรีษะพาดหนุนลงไปบนต้นขาของลูกชายอย่างช้าๆแผ่วเบาแต่กวินก็สะดุ้งรู้สึกตัวตื่นจากภวังค์ก้มหน้าลงมองใบหน้าของแม่ที่แหงนเงยขึ้นมาดวงตาประสานกัน "อ้าวว...ทำไมแม่ไม่หนุนหมอนล่ะครับผมก็เอามาให้แล้วไง" พิมผกาหลบสายตานั้นวูบเอียงหน้าลงให้ด้านข้างแก้มทาบทับบนต้นขาแทน "กวะ....กวางไม่ได้มากับลูกชายค่ะ ตอนนี้กวางมากับชายคนที่กวางรักและปราถนาเขาที่สุด....." เสียงปลายประโยคแผ่วเบาเหมือนจะหายไปในลำคอ กวินรู้สึกพลุ่งพล่านขึ้นมาผู้หญิงที่เบื้องหน้าเขาตอนนี้เปลี่ยนไปเป็นอีกคนหนึ่งแล้ว เขาให้คำตอบตัวเองไม่ได้ว่าเขาต้องการมีอะไรกับผู้หญิงที่เป็นแม่หรือผู้หญิงที่ชื่อกวางหรือพิมผกากันแน่ พิมผกาขยับตัวอีกครั้งให้หนุนตักกวินได้ถนัดขึ้น คราวนี้หัวเธอหนุนพาดลึกเข้าไปอีกโดยทับคาบไปถึงเป้ากางเกงของกวินด้วย แล้วเสียงสั่นเครือเหมือตกประหม่าหรือแฝงด้วยอารมณ์อะไรบางอย่างก็ดังขึ้น "วินขา...วินรู้มั้ยกวางชอบบรรยากาศที่นี่ที่สุดเลย กวางเคยฝันไว้นะ วินอยากรู้มั้ยว่ากวางคิดฝันไว้ยังไง" กวินก้มหน้ามองสำรวจไปทั่วทั้งเรือนร่างที่อยู่ข้างหน้าปากก็ตอบไปเบาๆ "อยากรู้สิครับ กวางฝันไว้ว่ายังไงเหรอ" พิมผกาบดเบียดด้านข้างของใบหน้าลงกับต้นขาและเป้ากางเกงที่เธอหนุนซุกอยู่นั้นไปมาอย่างช้าๆนุ่มนวล "กวางอยากมีความสุขกับใครสักคนที่กวางรักในสถานที่และบรรยากาศแบบนี้แหละ กวางคิดฝันมานานแล้วนะ แต่ก็ไม่เคยคิดหรอกว่ามันจะมีอยู่จริงพร้อมๆกันทั้งสองอย่าง แต่....แต่วินทำให้มันเป็นจริงต่อหน้ากวางแล้ว....กวาง...." คำพูดของพิมผกาสะดุดลงแค่นั้นกวินขยับตัวเบาๆดึงมือข้างหนึ่งกลับมาลูบไล้เรือนผมที่สยายยาวนั้นอย่างทะนุถนอม "แล้วกวางมีรางวัลอะไรให้วินมั้ยล่ะคะ ที่วินทำได้อย่างที่กวางต้องการ" การบดเบียดเสียดสีทำให้กวินรู้สึกเป็นสุขอย่างยิ่งกล้ามเนื้อทุกสัดส่วนเริ่มตื่นตัวขึ้นเป็นลำดับ "กวาง...กวางให้วินทุกอย่างเลยค่ะถ้าวินต้องการ....แล้ววินล่ะคะ...วินจะ...." คำพูดหยุดหายไปเฉยๆเหมือนจะถามอะไรแต่ไม่ถามให้จบและเหมือนรอคอยคำตอบ กวินโอบรั้งหัวไหล่ของพิมผกาขึ้นมาซุกหน้าเข้าหาพวงแก้มสุกปลั่งนั้นบรรจงแตะริมฝีปากเบาๆลงไปแล้วพรมจูบนั้นไปทั่วใบหน้าจนกระทั่งกลับมาจบลงที่ริมฝีปากบางอ่อนนุ่มที่เผยอน้อยๆนั้น ลิ้นอ่อนนุ่มทั้งสองพัวพันอย่างแผ่วเบากระหวัดรัดรึง โดยพิมผกาเป็นผู้ชักนำให้ลิ้นของกวินล่วงผ่านเข้าโพรงปากอันหอมหวานนั้นแล้วเปลี่ยนเป็นดูดดุนลิ้นนั้นไว้อย่างเนิ่นนานจนกวินเสียวสะท้านไปทั้งกายกับการกระทำของเธอผู้นี้ ผู้ซึ่งเป็นแม่แท้ๆของเขาเอง............... ........"กวะ....กวางไม่ได้มากับลูกชายค่ะ ตอนนี้กวางมากับชายคนที่กวางรักและปราถนาเขาที่สุด....." คำพูดและสำเนียงปลายเสียงยังสะท้อนวนเวียนอยู่ในภวังค์ความคิดคำนึงของกวินอยู่ตลอดเวลา ความปราถนาในดำกฤษณาค่อยๆคุโพลงขึ้นเป็นลำดับด้วยรสจูบที่หวานละมุนจากลิ้นอ่อนนุ่มที่สอดรับอย่างสอดคล้อง พิมผกากดน้ำหนักตัวโน้มไปข้างหน้าอย่างช้าๆในขณะที่กวินก็เอนหลังลงอย่างเชื่องเชื่อเหมือนตกอยู่ในมนต์สะกด จนในที่สุดร่างอวบนุ่มของพิมผกาก็ทาบทับลงบนร่างของกวินโดยที่ปากยังบดเบียดดูดลิ้นซึ่งกันและกันอยู่เช่นนั้น กวินรู้สึกได้ถึงก้อนเนื้ออวบหยุ่นที่บดเบียดอยู่บนแผงหน้าอกสองมือของเขาลูบไล้ไปบนแผ่นหลังของพิมผกาอย่างแผ่วเบาละไลาลงไปจนถึงสะโพกแน่นเนื้อทั้งสองข้างไต่ไล่ไปจนถึงแก้มก้นนุ่มละมุนนอกร่มผ้า อาการลูบไล้เป็นไปอย่างนุ่มนวลไม่แสดงถึงความหื่นกระหาย อารมณ์ของคนทั้งสองค่อยๆถูกสั่งสมกลับมาใหม่ ท่อนควยของกวินตอนนี้แข็งโชนเป็นลำเบียดอัดอยู่ในกางเกง ความแข็งเกร็งนี้พิมผกาผู้ทาบทับอยู่บนมันสามารถรับรู้ได้เป็นอย่างดี สะโพกผายที่ถูกมือของกวินลูบไล้อย่างแผ่วเบาได้อารมณ์ค่อยๆยักย้ายเยื้องโยกบดอัดโคกโหนกนูนสัมผัสรับกับท่อนลำอุ่นระอุนั้นอย่างเป็นธรรมชาต แรงกดจกเต้าอวบหยุ่นผ่อนคลายไปบ้างในความรู้สึกของกวินเพราะพิมผกาค่อยๆขยับตัว ยันกายขึ้นเล็กน้อย เธอถอนปากออกจากปากของกวินช้าๆน้ำลายเหนียวใสยืดตามจากปากของทั้งสองจนขาดจากกัน สองแขนของพิมผกาท้าวยันอยู่เหนือไหล่ทั้งสองข้างของกวินจังหวะบดอัดสะโพกถูกเร่งขึ้นอีกเล็กน้อยแต่ตำแหน่งที่สัมผัสกันของอวัยวะทั้งสองถูกปรับให้สอดรับกันได้ดียิ่งขึ้น ท่อนควยลำอวบยาวถูกถูไถขึ้นลงโดยร่องหีที่เริ่มเปียกชื้นของพิมผกา แม้จะมีเสื้อผ้ากางกั้นอยู่ แต่รสสัมผัสที่ทั้งสองมอบให้และได้รับ ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อความสุขเสียว ที่ทั้งคู่ต่างก็ต้องการจากกันและกันเลย สัมผัสจากมือของกวินที่พิมผกาได้รับตอนนี้เธอรู้สึกได้ถึงความแรงที่เพิ่มขึ้น เมื่อแก้มก้นทั้งสองข้างของเธอถูกบีบเค้นน้ำหนักแรงบีบมันเปลี่ยนไปตามความเสียวช่านที่เธอเป็นผู้บรรจงมอบให้ พิมผกายิ่งรู้สึกก็ยิ่งเสียวซ่านมากขึ้น เพียงแค่ภายนอกร่มผ้านี้ พิมผกาบอกกับตัวเองได้เลยว่าเธอกำลังจะเสร็จแล้ว สายตาปรือเยิ้มไปด้วยไฟราคะและความรักที่ล้นปรี่จ้องมองลงไปในดวงตาของกวินที่นอนรับร่างของเธออยู่นั้นทั้งคู่สบตากันเหมือนกาลเวลาหยุดนิ่ง ทุกสิ่งทุกอย่าง รอบกายเหมือนหยุดความเคลื่อนไหว แม้แต่สายลมก็ไม่โชยพัด เหมือนจะอัดอั้นกลั้นไว้เพื่อรอดูหรือเป็นกำลังใจให้กับหญิงสาวชายหนุ่มคู่นี้ ท่ามกลางความเงียบสงบไร้สิ้นซึ่งเสียงสำเนียงใดๆพิมผกามองเห็นการตอบรับในดวงตาของกวินนั้น โดยไม่ต้องส่งเสียงใดๆเลยกวินพยักหน้าน้อยๆให้พิมผกา เหมือนกับรับรู้ว่าเธอต้องการหรือกำลังร้องขออันใด และกวินเองก็เห็นในดวงตาทั้งคู่ของพิมผกา เต็มเปี่ยมไปด้วยแววความตื่นเต้น อัศจรรย์ และสำนึกขอบคุณ จากนั้นจังหวะก็ถูกเร่งขึ้น พิมผกาทาบทับอยู่บนร่างของกวินในลักษณะคล่อมทับบดอัดร่องหี่ที่เยิ้มแฉะอยู่ในกระโปรงซึ่งไม่มีกางเกงใน พยายามจัดท่าให้ร่องแคมครอบทับไปตามความยาวของลำควยกวินที่แข็งเกร็งดันกางเกงอยู่แทบปริขาด เธอโยกตัวไถร่องแคมกับลำควยด้วยความเสียวสะท้าน พิมผกาเริ่มปล่อยตัวและใจให้ธรรมชาตชักนำการกระทำของเธอไปเอง ความเสียวสยิวเพิ่มขึ้นอย่างไม่อาจฉุดรั้ง กวินแว่วเสียงหอบหายใจแผ่วๆจากหญิงสาวที่โยกตัวบดอัดร่องหีใส่ท่อนควยของเขา กวินเองก็ซ่านเสียวไปไม่น้อยกว่าพิมผกาเลยแต่กวินก็ทำเช่นเดียวกับพิมผกาคือปล่อยให้ธรรมชาตชักนำการกระทำของเขาออกมาเองการตอบสนองเกิดขึ้นที่สะโพกของกวินเอง โดยเริ่มยกสะโพกขึ้นรับจังหวะการบดอัดร่องแคมของพิมผกา เนื้อผ้าของกระโปรงที่พิมผกาสวมใส่อยู่ บริเวณที่สัมผัสถูกร่องหีของเธอ ตอนนี้เปียกแฉะเป็นดอกดวงและขยายวงเพิ่มขึ้น อาการโยกสะโพกให้ร่องหีรูดลำควยเร่งกระชั้นถี่ขึ้นอีกเล็กน้อย และตามมาด้วยอาการเกร็งกระตุก พิมผกาอัดบี้ร่องหีแช่คาไว้บนท่อนควยของกวินพร้อมเสียงครางแผ่วๆ และเสียงหอบหายใจอย่างสุขสม กวินรู้แล้วว่าพิมผกานั้นน้ำแตกไปแล้ว เมื่อเธอทิ้งตัวลงหอบหายใจอยู่บน-อกเขาสองมือยังคงลูบไล้อย่างแผ่วเบาไปทั่วร่าง ตั้งแต่ทั้งสองแลกจูบกันจนกระทั่งพิมผกาสำเร็จความเสียวไปนี้กินเวลาไปแค่ไม่ถึง 5 นาที แต่ในความรู้สึกของทั้งสองกลับรู้สึกเหมือนกับว่ามันยาวนานนับปีนับชาติ ..... พิมผกาที่นอนซบแก้มนวลอยู่บนแผงหน้าอกของกวินขยับเล็กน้อย ประทับจูบแผ่วเบาที่ปลายคางของกวิน "วินขา.....กวางมีความสุขที่สุดเลยค่ะ....รู้มั้ย....วินขา.....เดี๋ยวกวางทำให้วินนะคะ..." จบคำนั้นกวินรู้สึกได้ถึงการรุกรานของสองมือเล็กๆที่สอดเข้ามาใต้หน้าท้องของทั้งสองที่ประกบกันอยู่ สองมือนั้นกระทำอย่างชำนาญและแผ่วเบา ไม่นานนักเข็มขัดก็ถูกแก้ออกกวินรู้สึกเหมือนกับว่ามันหลุดออกพร้อมๆกับตะขอกางเกงของเขาด้วยซ้ำ ซิปที่ถูกดันโดยท่อนควยลำเขื่องของเขาถูกรูดลงอย่างติดขัดเล็กน้อย พิมผกาโหย่งตัวขึ้นเป็นลำดับเธอค่อยๆบรรจงถอดรูดกางเกงของกวินออกทางปลายเท้า กวินต้องผงกหัวขึ้นดูการกระทำของพิมผกาเมื่อเขารู้สึกเย็นๆที่ท่อนควย เพราะพิมผการูดกางเกงเขาออกพร้อมๆกับกางเกงในที่เขาสวมใส่อยู่ จนกระทั่งสิ่งกีดขวางนั้นมันพ้นจากร่างของเขาไปแล้ว กลุ่มเมฆคล้อยเคลื่อนออกไปแล้ว แสงจันทร์นวลผ่องสาดแสงเย็นตาลงสู่บึงน้ำใสนิ่ง พิมผกาสองตาลูกโชนจ้องมองท่อนควยที่ดีดผงาดออกมาตั้งเป็นลำทะมึนอยู่ที่หว่างขาของกวิน เธอมองมันอย่างหลงไหลงมงาย สองมือสั่นสะท้านลูบคลำอย่างแผ่วเบาและทะนุถนอมไปบนท่อนควยนั้นเหมือนกับว่าเธอพบเจอสิ่งของสุดรักที่หายไปจากเธออย่างยาวนาน พิมผกากำโอบมันด้วยสองมือลูบไล้ลงไปถึงพวงเนื้อที่ห้อยย้อยอยู่ข้างล่างนั้น และเหมือนกับเธอต้องการเห็นมันอย่างเต็มตาในสายตาของกวิน เมื่อพิมผกาค่อยๆเคลื่อนใบหน้าสวยหวานเข้ามาใกล้เป็นลำดับ พิมผกาบรรจงจูบอย่างแผ่วเบาลงบนปลายควยที่เต็มไปด้วยเมือกลื่นไล้ลิ้นวนเลียลงไปช้าๆรอบๆปลายหัวนั้น กวินตัวเกร็งกระตุกสะโพกยกเด้งขึ้นไปเองโดยอัตโนมัติโดยที่พิมผกาเองก็มิได้ระวังปลายควยที่เปียกเยิ้มไปด้วยเมือกลื่นปริ่มๆนั้นถากไถริมฝีปากอ่อนละมุนของเธอพาดผ่านข้างแก้มขาวนวลถากเฉี่ยวไปจนถึงหางคิ้วเพราะเธอเองก็กำลังก้มหน้าเข้าหามันอยู่พอดี พิมผากรีบใช้สองมือโอบกำโคนควยของกวินไว้ออกแรงกดลงไปมันยิ่งเป็นการดึงรั้งหนังหุ้มปลายควยลงมาทำให้ปลายหัวควยนั้นถอกออกแผ่ปลายเงี่ยงออกมา ริมฝีปากน้อยๆเผยออ้าออกจูบลงไปบนปลายถอกของกวินให้ปลายควยค่อยไหลเลื่อนผ่านริมฝีปากคู่บางนั้นเข้าไปช้าโดยเธอห่อลิ้นรออยู่ภายในโพรงปากจนเมื่อปลายควยผ่านล่วงเข้าไปในโพรงปากแล้วพิมผกาจึงใช้ลิ้นตวัดรับ แล้วแหย่ปลายลิ้นดุนดันใส่รูเยี่ยวกลางหัวถอกนั้นพร้อมทั้งขยี้ปลายลิ้นสะบัดใส่รูกลางหัวควย กวินสะท้านไปทั้งตัวสองมือผวาโอบจับไปที่หัวของพิมผกา แต่ก็เพียงแค่จับไว้เท่านั้น อาการที่เกิดขึ้นของกวินนี้พิมผการับรู้ได้โดยตลอด เธอเริ่มโยกศรีษะของตัวเองขึ้นลงช้าๆพร้อมๆกับเพิ่มแรงดูดในโพรงปากของเธอมือที่จับโคนควยของกวินก็เริ่มกระทอกไปด้วยช้าๆและเร่งเร็วขึ้นตามลำดับ ความเงี่ยนง่านของกวินปะทุขึ้นอย่างเต็มที่ ซึ่งพิมผกาเองก็เช่นกันเธอรู้สึกได้ถึงอาการตอดขมิบที่เกิดขึ้นในโพรงหีของเธอเองในตอนนี้หยาดเมือกแห่งความเงี่ยนง่านหลั่งไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง จนเมื่อแรงจับที่ศรีษะของเธอเพิ่มมากขึ้นซึ่งมันมาพร้อมๆกับอาการเกร็งจากร่างกายของกวิน พิมผการูดปากออกจากท่อนควยของกวินอย่างรวดเร็วเหมือนสะบัดหน้าหนีขึ้นมามือที่จับกำท่อนควยก็ปล่อยออก ปล่อยให้ท่อนควยลำเขื่องของกวินตั้งส่ายโดกเดกเส้นเอ็นตามลำควยเต้นกระตุกปลายถอกแดงเข้มเหมือนมันจะโกรธอะไรซักอย่าง กวินเองนั้นแทบจะผวาลุกขึ้นทั้งตัวตามจังหวะการสะบัดปากออกจากท่อนควยของพิมผกานั้น เขารู้สึกอย่างฉับพลันถึงความโหวงเหวง ไร้เขา ไร้เรา เหมือนมีตัวตนแต่ไม่มี ไร้แผ่นฟ้า สิ้นแผ่นดินให้ทรงกาย ไม่สามารถบอกบรรยายได้โดยละเอียดถึงความรู้สึกที่เกิดขึ้นในตอนนี้ เป็นความรู้สึกที่เหมือนวิญญาณถูกกระชากออกจากคราบร่าง ท่อนควยหยาบใหญ่ยังเต้นกระตุกอยู่แต่เหมือนกับว่าการรับรู้ของกวินขาดสิ้นไปแล้วโดยสิ้นเชิง ไม่รู้แม้กระทั่งว่าขณะนี้คุณแม่พิมผกาของเขานั้นขณะนี้ได้ลุกขึ้นยืน และค่อยๆปลดเปลื้องเสื้อผ้าที่หลงเหลืออยู่บนร่างของเธออยู่ที่เบื้องหน้าของลูกชายสุดที่รัก ที่อยู่ในลักษณะครึ่งนั่งครึ่งนอนคนนี้ พิมผกาบอกตัวเองในใจอย่างคนที่จมอยู่ในห้วงรักดั่งสาวแรกรุ่นว่า เธอพร้อมที่จะมอบทุกสิ่งทุกอย่างให้แก่ชายที่อยู่ตรงหน้าคนนี้แล้ว ถึงแม้คนผู้นี้จะเป็นลูกชายแท้ๆของเธอเองก็ตาม ...........

พิมผกา

"สวัสดีค่ะคุณกวิน วันนี้ไม่ทราบว่าป่วยเป็นอะไรคะ?? เอ่อ คุณนรากรกลับไปก่อนก็ได้นะคะ เดี๋ยวคนไข้รายนี้กวางรับไว้เองค่ะ" หญิงสาวเจ้าของชื่อนรากรเงยหน้าขึ้นนิดหนึ่งเมื่อเห็นผู้ที่เปิดประตูเข้ามาแล้ว เธอก็ยิ้มให้เขาผู้นั้นอย่างเป็นกันเอง และตอบกลับไป "จ้ะๆ แหม.....พอคนไข้ส่วนตัวมาเข้าหน่อยไล่เพื่อนไล่ฝูงเลยนะ รักษากันให้ดีๆนะจ๊ะ ระวังอย่าให้คนไข้ช้ำล่ะงั้นชั้นไปก่อนนะยะ" นรากรหยิบกระเป๋าขึ้นจากบนโต๊ะแล้วเดินออกไปจากห้องโดยที่ก่อนจากไปเธอก็ไม่ลืมที่จะยิ้มให้ชายหนุ่มที่เพิ่งจะเข้ามาพร้อมทั้งรับไหว้จากเขาด้วย กวินยิ้มแหยๆเมื่อร่างของนรากรลับตาไปแล้ว เขาจึงหันกลับมาแล้วบ่นอู้อี้ "โธ่คุณแม่ครับ เมื่อไหร่จะเลิกทักผมแบบนั้นซะทีนะ น้านรากรก็พลอยผสมโรงไปด้วยอีกคน" พิมผกาหรือกวาง หัวเราะคิกอย่างสบอารมณ์ "จ้าๆ....พ่อหนุ่มหน้าบาง แม่ขอโทษค่ะ แต่ว่าก็ว่าเถอะระวังตัวไว้นะ อย่าเจ็บไข้ได้ป่วยมาก็แล้วกัน ถึงมือแม่หรือยัยเล็กเมื่อไหร่ละก็น่าดูชมแน่" กวินเบ้หน้าแสยะล้อเลียนมารดานิดหนึ่ง "แบร่....จ้างให้ก็ไม่มาหรอก โรงบาลนี้อ้ะ ว่าแต่ว่า ผมหิวแล้วนะแม่ ไปหาไรทานกันก่อนได้มั้ยอ้ะคับ" พิมผกาหรี่ตามองลอดแว่นดูลูกชายสุดสวาทอย่างคนเจ้าเล่ห์ "เอ๊าะอ๋อ.....หิวนี่เอง....ตังตัวเองก็มีไม่ไปหากินเอาล่ะเจ้าคะ ต้องมารอเค้าทำไมล่ะฮึ..." กวินเป่าปากตาเหล่รู้สึกปวดเศียรเวียนเกล้าขึ้นมาฉับพลัน "เค้า??....โธ่...กำ....แม่คร้าบบ....เลิกล้อผมเล่นได้แล้วน่า....แล้วก็....ตังอ้ะมันก็มีอยู่หรอก....แต่มะอยากจ่าย...อย่าดื้อนะคร้าบคุณแม่คนสวย..คุณแม่ผู้น่าาาาา..ร้าาากกกก..ที่สุดของผม เลี้ยงลูกชายสุดที่รักวันนี้ซักมื้อละกันนะครับ" กวินบ่นๆนิดหน่อยแล้วจึงอ้อนกลับไปบ้าง คนพูดนั้นพูดโดยไม่ตั้งใจ แต่คนฟังหูผึ่งทันที ถามสวนกลับไปทันทีแต่ด้วยน้ำเสียงหงุมหงิมแบบเขินๆ"จริงรึเปล่าจ๊ะไอ้ที่พูดน่ะ" กวินยังตามไม่ทันเกาหัวแกรกๆแล้วถามกลับไป "อ่ะ..อะไรครับ อะไรจริงครับ..." พิมผกาก้มหน้างุด "ก็ที่ว่าแม่สวย แม่น่า.......น่ารักน่ะ จริงเหรอ??" กวินเป่าปากพรู "โถ....โถ.....นึกว่าอะไร ก็จริงสิครับ แม่น่ะไม่รู้ตัวมั่งเลยเหรอว่าแม่น่ะไม่ได้ดูแก่ไปเลยซักกะนิดเดียวใครมองผาดๆก็คิดว่าแม่น่ะอายุซัก 26-27 เท่านั้นแหละ แล้วผมก็เห็นหลายหนแล้วนะ ที่มีผู้ชายหลายๆคนมองแม่ตาเป็นมันแล้วมากะลิ้มกะเหลี่ยน่ะตั้งแต่ที่ทำโรงบาลเก่าก่อนที่แม่จะย้ายมาเนี่ย แล้วนี่ยังไม่รู้เลยว่ามีเหมือนที่เก่ามั้ย สงสัยผมต้องมารับทุกวันแล้วมั้งเนี่ย หรือยังไงครับคุณแม่??" พิมผกายิ่งหน้าแดงมากขึ้นถามอ้อมแอ้ม "ลูก....ลูกหวงแม่เหรอจ๊ะ??" บางสิ่งบางอย่างวูบเข้ามาในความคิดของกวิน ทำให้เขาตอบไปอย่างไม่ต้องคิด "อ๊ะ...แน่นอน...หวงสิครับแม่ผมทั้งสวยทั้งน่ารักออกอย่างนี้ มะหวงด้ายงาย" พิมผกาพยายามหุบยิ้มลงแสร้งปั้นหน้าอย่างเคร่งเครียด "เอาๆ จะให้แม่เลี้ยงข้าวแน่นอนว่างั้นเถอะ...อืมมม ก็ได้นะแต่มีข้อแม้นะจ๊ะ" กวินทำหน้างงๆถามอ้อมๆแอ้มๆ "อ่ะ...อะไรอ้ะคับอย่าบอกว่าจะให้ผมล้างสระว่ายน้ำเองอีกนะ.." พิมผกาย่นจมูกค้อนให้นิดหนึ่ง "บ้า...ใครเค้าจะไปใช้ลูกชายสุดที่รักให้ไปเหนื่อยยังงั้นล่ะยะ ร้อนตัวซะจริง ข้อแม้ของแม่น่ะง่ายๆ วันนี้ขอแม่ยืมตัวลูกควงซักวันนึง แล้วก็วันนี้แม่อยากดูหนังน่ะจ้ะถ้าได้ตามนี้ก็ไปเลย แต่ถ้าไม่ ก็ตัวใครตัวมัน" กวินสะดุ้งไปนิดหนึ่งกับความคิดแผลงๆของแม่ "เอ...จะ..จะดีเหรอครับแม่ แล้วไอ้ควงนี่ ควงยังไงอ้ะคับ" พิมผกาเอียงคอยิ้มจนเห็นลักยิ้มทั้งสองข้างแก้ม เพิ่มความน่ารักเข้าไปอีกสำหรับผู้ได้พบเห็น "เอาน่า เอาเป็นว่าตามใจแม่หน่อยก็แล้วกันแม่อยากทำไรลูกก็ตามใจแม่แค่นั้นแหละ ตกลงหรือไม่ตกลง" กวินยกมือเกาหัวแกรกกรากแล้วพยักหน้ารับอย่าง งงๆ "อ่ะ.อ่ะ..คับๆ เอาไงก็เอา แต่ตอนนี้ผมหิวแล้วอ้ะหิวมากๆด้วย ถ้าแม่ยังชักช้าอีก ผมอาจจะกลืนแม่เข้าไปทั้งตัวเลยก็ได้นะ...แฮ่....." กวินรับปากและเร่งอย่างขันๆ พร้อมทั้งทำท่าขู่หลอกพิมผกา เป็นการพูดเล่นอย่างไม่ตั้งใจ แต่คนฟังกลับตั้งใจฟัง พิมผกาหน้าแดงเข้มขึ้นอีกครั้งพูดงึมงำอย่างที่กวินรับฟังได้ไม่ถนัดนัก "ชิ...แล้วถ้าแม่ให้กินจริงๆล่ะ...จะกล้ากินมั้ย..." ความรู้สึกนึกคิดบางอย่างผิดปกติไปจากที่ควรจะเป็นกำลังเกิดขึ้นกับเธออย่างเงียบๆ พิมผการีบจัการเก็บข้าวของบนโต๊ะทำงานคว้ากระเป๋าขึ้นสะพายไหล่แล้วพาลูกชายเดินออกจากห้องทำงาน เมื่ออกมานอกห้องทำงานพิมผกาชลอฝีเท้าให้กวินเดินขึ้นมาเคียงอยู่ด้านข้าง เมื่อกวินตามขึ้นมาทันในตำแหน่งอันเหมาะสมเธอก็คว้าแขนลูกชายดึงตัวเข้ามาแนบด้านข้างตัวของเธอแล้วคล้องแขนเขาไว้ในวงแขนเธอทันที กวินทำหน้าเหวอๆงงๆพยายามจะแกะแขนออกแต่กลับได้ยินเสียงกระซิบดุๆดังเข้าหูมา "จุ๊ๆ..เดินไปตามปกติอย่างนี้แหละ ก็ลูกไม่อยากให้ใครมาจีบแม่ไม่ใช่เหรอจ๊ะ..." กวินเหลียวซ้ายแลขวาล่อกแล่ก แล้วกระซิบตอบ "อัน..อันนั้นก็ใช่ครับแต่ทำแบบนี้มันจะดีเหรอครับแม่เดี๋ยวใครรู้ใครเห็นเค้าจะเอาไปพูดกัน แม่จะเสียนะ" พิมผกาเอียงคอนิดหนึ่งซบลงไปที่ต้นแขนลูกชายแล้วกระซิบ "ที่นี่น่ะนอกจากยัยเล็ก(นรากร) แล้วก็ไม่มีใครที่นี้เค้ารู้หรอกว่าเราน่ะเป็นแม่ลูกกัน วินสัญญากับแม่แล้วไงว่าจะตามใจแม่วันนี้น่ะ" เมื่อถูกทวงสัญญากวินจึงนิ่งเงียบยอมรับสภาพโดยดุษณี และพยายามที่จะไม่นึกถึงก้อนเนื้อหยุ่นๆ ที่กำสีอยู่ที่ข้างแขนของเขาในขณะนี้ เมื่อลิฟต์เปิดประตูอ้าออกทั้งสองคนก็เดินเข้าไป ในลิฟต์ตอนนี้มีคนมากพอสมควร แต่ก็ยังสามารถรองรับได้อีก4-5คน เมื่อประตูลิฟต์ปิดลงทั้งสองไม่จำเป็นต้องกดชั้น เพราะมีคนกดชั้นเดียวกันไว้อยู่แล้วพิมผกายังคงคล้องแขนกวินไว้หลวมๆ เหลียวมองดูผู้คนในลิฟต์ก็ไม่พบใครที่รู้จักเลยคาดว่าน่าจะเป็นญาตผู้ป่วยซะมากกว่า แต่เมื่อลิฟต์เลื่อนลงมาได้แค่ชั้นเดียวก็หยุดลง และประตูเปิดออกอีกครั้ง คราวนี้มีคนเดินเข้ามาเพิ่มอีก5คน ทำให้พื้นที่ในลิฟต์เหลือน้อยลงไปถนัดตา กวินจึงต้องถอยตัวเองเข้าไปตรงกลาง และเอาตัวบังผู้ชายคนหนึ่งไว้แล้วดึงพิมผกาให้มายืนซ้อนตัวเขาอยู่ข้างหน้าอีกที 5 คนที่เข้ามาทีหลังก็พยายามจัดหาตำแหน่งที่เหมาะสมให้กับตัวเองโดยไม่ได้สนใจคนที่ยืนอยู่ก่อนหน้านี้แล้วซักเท่าไหร่ผลที่ได้ก็คือ พิมผกาต้องถดถอยตัวเองไปข้างหลังอีกนั่นก็คือตัวเธอต้องไปยืนเบียดอัดอยู่กับตัวของลูกชาย แผ่นหลังเธอสัมผัสชิดกับหน้าอกของกวิน และที่รู้สึกถึงสัมผัสที่ชัดเจนยิ่งกว่าก็คือก้นงามงอนที่ซ่อนอยู่ใต้เนื้อผ้ากระโปรงสัมผัสกับอะไรอีกอย่างที่แฝงความอบอุ่นและมีสภาพรูปทรงที่เธอคุ้นเคย ถึงแม้จะผ่านมานานเกือบสิบปีแล้วก็ตาม เพียงเธอหลับตาก็สามารถวาดภาพมันได้ทันที พิมผกายืนก้มหน้าหลับตานิ่งเคลิ้มฝันไปกับจินตนาการที่เธอสร้างขึ้นเองการตอบสนองของร่างกายตามธรรมชาติเริ่มเกิดขึ้น พิมผกาเบียดอัดก้นงามงอนเข้าหาสิ่งที่แผ่ไออบอุ่นนั้น ให้สัมผัสกับมันได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ทางด้านกวินเองนั้นกลับตรงกันข้ามกับผู้เป็นแม่ อาการที่เกิดขึ้นกับพิมผกา กวินมองว่าเป็นเพราะคนที่เพิ่มเข้ามาเบียดเสียดเยียดยัดให้ลิฟต์แน่นขึ้นนั่นเอง ความซ่านเสียวที่ห่างหายไปนานที่พิมผกาไม่ได้นึกถึงหรือสัมผัสมาเนิ่นนาน บัดนี้มันกลับคืนมาอีกครั้ง เธอรู้สึกได้เพราะหลักฐานที่เยิ้มหยาดจากร่องหลืบซึมเยิ้มผ่านเนื้อผ้าลายลูกไม้บางๆ ความอยากตามธรรมชาติทวีขึ้นเป็นลำดับ มากขึ้นตามความเปียกเยิ้ม แต่ก่อนที่พิมผกาจะเตลิดไปมากกว่านี้ ประตูลิฟต์ก็เปิดออกอีกครั้ง เมื่อลิฟต์เลื่อนลงมาจนถึงชั้นล่างสุดแล้ว คนทั้งหมดทยอยเดินออกไป พิมผกาหงุดหงิดเล็กๆกับอารมณ์ที่ขาดตอนลงเธอเหลือบมองไปที่กวินด้วยสายตาที่เยิ้มหวานกว่าปกติ แล้วจึงเกาะแขนลูกชายเดินออกไปด้วยกัน ณ.ห้างสรรพสินค้าใหญ่บริเวณชานเมือง คราคร่ำไปด้วยผู้คน ที่ส่วนใหญ่มีจุดมุ่งหมายเพียงแค่เข้ามาเดินตากแอร์ มากกว่าที่จะซื้อของ กว่าจะฝ่าการจราจรที่ติดขัดแบบไม่ต้องมีเหตุผลออกมาได้ พิมผกาและกวินก็มาถึงเอาสองทุ่มจะครึ่งเข้าไปแล้วสองแม่ลูกที่ดูเหมือนคู่รักทั่วๆไปซะมากกว่า กำลังยืนเลือกที่นั่งจากโปรแกรมจองตั๋วหนัง "ตกลงเอาที่นั่งแบบเอ็มเพอร์เร่อร์เลยนะวิน แม่อยากลองดู" กวินหันไปพยักหน้ารับ "อืมมม ก็ตามใจแม่นะครับ ดีเหมือนครับผมก็อยากลอง" พิมผกาหลือบตามองหน้าจอเพื่อดูแถวที่ว่างอีกครั้งหนึ่ง "อืมมมม เอาแถวหลังนี่แล้วกันนะวิน ....." แล้วเธอก็เงยหน้าบอกกับพนักงานผ่านช่องกระจกเข้าไปพร้อมกับชี้นิ้วบอกจุด "ขอที่ตรงนี้ 2 ที่ค่ะ" พนักงานขายตั๋วก้มหน้าก้มตากดคีย์บอร์ดและยื่นส่งตั๋วให้เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย พิมผการับตั๋วหนังมาแล้วเดินจูงมือลูกชาย เดินออกมา เมื่อได้ร้านอาหารเหมาะๆทั้งคู่ก็เข้าไปสั่งอาหารและเครื่องดื่ม กวินหันไปถามพิมผกา "หนังฉายกี่โมงฮะแม่" พิมผกาก้มลงหยิบตั๋วขึ้นมาอ่านดู "รอบ 4 ทุ่มครึ่งจ้ะ(คิดว่ามีก็แล้วกันนะ)" กวินยกข้อมือขึ้นดูนาฬิกานิดหนึ่ง "อืมมม มีเวลาอีกถมเถ ว่าแต่ถ้าผมจำไม่ผิดพรุ่งนี้แม่ไม่ได้ไปทำงานใช่มั้ยครับ??" พิมผกาเงยหน้ามองดูลูกชายเอียงคอยิ้มโชว์ลักยิ้มอีกครั้ง "จ้ะ แม่ได้หยุดสองวันเลย ถึงได้กล้าเลือกดูเรื่องนี้ไง เห็นยัยเล็กบอกว่าหนังยาวตั้ง 3 ชั่วโมงกว่า" กวินหัวเราะเบาๆในลำคอ "ฮึ ฮึ...ถ้าผมหลับไปก่อนแม่อย่าลืมปลุกผมด้วยนะครับ ไม่รู้ว่าจะอยู่ดูจนจบได้มั้ย เมื่อคืนก็ปั่นรายงานทั้งคืน" พิมผกายิ้มให้ลูกชายอีกครั้งแล้วทั้งสองก็ทานอาหารกันไปหยอกล้อคุยกันไปจนกระทั่ง ทั้งคู่อิ่มหนำสำราญชำระเงินเป็นที่เรียบร้อยทั้งคู่เดินเตร็ดเตร่ชมโน่นชมนี่ไปเรื่อยจนเริ่มเบื่อ แต่ก็ยังเหลือเวลาอีกเกือบชั่วโมง กวินจึงหันไปชวนพิมผกา "แม่ครับแวะนั่งเล่นเน็ตกันก่อนดีมั้ยครับคิดซะว่าฆ่าเวลาก็แล้วกันผมมีอะไรต้องเช็คนิดหน่อยด้วยครับ" พิมผกาก็กำลังเมื่อยจึงตอบตกลง "อืมม ดีเหมือนกันจ้ะ แม่จะเข้าไปเช็คเมล์ด้วย" ทั้งคู่เดินเข้าร้านเน็ตที่อยู่ใกล้ๆไปทันที โดยขอใช้บริการสองเครื่อง ร้านนี้ยังมีคนใช้บริการกันอีกมากทั้งสองคนได้เครื่องที่ตั้งหันหลังชนกัน กวินเปิดเว็บไซ้ท์ที่เขาต้องการทันที เว็บนี้เป็นลักษณะของเว็บบอร์ด ที่เขาร่วมมือกับรุ่นพี่ที่ต่างวัยอีกสองคนร่วมกันจัดทำขึ้นมาวัตถุประสงค์เพื่อโพสท์เรื่องในจินตนาการแลกเปลี่ยนกันอ่าน เป็นเว็บที่ปกปิด เข้าเฉพาะผู้ที่ได้รับอนุญาตซึ่งปัจจุบันก็มีสมาชิกทั้งชายหญิงรวมๆกันประมาณ 70 คนได้ กวินเข้ารหัสพิเศษเฉพาะของเว็บมาสเตอร์ เพื่อทำการแก้ไขเพจซึ่งได้รับคำของร้องมาจากรุ่นพี่ที่ต่างวัยนั้น ผ่านไปประมาณ 15 นาที ทุกอย่างก็เสร็จเรียบร้อยกวินจึงได้เริ่มอ่านหัวข้อต่างๆที่สมาชิกได้มาโพสท์กันเอาไว้ วันนี้มีเรื่องใหม่เข้ามาอีก 3 เรื่องจากนักเขียนตัวยงของเว็บ และแน่นอนทั้ง 3 เรื่องเป็นแนวเรื่องครอบครัวล้วนๆ กวินอ่านผ่านตาคร่าวๆไปก่อน แล้วกวินก็เริ่มนึกถึงเหตุการในลิฟต์เมื่อตอนออกมาจากโรงพยาบาลที่แม่เขาทำงานอยู่ เนื่องจากมีอยู่เรื่องหนึ่งจากที่อ่านมีเหตุการณ์คล้ายๆกับที่เกิดขึ้นกับกวิน ความคิดหนึ่งแวบมาในสมอง กวินเปิดเว็บไช้ท์ฟรีอีเมล์ชื่อดังขึ้นมา แล้วทำการสมัครใหม่ทันที เมื่อเสร็จแล้วกวินก็เริ่มเขียนเมล์ใหม่ทันทีเหมือนกัน โดยเนื้อหาของเมล์นั้นแทบจะไม่ต้องเสียเวลาพิมพ์เลยเพราะกวินคัดลอกเรื่องจากในบอร์ดที่กวินอ่านมาเมื่อสักครู่นี้ แปะลงไปในเมล์นั้น แล้วจึงกรอกชื่อเมล์แอดเดรสของผู้รับแล้วกดส่งไปทันที จากนั้นก็เปิดเว็บไซ้ท์อื่นๆดูๆไปเรื่อยๆ พิมผกาเปิดเมล์มาเช็คเมล์ใหม่ได้สักครู่ก็ไม่มีอะไรจะทำ เธอจึงเปิดเว็บไซ้ท์ที่เกี่ยวข้องกับงานของเธอเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม เธอเจออยู่เว็บหนึ่งเป็นที่น่าสนใจมากจึงนั่งอ่านอยู่พักใหญ่ๆ แล้วเธอจึงตัดสินใจสมัครเป็นสมาชิกเพื่อขอรับข่าวสารและรหัสผ่านจากเว็บนี้ เพื่อจะได้ขอรับทราบข้อมูลที่มากกว่านี้ เมื่อสมัครเสร็จแล้วเธอก็ต้องกลับไปเช็คเมล์อีกครั้งเพื่อจะได้รับรหัสผ่าน แต่ครั้งนี้เธอแปลกใจเพราะมีเมล์เข้ามาสองฉบับอันนึงมาจากเว็บไซ้ท์ที่เธอสมัครสมาชิก แต่อีกอันมาจากใครก็ไม่ทราบ พิมผกาลังเลอยู่ครู่หนึ่งเธอจึงเลือกเปิดเมล์จากคนที่ไม่รู้ว่าใครก่อน เมื่อเธอกวาดตาอ่านไปได้ซักประมาณ4-5บรรทัด พิมผกาก็ไม่สามารถที่จะละสายตาออกจากเมล์ฉบับนี้ได้อีกแล้ว....มันเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับดาราสาวสวยสุดเซ็กซี่คนหนึ่งของวงการ ที่ต้องการจะมีอะไรกับลูกชายของตัวเอง อารมณ์ที่ค้างคาของพิมผกาถูกจุดให้คุโพลงขึ้นอีกครั้ง เพราะตัวอักษรทุกตัวที่ร้อยเรียงผ่านสายตาเธอนั้นเป็นเสมือนตัวแทนของจินตนาการความต้องการของเธอทั้งสิ้น เมื่ออ่านไปมากๆเข้ามันทำให้เธอแทบจะเสร็จตามตัวละครในเรื่องไปซะให้ได้ พิมผกาพยายามเบียดขาทั้งสองให้ชิดกันมากขึ้นขยับต้นขาเบาๆช้าๆให้เนื้อเสียดสีกันแต่มันก็ไม่ได้ช่วยบรรเทาความต้องการของเธอให้ลดลงไปได้เลย เธอค่อยๆเอียงคอชะโงกหัวมองข้ามจอคอมฯที่บังระหว่างเธอกับกวิน เห็นกวินนั่งจ้องจอคอมฯของเขาอย่างตั้งอกตั้งใจ แล้วพิมผกาก็วกสายตากลับมานั่งอ่านส่วนที่เหลือต่อไป แต่ก็เหมือนฟ้ากลั่นแกล้ง เรื่องราวกลับจบเอาดื้อๆมันทำให้ความหงุดหงิดงุ่นง่านของเธอกลับมาอีกครั้ง แล้วเธอก็ต้องสะดุ้งเมื่อรู้สึกว่ามีมือของใครบางคนวางหมับลงบนหัวไหล่เธอทั้งสองข้างพร้อมกัน และยังบีบขยำหัวไหล่เธอเบาๆพร้อมทั้งลมหายใจอุ่นๆที่เป่ารดใส่กกหูด้านหลังของเธอ พิมผกาเหลียวกลับอย่างรวดเร็ว จึงเห็นว่าเป็นกวินนั่นเอง "แม่ครับ เป็นอะไรรึเปล่าอ้ะ เหลือเวลาอีก 10 นาทีเอง เราไปกันเถอะครับแม่" พิมผกาถอนใจยาวอย่างโล่งอกเมื่อเห็นว่าเป็นลูกชาย เธอพยักหน้ารับแล้วลุกขึ้นหยิบกระเป๋าสะพายเดินออกจากร้านเน็ตนั้นพร้อมกับกวิน แล้วพิมผกาก็ต้องเอะใจเมื่อถูกกวินยื้อยุดฉุดแขนเธอเพื่อให้เดินแนบชิดไปกับเขาแต่เธอก็ไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างไรมิหนำซ้ำเธอยังสอดแขนคล้องแขนลูกชายไว้พร้อมกับเบียดด้านข้างของฐานนมให้คลึงเคล้าเสียดสีอย่างแผ่วเบาเหมือนไม่ตั้งใจไปกับท่อนแขนกวินซะอีก เหลือบตาขึ้นมองหน้าลูกชายแวบหนึ่งแล้วพูดเบาๆ "เอ๊ะ นี่นึกยังไงถึงได้ดึงแม่เข้ามาเดินซะชิดแบบนี้ล่ะทีเมื่อหัวค่ำไม่เห็นเป็นแบบนี้เลยนี่" กวินหัวเราะเบาๆในลำคออีกครั้งแล้วก้มหน้าเอียงไปกระซิบตอบ "อ้าว...ก็แม่บอกว่ายืมตัวผมมาควงไม่ใช่เหรอครับ ยังไงๆ ผมก็รับค่าจ้างแม่มาแล้ว ก็คือแม่เลี้ยงข้าวผมกับหนังอีกเรื่อง ผมก็ต้องบริการตอบให้ซะหน่อย หรือว่าแม่ไม่เอาแล้ว??" เสียงเพียะเบาๆเมื่อพิมผกาตีต้นแขนของกวินแทนคำตอบ แล้วทั้งคู่ก็มาถึงในโรงหนังจากการนำของพนักงาน แนะนำการใช้เก้าอี้และอื่นๆ เมื่อเสร็จเรียบร้อยก็จากไป มันเป็นเก้าอี้แบบปรับเอนนอนสุกหรูหราออกแบบมาเพื่อความสบายในอิริยาบทขณะรับชมภาพยนต์ เก้าอี้ถูกจัดวางเป็นคู่ๆโดยแต่ละคู่จะคั่นกลางด้วยเทอเรสเล็กๆสำหรับวางแสน็คและเครื่องดื่มเมื่อทั้งคุ๋นั่งเรียบร้อย หนังตัวอย่างก็เริ่มฉายกวินกวาดตามองไปรอบๆก็เริ่มแปลกใจ เพราะทั้งโรงตอนนี้มีเพียงเขากับแม่เพียงสองคนเท่านั้น แล้วก็ต้องหันขวับกลับไปเมื่อพิมผกาสะกิดแขน "วินๆ ช่วยดูเก้าอี้แม่ให้หน่อยสิ มันเป็นไรไม่รู้ ทำไมมันปรับเอนไม่ได้ล่ะ??" กวินลุกขึ้นไปช่วยปรับอยู่ครู่หนึ่ง ก็ไม่เป็นผล " เอ...ไม่ได้เรื่องเลยแฮะ สงสัยจะเสีย เดี๋ยวผมไปเรียกพนักงานเขามาดูนะ" แต่ยังไม่ทันที่จะได้ก้าวออกไปพิมผกาก็ฉุดแขนเอาไว้ "มะ..ไม่เป็นไรมั้งจ๊ะวินช่างมันเถอะ" กวินเกาหัวแกรก "อ้าวช่างมันได้ไงอ้ะครับตั้ง 300" พิมผกาจูงกวินให้ไปนั่งที่เก้าอี้ของเขาแล้วเธอก็ซุกตัวนั่งเบียดลงไปด้วย "ชิ...พูดอย่างกะจ่ายตังค์เองงั้นแหละ เอาเถอะ นั่งตัวเดียวกันนี่แหละ เก้าอี้ออกจะใหญ่โต ขอแม่นั่งด้วยคนนะจ๊ะ" กวินอดขำซะไม่ได้แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร "เอาๆ...ตามใจขอรับคุณแม่ที่เคารพ เอาไงเอากัน แล้วอย่ามาบ่นว่าเมื่อยนะครับ" แล้วทั้งคู่ก็นั่งเบียดอยู่บนเก้อี้ตัวเดียวกันไป จนกระทั่งผ่านหนังตัวอย่างไปได้ประมาณ 10 นาที ก็มีชายหนุ่มหญิงสาวอีกคู่หนึ่งจูงมือกันเข้ามาแล้วเดินเลยแถวที่ทั้งสองนั่งอยู่ลงไปอีกสองแถวจนกระทั่งหนังเริ่มฉายก็ไม่มีแววว่าจะมีคนเข้ามาดูเพิ่มอีกเลย เก้าอี้ถูกปรับเอนราบลงไปแล้ว อากาศเย็นลงเรื่อยๆเนื่องเพราะคนมีน้อย สองแม่ลูกเอนกายเบียดกันอยู่บนเก้าอี้ตัวกันเช่นนั้น พิมผกาในหัวเธอตอนนี้มีแต่เรื่องดาราสาวที่เพิ่งได้อ่านมาจากเมล์ที่ไม่รู้ว่าใครเป็นคนส่ง เนื้อเรื่องและสิ่งที่เกิดขึ้นในเรื่องเฝ้าวนเวียนอยู่ในห้วงคำนึงของเธอทุกบททุกตอน จินตนาการของพิมผกาเตลิดเปิดเปิงจนสุดกู่ เมือกเหนียวลื่นชุ่มฉ่ำส่งสัญญาณออกมาเป็นระลอกกล้ามเนื้อในหลืบเร้นเต้นตอดเป็นจังหวะ ยิ่งโดยเฉพาะได้เบียดอัดอยู่กับร่างอุ่นที่ข้างกายเธอตอนนี้ "วินจ๊ะ แอร์เย็นจังเลยนะ"รำพึงเบาๆแว่วผ่านเข้าหูกวิน เขาขยับตัวนิดหนึ่ง "แล้ว....แล้วแม่หนาวมากมั้ยครับ.....แต่เอ....จะให้ผมทำไงดีล่ะ แจ็คเก็ตฟิลด์ของแม่ก็อยู่ในรถซะด้วย ผมลงไปเอามาให้ดีมั้ยครับ" พิมผกาถือโอกาสจับแขนลูกชายเธอไว้อีกครั้งแล้วดึงเข้ามาให้แนบชิดตัวเธอมากขึ้นเมื่อเห็นกวินขยับตัวทำท่าจะลุกขึ้น "มะ...ไม่เป็นไรจ้ะ ว่าแต่ลูกไม่หนาวเหรอ??" กวินยิ้มให้ในเงามืดสลัวนั้น "ก็หนาวอ้ะนะครับแต่พอทนได้แม่หนาวมากเลยเหรอครับ" พิมผกาก็หน้าแดงซ่านในเงามืดนี้เช่นกันพยักหน้าตอบไป "ก็...หนาวนะแต่ถ้าได้เบียดกับลูกแบบนี้แล้วแม่รู้สึกอุ่นขึ้นเยอะเลยหล่ะ"กวินก็สวนคำไปทันทีเหมือนกัน "แล้วถ้ามากกว่านี้อีกล่ะครับ...." เหมือนจะนึกขึ้นได้ คำพูดเขาจึงหยุดอยู่แค่นั้น แล้วจึงพูดอ่อยๆต่อมา "ผม...ผมหมายถึงว่าแม่เบียดมาอีกก็ได้ครับถ้าจะทำให้แม่สบายขึ้น" กวินจงใจเน้นเสียงตรงคำว่า สบายโดยเฉพาะและก็ไม่ด้อยไปกว่ากันเลยเมื่อพิมผกาก็ต่อกลับมา "ถ้าได้กอดแบบนี้ด้วยแม่ก็อยู่ได้ทั้งคืนเลยแหละจ้ะ" พร้อมกับคำพูดพิมผกายกหัวขึ้นดึงแขนข้างหนึ่งของกวินให้พาดขวางลงไปแล้วปล่อยศรีษะลงหนุนท่อนแขนนั้นไว้แล้วดึงอีกมือของลูกชายให้มาโอบกอดเธอไว้กวินฝืนๆอยู่หน่อยหนึ่งแล้วก็ปล่อยตัวตามสบาย แต่เพิ่มแรงกอดรัดใส่ร่างเย็นเฉียบแต่นุ่มแน่นนั้นมากขึ้นแล้วทั้งคู่ก็ดูหนังต่อไป ผ่านไปอีกสักครู่ฉากในหนังก็เปลี่ยนไปกลายไปเป็นฉากรักโรแมนติกแล้วต่อด้วยบทแสดงรักของดาราชายหญิงในจอ กวินเริ่มมีอารมณ์คล้อยตาหนังประสาทสัมผัสทุกส่วนตื่นตัวขึ้นแขนข้างที่ถูกพิมผกาหนุนนอนอยู่นั้นงอพับเข้ามาช้อนเข้าใต้รักแร้ฝ่ามือสัมผัสอยู่ข้างฐานเต้าที่มีเสื้อและผ้ายกทรงบางๆปิดกั้นอยู่นั้น ด้านพิมผกาอารมณ์เก่าจากที่อ่านเมล์ลึกลับยังไม่ทันจะนอนก้นดีวคามรึ้กที่ได้จากในหนังก็เข้ามาช่วยปลุกเร้าเธอเข้าไปอีกจนเมื่อฝ่ามือของลูกชายสอดล้วงเข้ามาใต้รักแร้แล้วประกบวางอยู่ข้างเต้านมของเธอ ความสยิวก็เพิ่มขึ้นมาพิมผกาสะดุ้งเล็กน้อยแต่จากอาการสยิวมากกว่าอาการตกใจ ตาที่จับจ้องจอหนังหรี่ปรือลงอีกเล็กน้อยร่างกายเบียดอัดเข้าหาลูกชายอีกเอาด้านหน้าของเต้านมบดอัดทิ่มแทงด้านข้างของกวิน อีกทือหนึ่งที่โอบกอดพิมผกาไว้ก็ค่อยๆไล้เลื่อนลงจนถึงแนวสะโพกของพิมผกาแต่ก็หยุดไว้แค่นั้นเมื่อพิมผกาเด้งสะโพกเบาๆเข้าอัดสีข้างของเขาแล้วบดอัดแช่นิ่งอยู่แค่นั้น ตั้งแต่เริ่มกอดกันนั้นแขนข้างหนึ่งของพิมผกาวางทอดอยู่บนหน้าท้องของกวินตรงบริเวณหัวเข็มขัดอยู่แล้ว บัดนี้เธอสัมผัสได้ถึงไออุ่นแผ่วๆที่คลี่ขายขึ้นมาจนถึงแขนของเธอ พิมผากขยับแขนเลื่อนลงไปอย่างช้าๆแทบจะมิลลิเมตรต่อมิลลิเมตรจนกระทั่ง.... แขนของเธอปะทะกับอะไรบางอย่างที่รอรับอยู่นั้นอย่างแผ่วเบา โดยสัณฐานค่อนข้างกลม-มน ระอุผ่าวตระหง่านเงื้อมดันผ้ากางเกงขึ้นมา เธอก็หยุดนิ่งอยู่แค่ตรงนี้เช่นกัน เหมือนรอดูอาการตอบสนองของอีกฝ่าย แล้วทั้งคู่ก็นิ่งเป็นดุษณีแค่นั้น แล้วกำซาบรับความรู้สึกจากทางร่างกายและจักษุต่อไป บทบาทในหนังบนจอเพิ่มดีกรีความระอุในด้านกามารมณ์มากขึ้นและเมื่อดำเนินมาถึงจุดสำคัญคือบทสอดใส่ในหนัง โดยแทบจะพร้อมกันมือของกวินที่แตะอยู่ด้านข้างของฐานนมพิมผกาก็คว้าหมับมาที่ด้านหน้าอีกกลายเป็นการบีบจับเต้าเต่งนั้นอย่งพอดีถึงแม้จะไม่ค่อยถนัดนัก และเช่นกันแขนของพิมผกาที่วางแตะปลายหัวอุ่นผ่าวนั้นก็เลื่อนลงอย่างรวดเร็วฝ่ามือน้อยๆของเธอก็คว้าหมับลงบนลำแท่งอุ่นนั้นเต็มกำมือ กำขยำบีบปล่อยอย่างเป็นจังหวะ เสียงครางเบาๆดังลอดไรฟันของทั้งคู่ออกมาอย่างแผ่วๆ ความต้องการที่เก็บกดกักไว้มานานของพิมผกาแตกระเบิดออกไปแล้วความเร่าร้อนรุนแรงในด้านเซ็กส์ที่ถูกเก็บซ่อนไว้ขยายตัวออกมา เช่นเดียวกับด้านของกวิน มือข้างที่วางแปะบนสะโพงงอนงามของพิมผกาผู้เป็นแม่เลื่อนเลื้อยลงไปบีบจับแก้มก้นที่ยังตึงเปรี๊ยะอย่างเต็มกำมือการเล่นเอาเถิดเจ้าล่อที่ดำเนินมานานของสองแม่ลูกถึงจุดสิ้นสุดแล้ว หลายครั้งหลายหนแล้วที่พิมผกาแอบฟังเสียงร่ำร้องเรียกชื่อของเธอในยามที่กวินลูกชายเธอกำลังนั่งกำควยชักว่าวไม่ว่าจะในห้องน้ำหรือห้องนอน และก็บ่อยครั้งเช่นกันที่กวินได้ยิเสียงครวญของพิมผกาที่เอ่ยชื่อเขาในเวลาที่เธอ.... แยงนิ้วซอยแยงแทงใส่รูหีของเธอแต่กวินดูเหมือนจะได้เปรียบมากกว่าเพราะเขาหาวิธีปีนป่ายแอบดูเธอได้อย่างจะจะ ในขณะที่พิมผกาได้แต่ฟังอย่างเดียว อาการเช่นนี้ของสองแม่ลูกดำเนินมาเกือบสองปีแล้ว บัดนี้องค์ประกอบทุกอย่างพร้อมสมบูรณ์แล้วสำหรับสองแม่ลูก มือที่บีบก้นกอยงอนงามอวบเต่งเนื้อแน่นเลื่อนละลงหาชายกระโปรงของพิมผกาถลกดึงรั้งขึ้นอย่างแผ่วเบา ปลายนิ้วกรีดเขี่ยเข้าจากทางด้านหลังผ่านผ้าบางๆที่กางกั้นเป็นชั้นสุดท้าย แค่สัมผัสถูกกวินก็รับรู้ถึงความเปียกเยิ้มของเมือกลื่นที่ถูกขับออกมาระลอกแล้วระลอกเล่าจนเปียกชุ่มผ้าบางๆนั้น ผลตอบสนองจากผู้เป็นแม่ก็คือเสียงซี้ดรอดไรฟันและแรงบีบกำที่กระทำต่อท่อนลำที่แข็งโชนอุ่นระอุนั้น เธอกำบีบมันอย่างแรงเพื่อคลายความเสียวที่เกิดขึ้น... กวินชักมือกลับมาบีบกุมมือแม่ที่กำลังกำควยของเขาอยู่ การตอบสนองที่ได้รับคือแรงกำบีบที่เพิ่มขึ้นให้กับท่อนควยที่แข็งปังของเขาเหมือนเป็นการตอบรับ กวินจึงละมือออกจากมือของแม่ เลื่อนขึ้นมาปลดเข็มขัดและตะขอกางเกง ความร่วมมือสอดประสานเกิดขึ้นทันทีเหมือนกันเมื่ออีกมือหนึ่งที่ไม่ใช่มือของเขาจับซิปกางเกงรูดลงไป กวินจับขอบกางเกงในตัวเองดึงรั่งร่นลงไปปล่อยให้ท่อนควยแข็งโชนดีดตัวขึ้นมาตั้งเด่รับไอเย็นจากเครื่องปรับอากาศ แต่มันก็หนาวเย็นได้ไม่นานเพราะพิมผกาก็คว้ามาจับไว้เต็มกำมือด้วยอาการสั่นเทาอย่างประหลาดพร้อมเสียงครางฮึมหวานๆในลำคอ "อืมมม...ใหญ่จัง...ใหญ่มาก...ทำ...."เสียงกระซาบซิบของเธอขาดหายไปขาดตอนไปเฉยๆเหลือแต่เสียงอู้อี้ในลำคอ เพราะปากเธอถูกประกบปิดด้วยอีกปากหนึ่ง ริมฝีปากอ่อนนุ่มแห้งผากเริ่มชุ่มชื้นขึ้นด้วยหยาดน้ำลายจากชายที่เรียกว่าลูก ซึ่งตอนนี้กำลังดูดเม้มริมฝีปากเธอทั้งบน-ล่างสลับกันไปอย่างกระหาย แล้วพิมผกาก็ปล่อยลวดลายของแม่เสือสาวผู้หิวกามเมื่อเธอแยงแหย่งลิ้นสอดเข้าไปความนหาลิ้นของลูกชายอย่างเหนือชั้นในเชิงกาม ทำเอากวินลืมตาโพลงจ้องมองใบหน้าผู้เป็นแม่ซึ่งอยู่ติดชิดใกล้มากที่สุดอย่างที่ไม่เคยชิดมาก่อน แล้วก็ต้องรีบถอนปากออกมาแหงนหน้าสูดปากยาวเมื่อพิมผกากำควยของเขาดึงรั้งหนังควยให้ร่นลงไปจนเกือบสุดจนหนังที่หุ้มอยู่ปลายหัวถอกรั้งร่นลงไปเปิดหัวเงี่ยงบานแดงค้างไว้เช่นนั้นเธอยังใช้นิ้วหัวแม่มือคลึงวนอัดอยู่ที่ปากรูเยี่ยวบนปลายควยของลูกชายเพื่อเกลี่ยน้ำควยที่ไหลซึมออกมานั้นให้กระจายไปทั่วๆหัวควยใช้นิ้วที่เปรอะน้ำควยของลูกชายเธอเองละเลียดละเลงอย่างแผ่วเบาไปตามขอบหยักจนทั่วเป็นวง ความเสียวสะท้านจากมือคนต่างเพศที่กวินใฝ่ฝันมานาน ทำให้เขาเสียวสะท้านอย่างสุดกลั้น "อูวววว์....มะ..แม่ครับ...แม่....ผม..ผมเสียว ซี้ดดดส์....พอ..พอก่อนครับ" พิมผกาเงยหน้าไซร้าริมฝีปากเข้าใส่ซอกคอจนถึงติ่งหูลูกชายแล้วกระซิบด้วยเสียงกระเส่าพอๆกัน "ไม่ค่ะ....นี่ไม่ใช่แม่นะคะ....นี่กวางไงคะ กวางที่วินร่ำร้องเรียกหามาตลอดไงคะ ....เป็นไงคะวิน กวางจับของวินไว้แล้วไงคะอย่างที่วินเคยบอกว่าอยากให้กวางจับไงคะ...ดีมั้ยคะ" กวินหูผึ่งเข้าใจแล้วว่าตัวเองต้องเล่นบทไหน "อูยยย...คะ..คะ..ครับ..กวะ....กวาง...แล้วกวางจับอะไรวินอยู่น่ะรู้มั้ย" พิมผกาสะท้านเฮือกเหมือนจะสาแก่ใจเมื่อลูกชายพลิกบทอย่างรวดเร็วหันมาเล่นด้วยกับเธอแบบนี้ "ก็...แหม...ก็จับอยู่นี่ไงคะจะมาถามกวางทำไมอีกล่ะ" กวินยังไม่ยอมละความพยายามที่จะให้แม่พูดสิ่งที่อยากได้ยินจากปากแม่ "ถ้ากวางไม่บอกให้ชัดๆ วินไม่ให้จับแล้วนะ กวางจับอะไรของวินอยู่ครับ" ขู่เอาดื้อๆแบบนี้พิมผกาจึงเกิดอาการมันเขี้ยวเล็กๆวกหัวแม่มือกลับไปช่วยกำรอบลำควยขยับขึ้นมากำส่วนที่ต่ำกว่าปลายหัวถอกลงไปหน่อยนึง ที่แม้เธอจะพยายามบีบกำอย่างไรนิ้วเธอก็แทบจะไม่บรรจบกันได้อย่างครบรอบดีนัก แล้วกระตุกชักขึ้นลงอย่างรวดเร็ว แล้วกระเส่าเสียงกระซิบแผ่วที่ข้างหู "ก็..จับ...จับ ค ว ย ของวินอยู่ไงล่ะคะ" เฉพาะตรงคำว่าควยเสียงเธอแทบจะกลืนหายไปกับเสียงที่ดังจากลำโพงรอบตัวในโรงหนังนั้นแต่ขณะที่แผ่วคำว่าควยออกจากลำคอปฏิกริยาที่กระทอกควยนั้นกลับเร่งเร้ารุนแรง และเมื่อจบประโยคพิมผกาก็รูดหนังควยของลูกชายกลับขึ้นมาหุ้มหัวถอกบานร่านั้นไว้แล้วบีบมือใส่หัวควยหุ้มหนังนั้นอย่างแน่นกระชับ "หา...กวางว่าจับอะไรนะวินไม่ได้ยินเลยอ้ะ บอกอีกทีสิครับที่รัก" หยอดคำสุดท้ายอย่างเหนือความคาดหมายของผู้เป็นแม่ พิมผกาสะท้านเยือกกับสรรพนามนั้น ความหงี่ง่านแตกระเบิดออกอีกรอบอย่างสุดกลั้น "ควย....ควยค่ะวิน....กวางจับควยวินอยู่นี่ไงคะ...กวางชักว่าวให้วินนะคะ ให้กวางรูดควยให้วินนะคะ..นะ.." ออดอ้อนรำพันอย่างหมดยางอายเช่นนั้น กวินก็ทนฟังไม่ได้จึงต้องใช้ปากบดอัดปิดปากลิ้นพันเข้าไปช่วยอุดปากฉอเลาะออดอ้อนนั้นให้งเยบเสียงไปมือข้างเก่าวกกลับมาที่ชายกระโปรงที่ยังเลิกค้างไว้สอดแพนิ้วลงไปจากขอบกางเกงในตัวน้อยบีบขยำเนื้อก้นที่ยังเด้งเต่งตึงนั้นอย่างมันเขี้ยวแล้วจึงค่อยๆสอดนิ้วเลื้อยผ่านก้นกบผ่าลงกลางร่องก้น แต่ก็ต้องติดสะดุดนิดหนึ่งเพราะพิมผกาผวาเยือกเกร็งแก้มก้นขมิบเข้าหากันหนีบนิ้วซุกซนนั้นไว้ขณะหนึ่งประจวบกับนิ้วของกวินที่เพิ่งจะซุกมาถึงแค่ปากรูก้นเมื่อถูกหนีบจนเลื่อนต่อไปไม่ได้เขาจึงแก้เกมส์กันของแม่ด้วยการกดนิ้วเน้นๆลงบนปากรูนั้นอย่างหนำใจด้วยอาการกดๆยกปลายนิ้วเข้าใส่พิมผกาเสียวสะท้านกว่าที่เคยได้แต่แอ่นอัดเต้านมและเบียดสะโพกเข้าใส่ลูกชายครางอือๆอาๆในลำคอส่ายหน้าน้อยๆไปมาเหมือนจะบอกลูกชายว่าไม่ใช่รูนั้น และเมื่อเธอผ่อนคลายกล้ามเนื้อก่อนที่นิ้วประหลาดนั้นจะซุกมุดเข้าไปในรูแคบฟิตสดซิงนั้นได้ กวินซึ่งรอดักจังหวะอยู่ก็ฉกนิ้ววาบลงลึกไปหาอีกรูที่เปียกเยิ้มขมิบตอดไม่แพ้กันทันที แล้วรีบจิกปลายนิ้วกดทะลุเข้ารูหีที่สาดน้ำเงี่ยนออกมาอย่างต่อเนื่องนั้นเข้าไปอย่างง่ายดาย และต่อเนื่องด้วยการซอยนิ้วเข้าออกสั้นๆแต่ถี่เร็วที่ปากรูหีของพิมผกาซึ่งตอนนี้เสียวซ่านง่านเงี่ยนถึงขีดสุดจนได้แต่กำมือบีบควยของกวินค้างไว้แค่นั้นตอบโต้ไปได้แค่เพียงการขมิบรูหีตอดใส่ปลายนิ้วที่ซอยยิกอยู่กับปากรูหีเธอ น้ำหีทะลักกระเด็นออกมาจนเปียกชุ่มผ้าบางๆของกางเกงในจนชุ่มไปหมดเหมือนโดนวิดเอาน้ำออกมา พิมผกาสะบัดหน้าออกให้ริมฝีปากหลุดพ้นจากพันธนาการของปากและลิ้นของลูกชาย สูดปากครางเสียงยาวๆอย่างสะกดกลั้นระดับความดังทั้งๆที่ไม่จำเป็นเลยเพราะเสียงดนตรีจากหนังที่ฉายอยู่นั้นก็ช่วยกลบเสียงของเธอไปจนเกือบหมดอยู่แล้ว ท่อนขาทั้งคู่ที่เบียดชิดกันจากท่านอนตะแคงบัดนี้ขาข้างหนึ่งค่อยๆยกขึ้นก่ายพาดคล่อมไปทับท่อนควยของลูกชายที่ยังมีมือเธอเกาะกุมอยู่ด้วยอิริยาบทเช่นนี้เองทำให้กวินสามารถซอยนิ้วใส่รูหีตีบฟิตจากการร้างควยมานานของเธอได้สะดวกและลึกยิ่งขึ้น เหมือนเป็นการเชิญชวนกรายๆ ซึ่งเธอก็ได้รับการตอบสนองเป็นอย่างดีทันทีเพราะเธอสัมผัสได้ถึงความลึกที่เพิ่มขึ้นจากในรูหีของเธอ "อุ...อุ..อูยยย...ซี้ดดดส์.....กวะ....กวางไม่..ไม่ไหวแล้ว...ไม่ไหวแล้ว ไม่ไหวแล้ววววว...อึกกก....อี๊ยยยยย..."เสียงครวญครางเสียงร้องและลักษณะอาการท่าทางอย่างที่กวินเคยแอบดูแอบฟังมาเป็นปีๆกำลังเกิดขึ้นต่อหน้าเขาแล้วอย่างใกล้ชิดและด้วยมือของเขาเอง ยังความคึกคะนองเห่อเหิมให้กับกวินอีกหลายเท่าตัว ยิ่งเร่งซอยนิ้วอย่างรวดเร็วรุนแรงจนได้ยินเสียงเจ๊าะแจ๊ะๆแผ่วๆแว่วมาจากน้ำหีที่เอ่อล้นทะลักจากร่องหีแม่ของตัวเอง พิมผกาเสียวสะท้านสุดขั้วน้ำแตกติดๆกันเป็นคำรบที่สองอย่างต่อเนื่องทันทีเธอซุกหน้าเข้าหาซอกคอของลูกชายเผยอริมฝีปากเม้มดูดเนื้อที่ซอกคอนั้นเป็นเป็นการระบายเพลิงราคะที่ปะทุอย่างต่อเนื่องนั้นเต็มแรงและเนิ่นนาน จนกวินรู้สึกทั้งเจ็บทั้งเสียวปนกันไปแล้วจึงกรแทกนิ้วส่งเข้ารูหีของแม่เขาไปแบบสุดลำถึงโคนนิ้ว แช่แหย่ไว้ในนั้นเสพรับอาการตอดขมิบอย่างถี่ยิบ จนผ่านไปไม่นานนักก็แว่วเสียงสั่นเครือแต่ฟังแล้วรู้ทันทีว่าเต็มไปด้วยอาการที่ยังไม่หายอยาก "วิน...วินขา....พากวางไปจากที่นี่เถอะนะคะ นะคะวิน.." กวินซุกหน้าลงหาปรางแก้มนวนเนียนนั้นบรรจงจูบอย่างแผ่วๆหลายต่อหลายครั้งแล้วค่อยถาม "แล้วแม่...อุ๊บ...เอ่อ...แล้วกวางอยากไปไหนล่ะคะ แล้วไป..ไปทำอะไรเหรอ??" พิมผกาปล่อยมือที่กำท่อนควยลูกชายออกแล้วตีลงไปเบาบนท่อนลำแกร่งโชนนั้นอย่างค้อนๆเมื่อได้ยินกวินหลุดปากเรียว่าแม่ออกมาแต่เมื่อกวินแก้คำพูดใหม่แล้วเธอก็ซุกหน้าเข้าหาไออุ่นจากร่างกายของลูกชายแล้วกระซิบแผ่วพอได้ยินกันสองคน "ไปบ้านวินก็ได้ค่ะ(ก็บ้านเธอเองนั่นแหละ) หรือวินจะเอากวางไปที่ไหนก็ได้ ขอให้กวางได้อยู่กับวิน แล้ววินอยากทำอะไรก็ตามใจวินสิคะ" กวินดึงแขนที่ถูกหัวของพิมผกาหนุนทับอยู่นานจนเป็นเหน็บชาออกแล้วบรรจงรูดนิ้วช้าๆออกจากรูหีที่ยังตอดขมิบมิบๆนั้น ส่งให้พิมผกาต้องสูดปากยาวอีกครั้ง แล้วกวินก็เอามือข้างนั้นวกกลับขึ้นมาใช้นิ้วเขี่ยเล่นเบาๆที่พวงแก้มของเธอ "แล้วหนังล่ะ?? ยังไม่จบเลยนะอีกตั้งนานนี่" พิมผกาหยิกเบาๆลงบนปลายควยที่ยังแข็งทื่ออย่างไม่รู้แต่ชี้นั้นแล้วถามเป็นนัยๆ "ก็แล้ววินอยากจะดูหนังหรืออยากจะดู...กวางล่ะคะ" กวินรีบรุกไล่ต่อทันที "ก็อยากดูกวางสิครับ ว่าแต่กวางจะให้วินดูอะไรของกวางมั่งล่ะ" อย่างเขินอายต่อคำถามของลูกชายเจ้าเล่ห์ลึกๆ "ก็วินอยากดูอะไรกวางก็...ก็ให้ดูทั้งนั้นแหละ บ้าจริงเชียวทำกับเค้าถึงขนาดนี้แล้วยังมาถามเค้าอีก ชิหน้าไม่อาย.."กวินยิ้มรับกับคำพูดกึ่งแง่งอนแต่น่ารักนั้น "งั้นวินขอดู..ดูนมกวาง ดูหีกวาง ได้มั้ยครับ" หยิกซ้ำลงไปที่ปลายควยอีกครั้งส่วนใจนั่นกลับวาบหวิวเสียวซ่านอีกระลอกเมื่อได้ยินคำพูดแบบตรงๆจากลูกชาย ไม่มีคำตอบเป็นสำเนียงใดๆแต่กลับพยักหน้าให้เป็นการตอบรับ กวินจึงจัดแจงเอื้อมมือลงไปถอดรูดกางเกงในที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำหีของพิมผกาเองออกทางปลายเท้า หะแรกพิมผกาก็ไม่รู้ว่ากวินทำเช่นนี้ทำไมจึงขัดขืนไว้นิดหนึ่ง "ไม่...ไม่นะวิน ที่อื่นเถอะที่นี่ไม่เอานะ..ไปที่บะ...."ก่อนจบประโยคนั้นกวินก็บอกแผ่วๆมา "ถอดทิ้งไปเถอะ มันเปียกหมดแล้วนะจ๊ะที่รัก" พร้อมกับหอมแก้มอีกฟอดใหญ่ พิมผกาก็ไม่ขัดขืนอีก กวินรูดดึงกางเกงในตัวน้อยนั้นจนหลุดออกไปถึงปลายขาแล้วเขาก็หย่อนมันทิ้งไว้ที่ใต้เก้าอี้ จากนั้นจึงกลับมาเก็บท่อนควยที่ยังโด่เด่เข้ากางเกงในของตัวเองแล้วจรูดซิบใส่เข็มขัด เมื่อเรียบร้อยดีแล้วจึงหันไปประครองพิมผกาให้ลุกขึ้น "เดี๋ยวผมขับรถให้เองนะ" คำพูดเรื่อยๆดังมาจากกวินพิมผกาพยักหน้ารับทราบ แล้วทั้งคู่ก็ตระกรองกอดกันเดินออกไปจากโรงหนังนั้นอย่างเงียบๆ เพื่อมุ่งหน้าไปหาความสุขกันต่อที่อื่น ซึ่งกวินคิดไว้แล้วนั่นเอง.... กวินขับรถออกจากลานจอดในห้างฯสายตาเหลือบชำเลืองไปที่พิมผกาบ่อยๆ พิมผกานั่งเบียดตัวอยู่บนเบาะด้วยท่าทีที่สะเทิ้นเขินอาย มันไม่ใช่การเสแสร้งด้วยจริตมายาใดๆเลยแวบหนึ่งเมื่อเธอเหลือบตาไปที่ลูกชายสายตาของทั้งสบกันวูบแล้วต่างคนก็ต่างหันไปคนละด้านยังไม่มีคำพูดใดๆหลุดออกมา จนกระทั่ง....พิมผกานั่งเอาสองมือประกบทับกันไว้ที่ชายกระโปรงด้านบนเธอเริ่มรู้สึกผิดปกติเล็กน้อย แต่ยังนั่งนิ่งอยู่เช่นนั้นพยายามทบทวนว่าอะไรที่ทำให้เธอรู้สึกเช่นนั้น แต่เหตุการณ์อารมณ์ความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับเธอที่ผ่านมาไม่เกิน 20 นาทีนี้ก็เข้ามาบดบังสิ่งที่เธอกำลังคิดค้นหา ความสุขที่เธอได้รับมันเด่นชัดเหลือเกิน ทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอและลูกชายปฏิบัติให้กันและกันโดยละทิ้งความสัมพันธ์ที่เป็นเส้นขีดขั้นระหว่างเขาและเธอ ทำให้เธอเหมือนได้รับการปลดปล่อยพัธนาการที่ผูดมัดยึดติดเธอไว้มานานปี จินตนาการความรู้สึกสุขสมซ่านเสียวที่เธอได้รับมันท่วมท้นทะลักบ่าอย่างเชี่ยวกรากเกินกว่าที่เธอจะควบคุมไว้ได้ ถ้าไม่ใช่เพราะสถานที่ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญ ตอนนี้เธอและลูกชายก็คงจะ...... คิดมาถึงตอนนี้พิมผกาก็ยากที่จะหยุดกระแสเชี่ยวกรากของจินตนาการตัวเองไว้ได้ ความคิดเตลิดเปิดเปิงถึงขั้นต่อไปที่ลูกชายจะปฏิบัติให้เธอเสพรับ ร่างกายของเธอตอนนี้เริ่มมีปฏิกริยาตอบสนองต่อความคิดนี้ทันที หัวนมเธอเริ่มชูชันแข็งเป็นไตเบียดอัดอยู่ใต้ใยผ้ายกทรงลายลูกไม้เปลือยนั้นทั้งสองข้าง เธออยากจะใช้มือช่วยบีบบี้เคล้นปลายยอดแต่ก็ทำไมได้ จำต้องปล่อยให้มันคงอาการคันยิบทีปลายหัวนมทั้งสองไว้เช่นนั้น เมือกลื่นเริ่มถูกขับหลั่งออกมาตามช่องทางและเริ่มสั่งสมอยู่ที่ปากทางออก กล้ามเนื้อเริ่มมีการตอดรัดอย่างตื่นเต้น เธอไม่ต้องการให้ลูกชายรู้ว่าตอนนี้เธอเป็นอย่างไรแล้ว คำสั่งจากเซลล์สมองซึ่งมีความเร็วมากกว่าแสงสั่งการไปกล้ามเนื้อที่มีส่วนเกี่ยวข้องให้ขมิบปิดช่องทางออกของเมือกลื่นที่กำลังเอ่อล้นไม่ให้มันทะลักทะลายออกมาก่อนเวลาอันควร แต่ของเหลวก็คือของเหลวไม่ว่าใครก็ไม่สามารถควบคุมรั้งยั้งมันเอาไว้ได้ เมื่อพบจุดอ่อนที่มันสามารถหลั่งไหลออกมาได้ส่วนที่เหลือก็จะไหลตามกันมาเหมือนกับที่เกิดขึ้นกับพิมผกาในตอนนี้ เธอพยายามที่จะขมิบหีปิดแคมไม่ไห้เมือกสวาทเหล่านั้นหลั่งไหลออกมาแต่ก็ทำไม่ได้ ด้วยไอเย็นจากเครื่องปรับอากาศในรถที่ถูกส่งด้วยความแรงจากพัดลมที่เปิดไว้ในระดับสูงมันพาเอาไอเย็นซึมซับผ่านร่องหน้าชายกระโปรงของเธอเข้าไปลมเย็นนั้นไม่ได้ช่วยให้พิมผการู้สึกสบายขึ้นเลยแม้แต่น้อย ระลอกไอเย็นเหมือนกลับกลายเป็นวัตถุที่มีรูปร่างขึ้นมาแต่ละระลอกที่ไล้ผ่านเหมือนเป็นมือที่แผ่วพลิ้วลูบไล้ผะแผ่วตั้งแต่ปลายเข่าของเธอผ่านท่อนขาขาวเนียนนวลละไล่ไปจนถึงโคนขาอ่อน สร้างความเสียวสะท้านให้เธออย่างเหลืออดจนต้องพยายามเบียดชิดท่อนขาทั้งสองเข้าหากัน แต่เมื่อเธอเผลอไผลอ้าขาออกยามใดความเสียวสะท้านจากมือล่องหนนั้นก็จะคืบคลานรุกไล่เธอเข้าไปอีกเหมือนนิ้วของใครบางคนที่เธอต้องการและรักเขาที่สุดแล้วตอนนี้กำลังใช้ปลายนิ้วเขี่ยไล้ไปบนผิวเนื้อของเธอ เมื่อความคิดมาถึงจุดนี้ท่อนขาทั้งคู่ของเธอก็เริ่มเปลี่ยนเป็นถ่างอ้าออกน้อยๆเหมือนเชิญชวนให้มือประหลาดนั้นลุกล้ำก้ำเกินเธอได้มากยิ่งขึ้น ไอเย็นระลอกหนึ่งทำให้เธอสะท้านไปทั้งกายที่สั่นเทาน้อยๆจนถึงกับต้องเม้มริมฝีปากกัดฟันข่มความเสียวไม่ให้เล็ดลอดออกไป เพราะไอเย็นเจ้าเล่ห์ระลอกนี้ละเลียดผ่านซอกหลืบต่างๆเข้าไปจนสัมผัสถึงร่องแคมที่เยิ้มฉ่ำไปด้วยน้ำกระสันต์ของเธอเอง ฉับพลันนั้นพิมผกาก็นึกขึ้นมาได้ทันทีว่ามีอะไรที่ผิดปกติไป เธอเหลือบตาไปยังกวินซึ่งขณะนี้กำลังพุ่งความสนใจอยู่กับท้องถนน เธออ้ำๆอึ้งๆเพราะไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไรดีตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเรียกชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าด้วยความสัมพันธ์แบบไหน แต่เมื่อพิมผกานึกถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับในคืนนี้ซึ่งเธอก็พร้อมจะยอมรับมันอย่างเต็มใจ จึงทำให้เธอตัดสินใจได้แล้ว "วิ...วินคะ...วิ..วินเอากางเกงในของกวางไว้ไหนคะ" เสียงค่อนข้างแผ่วเบาด้วยความกระดากที่ยังคงมีอยู่บ้าง "แมะ..อุ๊บส์..กวะ..กวางจะถามถึงมันไปทำไมเหรอ วินเห็นมันเปียกหมดแล้วก็เลยทิ้งไว้ในโรงหนังนั่นแล้วหล่ะ" กวินหันมาตอบพร้อมๆกับท้ายประโยคนี้เขาหันยักคิ้วล้อเลียนใส่แม่ที่นั่งหน้าแดงเป็นตำลึงสุกอยู่ข้างๆ กำปั้นน้อยลอยมาหล่นตุ้บสองตุ้บบนไหล่ของกวินแต่เหมือนจะเป็นการทุบแบบแก้เขินซะมากกว่า "บ้า บ้า บ้า...เอาของเค้าไปทิ้งทำไม โกรธแล้วด้วยเอามาคืนเดี๋ยวนี้เลยนะ.." แถมให้อีกสองตุ้บในน้ำหนักทุบเท่ากับครั้งแรก กวินก็รับเชิงนั้นโดยทำเป็นหดไหล่เหมือนจะหลบเพราะกลัวโดนทุบมิหนำซ้ำยังทำเป็นซี้ดปากครวญครางเหมือนกับว่าไหล่ที่โดนทุบนั้นมันเจ็บซะเต็มประดา "อูยยย...ทุบผมทำไมอ้ะ....ก็เห็นว่ามันเปียกไปทั้งตัวนี่ก็เลยทิ้งไป แล้วก็อีกอย่างนะ....ที่ๆเราจะไปน่ะไม่มีกางเกงในก็ไปได้นะคะ สะดวกกว่าซะอีก อุ๊บส์..."อีกหนึ่งทีจากกำปั้นน้อยๆแต่คราวนี้ค่อนข้างจะแรงขึ้น แต่กวินก็ยังไม่วายที่จะโยกยวนซะ "เอาละๆ....ยอมแล้วครับ ถ้าอยากได้คืนเดี๋ยววินซื้อคืนให้ก็ได้แต่กวางรอได้มั้ยล่ะคะ" พิมผกาตามความคิดของลูกชายไม่ทันก็พาซื่อถามออกไปก่อนแล้ว "รอ...??...ให้กวางรออะไรคะ??" กวินซ่อนยิ้มอย่างมิดชิดมันเป็นการกลั้นหัวร่อไปด้วย ก่อนจะตอบแบบเรื่อยเฉื่อย "อ๋อ....เดี๋ยววินซื้อกางเกงในคืนให้กวางแน่ เอาให้สวยเซ็กซี่กว่าตัวเดิมอีก แล้วคืนให้สามตัวเลยด้วย แต่รอให้วินกลับไปขอตังแม่มาก่อนนะ ตอนนี้วินมะมีตังค์ โอ๊ยยยย!!..."แขนซ้ายที่ไม่มีผ้าห่อหุ้มของกวินโดนหยิกเข้าเต็มที่จนเจ้าตัวต้องร้องออกมาเพราะค่อนข้างจะเจ็บจริงในคราวนี้ "บ้าๆๆๆ...ฮี้ยยยย์...มันเขี้ยวจริงเลยอยากบีบ...ให้ตายไปเลย ชิ...ซื้อเองก็ได้ย่ะคนอะไรไม่รู้ทะเล้นซะจริง" ประโยคหลังๆของหล่อนแผ่วเบาในลำคอเหมือนจะบ่นกับตัวเองซะมากกว่า แต่แล้วก็เหมือนนึกขึ้นได้ "เอ๊ะ..แล้วนี่วินกำลังจะพาแม่...อุ๊ย!!..."อยางทีนทีทันใดเมื่อสรรพนามนี้หลุดปากออกไปเธก็ร้องเบาๆอย่างตกใจที่เผลอไผล รีบยกมือทั้งสองขึ้นปิดปากทันทีเอียงหน้าน้อยไปที่ลูกชายใช้หางตาชำเลืองมองอย่างหวาดๆเหมือนเด็กกระทำผิดแล้วถูกจับได้คาหนังคาเขา กวินรู้หน้าที่ดีจึงรีบกลบเกลื่อนแก้ไขความอึดอัดใจของคุณแม่ผู้น่ารักของเขาให้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น "หืออ....อะไรคะกวางถามไรวินนะ อยากรู้เหรอว่าเราจะไปไหนกัน....อิอิอิ...มะบอกหรอก บอกก็ไม่ตื่นเต้นอ้ะจิ้ครับ เดี๋ยวถึงแล้วก็รู้เองแหละ รับรองว่ากวางต้องชอบแน่ๆ ตอนใกล้ๆถึงวินมีบางอย่างให้กวางช่วยทำให้ด้วยแหละ แต่ตอนนี้...อุบไว้ก่อน นะจ๊ะคนดี" "คะ.......ค่ะ" พิมผกาพยักหน้ารับปากอย่างว่าง่ายเธอรู้สึกโล่งใจอย่างประหลาดและสุขซิ้งใจลึกๆ ที่ลูกชายช่วยให้เธอไม่รู้สึกตะขิดตะขวงช่วยสร้างความรู้สึกด้านอารมณ์ของเธอราบรื่นต่อเนื่องไม่ลำบากใจมากนัก ในกรณีที่เธอไม่ต้องการความสัมพันธ์ที่แท้จริง ....ทุกอย่างถูกความเงียบค่อยๆกลืนกินเข้าไป กวินเหยียบส่งคันเร่งเพิ่มความเร็วเข้าไปอีก รถออกพ้นตัวเมืองมาไกลแล้ว พิมผกานั่งหันหน้าออกนอกหน้าต่างปล่อยความคิดให้ล่องลอยไปอย่างไร้ขอบเขตไม่สนใจว่าตัวเธอเป็นอะไรและอยู่ที่ไหนหรือกำลังจะไปไหนและกับใคร เธอรู้แต่เพียงว่านี่คือสิ่งที่เธอต้องการและมีความสุขมากที่จะรอรับมัน นานเท่าไหร่ไม่รู้พิมผการู้สึกตัวสะดุ้งลืมตาขึ้นกระพริบขนตายาวงอนปริบๆเมื่อถูกสะกิด เธอเผลอหลับไป นานเท่าใดไม่ทราบ รู้แต่ว่าตอนนี้รถจอดสนิทนิ่งแล้ว เธอเหลียวไปรอบๆอย่างมึนๆงงๆ เห็นแต่เงาของต้นไม้ที่แน่นขนัดในความมืดรอบตัว "กวาง....กวางเอาผ้าผืนนี้ผูกตาไว้นะ ไม่นานนักหรอก วินจะพากวางไปดูสถานที่ ที่สวยงามที่สุดกวางต้องชอบมันเหมือนวินแน่ๆเลย นะคะผูกตาไว้ก่อนนะ" พิมผกาขยับเผยอปากน้อยๆเหมือนจะถาม แต่ก็ถูกลูกชายชะโงกหน้าเข้าหาบดอัดริมฝีปากมาประกบปิดปากจิ้มลิ้มของเธอในฉับพลัน พิมผกายกมือขึ้นดันหน้าอกของกวินและขบฟันปิดไม่ให้ลิ้นของลูกชายสอดแทรกเข้ามาได้ตามสัญชาตญาณ เนื่องจากยัง งงๆเพราะเพิ่งตื่น แต่ไม่นานนักเธอก็เริ่มตอบสนองเมื่อความคิดของเธอเข้าที่เป็นปกติแล้ว เผยอไรฟันขึ้นส่งลิ้นออกไปกระหวัดม้วนพันดูดลิ้นของลูกชายเข้ามาในปากของเธอ ขณะที่ยังบดปากแลกลิ้นมือกวินก็ไม่นิ่งเฉยสองมือถือผ้าที่เตรียมไว้สวมคั่นลงตรงกลางระหว่างใบหน้าของแม่และเขาที่กำลังแนบชิดกันและจัดการผูกผ้าปิดตา เมื่อถอนปากออกจากกันกวินก็ผูกมัดผ้าเกือบเสร็จแล้ว พิมผกากลับมาอยู่ในความมืดมิดอีกครั้ง และรู้สึกตัวว่ารถกำลังเคลื่อนออกจากที่ เธอนั่งนิ่งด้วยใจระทึกและกังขา ว่ากวินจะพาเธอไปไหน เมื่อถึงที่หมายเธอจะได้พบกับอะไร และหลังจากนั้นล่ะ......

หวานมันฉันคือ... ภาค 2

ก่อนที่จะจรดปลายนิ้วลงบนแป้นคีย์บอร์ด ผมชั่งใจอยู่นาน เพราะเหตุการณ์ที่ผมจะเล่าต่อไปนี้ ถ้าบอกใครไปเค้าก็ต้องหาว่าผมบ้า หรือไม่ก็เมา แต่เอาเ...