วันอาทิตย์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2560
ขุนช้างขุนแผน ตอนที่ ๔ (แรกรู้รสรัก)
มาจะกล่าวถึงเด็กชายช้าง ซึ่งก่อนที่มารดาของเขา คือ นางเทพทองจะตั้งท้องเขานั้น ได้ฝันว่ามีช้างพลายตัวหนึ่ง ได้วิ่งเข้ามาหานาง และจับนางเสพสมด้วย นางยังจำได้ดีถึงรสชาติอันซาบซ่านที่นางได้รับจากควยอันยาวใหญ่ดำมะเมื่อม ที่กระแทกเข้าสู่รูหีของนางเป็นจังหวะเร่าร้อน จนทำให้นางถึงจุดได้อย่างรวดเร็ว และตื่นขึ้นมาเหงื่อท่วมตัว หัวนมแข็งเป็นไต ร่องหีฉ่ำเยิ้มด้วยน้ำเงี่ยน ด้วยความตื่นเต้นจากความฝันอันพิสดารนั้น ซึ่งนางไม่เคยได้เล่าความฝันอันนี้ให้ใครได้พังเลยแม้แต่สามีของนางขุนศรีวิชัย จวบจนกระทั่งวาระสุดท้ายของเขามาถึง เด็กชายช้างนั้นเมื่อตอนแรกเกิดนั้น สิ่งแรกที่หมอตำแยได้เห็นคือ หัวอันล้านเลี่ยนเหมือนดังกับใครเอามีโกนมาโกนออกไว้จนไม่มีผมขึ้นเลย และยังพบเห็นกับความพิกลพิการของเด็กชายช้าง อันส่งให้พ่อคือขุนศรีวิชัย และแม่คือนางเทพทอง ต้องจ่ายเงินให้หมอตำแยไปมากหลาย และกำชับว่าอย่าบอกใครถึงความพิกลพิการนี้ของเด็กชายช้าง และพยายามสอนเด็กชายช้างให้ปกปิดความผิดปกตินี้ไว้อย่างมิดชิด ไม่ให้ใครรู้ ในช่วงก่อนเหตุการณ์ที่ชุนศรีวิชัยจะโดนโจรฆ่านั้น ขุนศรีวิชัยได้นำเด็กชายช้าง เดินทางไปเข้าเฝ้าสมเด็จพระพันวษา เพื่อจักได้ฝากตัวเข้าเป็นมหาดเล็ก เมื่อสมเด็จพระพันวษาได้เห็นตัวของขุนช้างเท่านั้น ก็ทรงพระสรวลออกมาอย่างมากมาย จนกระทั่งพระพักตร์กลายเป็นสีแดง และหอบหายใจอย่างเหน็ดเหนื่อยจากการทรงพระสรวลรอบใหญ่ที่สุดในชีวิต หลังจากที่ท่านพักหายใจจนหายหอบแล้วสมเด็จพระพันวษาจึงโปรดแต่งตั้งให้เด็กชายช้างได้้เข้ามาอยู่ในวัง โดยมอบให้อยู๋ในความดูแลของหม่อมชดช้อยไปก่อน หม่อมชดช้อยเป็นสตรีวัยกลางคน ซึ่งเป็นหม่อมของพระเจ้าแผ่นดินพระองค์ก่อน หม่อมชดช้อยแม้จะย่างเข้าสู่วัยกลางคนแล้ว แต่กลับยิ่งทำให้นางทรงเสน่ห์มากยิ่งขึ้น ด้วยเรือนร่างอันสูงสง่า หน้าอกหน้าใจอันใหญ่โตตั้งเต้า พุ่งชี้ชัน เอวคอดกิ่ว สะโพกผายกว้าง แบบที่เขาเรียกว่าสะโพกสุดเสียงสังข์ ยามเยื้องย่างกรายเหมือนดังกับย่ำไปบนหัวใจของหนุ่มๆ หรือแม้แต่แก่ๆ ก็ไม่เว้นเวลาที่นางชม้ายมองผ่านมา ยิ่งทำให้หม่อมชดช้อยเพิ่มความภาคภูมิใจในความงามของตนเป็นอย่างยิ่ง ที่พักของหม่อมชดช้อยนั้น สวยงามอยู่ด้านตะวันตกชองพระราชวัง ปลูกสร้างด้วยไม้สักทองทั้งหลัง ร่มรื่นไปด้วยเงาไม้ และด้านหน้ายังมีคลองเล็กไหลผ่านน้ำใสสะอาด เวลาว่างๆ จะมีสาวๆ มานั่งเล่นกันที่ศาลาที่สร้างไว้อยู่ที่ริมคลองเล็กๆ นี้ และบางครั้งก็จะมาอาบน้ำ เล่นน้ำกันที่ในคลองนี้กันเสมอๆ เด็กชายช้างนั้นขณะที่พ่อนำมาฝากเอาไว้ที่วังนั้น เพิ่งมีอายุเพียง ๙ ขวบเท่านั้น ดังนั้นบรรดาสาวๆ ที่อยู่กับหม่อมนั้นก็ไม่ใคร่จะระวังตัวกันเท่าไหร่ คงเห็นว่าเจ้าหัวล้านนี่ยังเป็นเด็กอยู่ ไม่รู้เรื่องอะไรหรอก บางครั้งเวลาที่ไปเล่นน้ำก็จะลากเอาเด็กชายช้างนี่แหละ ไปดูต้นทางให้ เด็กชายช้างนั้นตอนแรกๆ ก็ดูต้นทาง แต่ตอนหลังกลับหันไปดูสาวๆ แทน สาวๆ บางคนเห็นว่ามีคนดูต้นทางให้แล้วก็ยิ่งวางใจไม่ระวัง เล่นกันจนผ้าผ่อนหลุดลุ่ย บางคนถึงกับแก้ผ้าเดินกัน เด็กชายช้างดูไปสมุนคู่ใจก็ชี้ตั้งไป โหอะไรจะเป็นความสุขปานนั้น จนกระทั่งวันหนึ่งถือเป็นจุดหักเหในชีวิตของเด็กชายช้าง เนื่องด้วยในวันนั้นจะมีการฉลองวันลอยกระทง ดังนั้นหม่อมชดช้อยและสาวๆ จึงได้เตรียมอาหารและการแสดง เพื่อไปแสดงต่อหน้าพระที่นั่ง หม่อมชดช้อยมุ่งหวังว่าการแสดงของเธอจะต้องได้รับรางวัลจากสมเด็จพระพันวษาให้จงได้ จึงฝึกซ้อมการแสดงกันอย่างหนัก นั่นก็ทำให้พวกสาวๆ ไม่เป็นอันหลับอันนอน จนในบางครั้งตอนกลางวันก็นั่งหลับ นอนหลับกันอย่างไม่ระวัง ผ้าผ่อนหลุดลุ่ย เด็กชายช้างซึ่งในขณะนั้นย่างเข้าวัย ๑๑ ปี หลังจากที่อยู่ในวังมา ๒ ปี เขาก็มีความรู้ในเรื่องกามารมณ์ไม่น้อย กอร์ปกับ สาวๆ พวกนี้มักจับกลุ่มคุยกันด้วยเรื่องใต้สะดือกันบ่อยๆ โดยไม่ระวัง ยิ่งทำให้เด็กชายช้างซึ่งไม่มีใครสนใจ ได้รับฟังเรื่องนี้ และเกิดความรู้สึกอยากจะลองดูซักที และแล้ว โอกาสนั้นก็มาถึง ขณะที่เด็กชายช้างตักน้ำใส่ตุ่มเสร็จ แล้วเดินกลับมายังเรือนนั้น เมื่อก้าวขึ้นเรือน เขาก็รู้สึกว่าวันนี้เรือนทำไมเงียบจัง ไม่มีเสียงใครเลย ไปไหนกันหมดนะ เมื่อเขาเดินเข้ามายังห้องชั้นใน ก็เห็นพวกสาวๆ นอนหลับกัน ผ้าผ่อนหลุดลุ่น ทั้งนม ทั้งหี โผล่ออกมากันสลอนกันไปหมด เด็กชายช้างยืนมองภาพเหล่านั้นเหมือนดังต้องมนต์สะกด จากนั้นความอยาก ความต้องการ ทำให้เขาค่อยก้มตัวลงมาเพื่อดูหี ให้ชัดๆ ว่าเป็นยังไง เมื่อดูแล้วก็ขอจับหน่อยเหอะว่ามันเป็นยังไง เขาจึงยื่นมือออกไปเพื่อจับโคกหีตรงหน้าซึ่งมีเส้นหมอยบางๆ ละเอียด คลุมบางๆ ข้างหน้า แล้วก็ลูบไปมา ขยำเบาๆ อือ มันนุ่มมือดีแฮะ อ้อ ตอนที่เขาคุยกันเขาว่าถ้าเราเอาลิ้นเข้าไปเลียเนี่ยมันอร่อยเหอะไปเลย เอ น่าจะลองนะ แล้วเขาก็ค่อยก้มลงแลบลิ้นออกมายาวเหยียด ต่ำลง ต่ำลง ต่ำลงอีก อาวว์ จะถึงแล้ว “ไอ้ช้าง มึงจะทำอะไรหา” เสียงตวาดดังมาจากหม่อมชดช้อยซึ่งยืนท้าวสะเอว หน้าถมึงทึง ด้วยความโกรธ อยู่หน้าประตูห้องนอน “มึงคิดจะทำอะไรเด็กกู หา กูช่วยเลี้ยงมึงมา มึงคิดจะทำอุบาทว์ บัดสียังงี้ มึงยังกล้าอีก หา ยังงี้กูจะเลี้ยงมึงอีกได้เรอะ มานี่เลยนะ มานี่เลย... เข้ามาหากูในห้อง ก็ต้องเฆี่ยนมึงให้หลังขาดเลยวันนี้มึง” หม่อมชดช้อยด่า พลางเรียกเด็กชายช้างซึ่งขณะนั้น กลัวลาน ตัวสั่นงันงกด้วยกลัวความผิด ให้เดินตามนางเข้ามาในห้องนอน เด็กชายช้างเข้ามาในห้องนอนของหม่อมชดช้อยนั่งนิ่งอยู่ด้านหน้าเตียงของหม่อม หม่อมชดช้อยก็เดินไปหยิบหวายที่ด้านนอกห้องเข้ามา พร้อมกับฟาดอย่างแรงไปที่หลังของเด็กชายช้าง เฟี้ยว ควับ เหี้ยว ควับ แต่ละครั้งนั้นสร้างความเจ็บปวดอย่างมากให้แก่เด็กชายช้าง หลังเกิดแนวแดงม่วงขึ้นทันที แต่ในความรู้สึกของเด็กชายช้างนั้น เจ็บปวดเหมือนดังกับหลังจะขาดเลยทีเดียว แต่เมื่อผ่านไปได้สักครู่ ความรู้สึกเจ็บกลับกลายไปทำให้เขาค่อยๆ รู้สึกตื่นเต้น เลือดในกายไหลไปรวมยังที่ไอ้น้องที่อยู่ในกางเกงมันพองก๋าจนกระทั่งโด่งสูงขึ้น เหมือนดังกับใครเอาสากกระเบือไปยัดไว้เลยนั่น หม่อมชดช้อยฟาดเด็กชายช้างจนเหนื่อยหายใจหอบจนอกกระเพื่อมสั่นไหว พลันนั่งลงไปที่เตียงนอน มองไปที่เด็กชายช้าง พลันสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติ คือ เด็กชายช้างนั่งงอตัว เอามือกุมเป้ากางเกงเอาไว้ แต่มันก็ยังปิดไม่มิด หม่อมชดช้อยรู้สึกสงสัยจึงสั่งให้เด็กชายช้างเอามือที่ปิดเป้าเอาไว้ออกไป เด็กชายช้างก็ดื้อดึง ไม่ยอมเอามือออก หม่อมชดช้อยก็เลยนั่งยองๆลง ดึงมือของเด็กชายช้างออก แล้วเธอก็ได้เห็นสิ่งที่เด็กชายช้างปกปิดอยู่ว่ามันแทงโด่สูงเด่นดันเป้ากางเกงออกมา อย่างเห็นได้ชัด หม่อมชดช้อยจึงสั่งให้เด็กชายช้างยืนขึ้น ไอ้สิ่งนั้นมันก็ชี้หน้าหม่อม หม่อมชดช้อยก็เลยสั่งให้เด็กชายช้างถอดกางเกงออก เด็กชายช้างก็อิดออด ไม่ยอมทำตามคำสั่ง หม่อมชดช้อยโมโหมาก จึงดึงกางเกงของเด็กชายช้าง แล้วกระชากลงมาทันที ผึงงงง หม่อมชดช้อยงุนงงมาก มองยังไม่ทันเห็นเห็นว่าอะไรที่มาตีที่หน้านาง พอมองเห็นชัดๆ เท่านั้น หม่อมชดช้อยก็ปากอ้า ตาค้าง เพราะสิ่งที่นางเห็นนั้น ไม่อาจจะเรียกได้ว่าควยเลยทีเดียว เพราะมันเป็นท่อนอะไรสักอย่างที่ผิวตะปุ่มตะป่ำไปทั่วทั้งอัน ส่วนหัวนั้นบานออกมา แล้วแตกออกเป็นแฉกๆ ตรงท่อนนอกจากจะตะปุ่มตะป่ำแล้ว เส้นเลือดยังขึ้นผิดปกติอีกด้วย คือ เส้นเลือดกลับขึ้นพันม้วนเป็นวงรอบๆ ลำควย ตั้งแต่โคนจนถึงหัว จนมีลักษณะเหมือนกับดอกสว่าน แถมความยาวตั้งแต่โคนจนถึงปลายไม่ต่ำกว่า ๘ นิ้วทีเดียว หม่อมชดช้อยเมื่อเห็นของแปลกอย่างนี้ ก็รู้สึกตัวอ่อนระทวย คันยุบยิบในรูหีไปหมด หมดแรง นั่งกระแทกลงกับพื้น จนกระทั่งผ้าเปิดขึ้น ทำให้เด็กชายช้างได้เห็นถึงสิ่งที่หนุ่มๆ และแก่ๆ ของวัง ต้องการเห็นคือ หีของหม่อมชดช้อย ที่ไม่มีขนหมอยขึ้นแม้แต่เส้นเดียว เกลี้ยงเกลา โหนกนูน เหมือนกับของเด็กๆ เลย กลีบแคมปิดสนิท สีขาวอมชมพู ด้านบนมีเม็ดแตดสีชมพูเม็ดเล็กๆ โผล่ออกมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เด็กชายช้างเห็นของดีของหม่อมแล้วรู้สึกเงี่ยนมากจนทนไม่ไหว เขาจึงพุ่งเข้าไปหาหีของหม่อมชดช้อย แล้วแลบลิ้นที่สากหยาบออกมา เลียไปตามกลีบขาวอมชมพูที่ล่ออยู่ตรงหน้า เลียอย่างไม่คิดชีวิต เลียให้หายอยาก สักพักเขาก็ได้ยินเสียงครวญครางของหม่อม มือของหม่อมก็ย้ายมาจับที่หัวของเขา กดหัวของเขาบดเข้ากับหีของนาง สะโพกสุดเสียงสังข์ของนางก็เด้งส่ายสู้หน้าของเขาเป็นจังหวะเดียวกับลิ้นของเขาที่เลีย “อาวววว์ ซี้ดดส์ ช้าง เลียแรงๆ หน่อย หม่อมเสียว อือ ดูดแตดให้หม่อมด้วยนะ โอววววว ดีจัง ซี้ดดดดส์ แรงอีกจ๊ะ แรงอีก... เอานิ้วแยงเข้าไปด้วย ยังงั้นสองนิ้วเลยนะจ๊ะ” หม่อมชดช้อยตอนนี้ไม่เหลือเค้าความเป็นหม่อม ความสง่างามที่เคยสร้างสมไว้ ไม่เหลืออีกต่อไป รู้จึกแต่เด้งหีรับลิ้นของเด็กชายช้างเท่านั้น ข้างฝ่ายเด็กชายช้างนั้นก็ได้ใจ ทั้งดูดทั้งเลีย แคมลากตั้งแต่รูก้นไปจนถึงแตดด้านบน เอานิ้วกดข้างแตด เพื่อให้แตดโผล่ออกมา แล้วอมดูดเข้าไปในปากอย่างแรง ส่งผลให้หม่อมชดช้อยร้องคราง ปิ่มว่าจะขาดใจตาย หม่อมชดช้อยส่ายสะโพกเด้งรับลิ้นของเด็กชายช้างเร็วขึ้น เร็วขึ้น เร็วขึ้น จนกระทั่งสุดท้ายก็สั่นระริก นิ้วเท้าหงิกเกร็ง แน่นิ่งไป สักพักเด็กชายช้างก็ลุกขึ้นยืน แต่หม่อมชดช้อยก็บอกกับเด็กชายช้างให้ไปปิดประตูห้องนอนก่อน แล้วเข้ามาหานางอีก นางจะสอนให้เขาทำอะไรที่สนุกกว่านี้อีก เด็กชายช้างจึงเดินปิดประตูตามที่นางสั่งแล้วหันกลับมา สิ่งที่เขาได้เห็นคือ หม่อมชดช้อยได้ค่อยๆ ถอดผ้าแถบออก จนเหลือเพียงผ้าคาดอกที่พุ่งชี้ชูชันของนาง แล้วนางก็ค่อยถอดมันออกมา นมขนาดใหญ่มันก็หลุดออกมากระเพื่อมตามแรงหายใจแรงของนาง มันช่างสวยงามอะไรปานนี้ มันไม่ได้หย่อนคล้อยไปตามอายุของเจ้าของ แต่กลับงอนงามไม่ผิดอะไรกับงาช้าง ผิวนวลละเอียดเพราะการอยู่ดีกินดี และการบำรุงรักษา ส่วนปลายยอดสีน้ำตาลอ่อน เขม็งเป็นไต ชี้หน้าของเด็กชายช้าง แล้วหม่อมก็ค่อยๆ ถอดผ้านุ่งออกจากเอวคอดกิ่วของนาง ผ้านุ่งค่อยๆ เลื่อนผ่านสะโพกสุดเสียงสังข์ของนางลงมาช้าๆ เผยให้เห็นถึงผิวพรรณที่ขาวนวลละเอียด เต่งตึงไปทั้งร่าง นี่นับเป็นเสน่ห์เรือนร่างของสาวใหญ่ หีของนางที่ปราศจากหมอยปกคลุมนั้น เปียกชุ่มไปด้วยน้ำลายของเด็กชายช้างปนกับน้ำเงี่ยนของนางที่ไหลหลั่งออกมาจนกระทั่งหยดไปที่พื้นกระดาน หลายหยด หม่อมชดช้อยยิ้มเอียงอาย แล้วพยักหน้าเรียกเด็กชายช้างเข้ามาหานาง นางนั่งลงบนเตียง แล้วเอามือช้อนนมของนางป้อนหัวนมให้เด็กชายช้างได้ดูดดื่ม เด็กชายช้างก็เดินเข้ามาหานางเหมือนดังกับต้องมนต์สะกด อ้าปากดูดอมเอาหัวนมสีน้ำตาลอ่อนเข้ามาในปาก แล้วดูดอย่างไม่คิดชีวิต ทำให้หม่อมเงยหน้าร้องครางออกมาเบาๆ สองมือย้ายมากดที่หัวของเด็กชายช้างให้แนบกับนมของนาง อีกมือหนึ่งของนางก็ย้ายลงมาเกลี่ยเบาๆ ที่กลางร่องหีของนาง นิ้วกลางของนางก็เขี่ยติ่งแตดไปมา บางครั้งก็บดขยี้อย่างแรก ตัวสั่นระริก น้ำใสปนเหนียวไหลออกจากร่องสวรรค์ของนางไม่หยุด ทำให้ที่นอนเปียกชื้นเป็นหย่อมใหญ่ จากนั้นหม่อมชดช้อยก็บอกให้เด็กชายช้างปล่อยหัวนมของนางก่อน แล้วนอนลงไปที่นอนของนาง เด็กชายช้างก็อ้าปากปล่อยหัวนมของนางเป็นอิสระ แล้วค่อยๆ เอนตัวลงนอนลงบนที่นอนหนานุ่มของนาง หม่อมชดช้อยก็ก้าวคร่อมตัวขึ้นบนตัวของเด็กชายช้าง แล้วมีท่าทีลังเลเล็กน้อย แต่แล้วนางก็ตัดสินใจ ค่อยๆ หย่อนตัวลง ให้รูหีของนางค่อยๆ ครอบลงไปบนหัวควยของเด็กชายช้างทีละน้อย หัวควยของเด็กชายช้างค่อยๆ แหวกสองกลีบขาวสะอาดของหม่อมชดช้อยเข้าไปทีละน้อย จนกระทั่งถึงหัวหยักประหลาดพิสดารของเด็กชายช้าง หม่อมชดช้อยก็ขบริมฝีปากของนาง เพราะนางรู้สึกตึงแน่นไปหมดทั้งหน้าขา ทั้งร่องหลืบของนาง นางจึงได้แต่ยกตัวขึ้นลงแต่ช่วงหัวเท่านั้น ไม่กล้าที่จะกดลงไปมากกว่านั้นด้วยกลัวว่ารูหีของนางจะฉีกขาดเสียก่อน แต่พอนางกดขึ้นลงไปสักพักก็รู้สึกเงี่ยนมากขึ้นจนกระทั่งนางทนไม่ไหว นางจึงกัดฟันห่มตัวกดตูดลงใส่ควยของเด็กชายช้าง เสียงดังปรึด ปรึด รูหีของนางที่ไม่เคยได้รับท่อนควยมานานแล้ว แถมท่อนควยที่นางรับก็มีแค่ขนาดธรรมดาเท่านั้น ก็เริ่มปริแยกออกตรงช่องด้านล่าง ยังความเจ็บปนเสียวซ่านให้แก่นางยิ่ง นางกัดฟันกรอด แล้วห่มตัวลงอย่างแรง พั่บ เสียงโหนกขาวสะอาดของนางแนบติดกับโหนกควยของเด็กชายช้าง หม่อมชดช้อยรู้สึกแน่นในรูหีอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน นางพักอยู่สักพักจนกระทั่งรู้สึกหายแน่นลงบ้างแล้ว นางจึงค่อยๆ ยกตัวขึ้น ร่องหีของนางก็ถูกลำควยของเด็กชายช้าง ครูดจากด้านใน มาจนถึงด้านนอน แคมหีของนางถูกลากจนปลิ้นออกมา แตดสีแดงก่ำชี้เด่ ขี่อยู่บนควยของเด็กชายช้าง มันยิ่งทำให้นางเสียวซ่านมาก พอยกจนหัวควยจะหลุดออกมาจากรูหี นางก็กดกระแทกกลับเข้าไปอีก ดังพั่บ ตัวของหม่อมสั่นเทาด้วยความเสียวซ่านที่ไม่เคยได้รับมามากขนาดนี้ตั้งแต่เป็นสาวมา หม่อมยกตูดขึ้นอีก แล้วกระแทกกลับเข้าไปอย่างเสียวซ่านที่สุด ตอนนี้น้ำเงี่ยนของนางไหลออกมาจนกระทั่งหยดลงไปที่โคนควยของเด็กชายช้างจนเปียกไปหมด นางเริ่มรู้สึกเจ็บน้อยลง ร่องหีของนางเริ่มปรับตัวรับควยอันใหญ่ยาวดุจดั่งสากกระเบือนี้แล้ว แต่ละครั้งที่นางลากขึ้น ปุ่มปมที่ตะปุ่มตะป่ำตามลำควย เส้นเลือดที่หมุนวนรอบควยก็จะครูดผนังหีที่อ่อนนุ่มด้านในของนางให้รู้สึกเสียวซ่าน ส่วนเงี่ยงหยักปลายแฉกที่หัวควยก็จะเกี่ยวเอาเม็ดแตดของนางจนปลิ้นออกมาชี้เด่แดงก่ำ สั่นระริกไปด้วยความเสียว พอกระแทกลงร่องหีของนางก็ถูกครูดไปตลอดทาง แคมหีก็ปลิ้นหายเข้าไปตามลำควยเหลือแต่เม็ดแตดที่ขี่ลำควยอยู่อย่างเดียว หม่อมชดช้อยร้องครวญครางอย่างไม่อดออมเสียง ด้วยความเสียวที่มี สะโพกสุดเสียงสังข์ก็กระแทกขึ้นลง อย่างไม่หยุดหย่อน แล้วในที่สุดหม่อมชดช้อยก็ตัวสั่นระริก แล้วฟุบตัวลงกอดเด็กชายช้าง จูบหอมเด็กชายช้างอย่างไม่รังเกียจรังงอน เด็กชายช้างนั้นเมื่อขึ้นมานอนยังที่นอน ก็เห็นหม่อมชดช้อยก้าวคร่อมตัวของเขา แล้วหม่อมก็ค่อยๆ กดหนอกหีขาวสะอาดให้ปากรูหีค่อยๆ ครอบกลืนหัวควยของเขาลงไปทีนะน้อย เขามองเห็นปากรูหีขาวสะอาดของหม่อมค่อยขยอกกลืนกินหัวควยของเขาเข้าไปทีละน้อย รู้สึกถึงความอบอุ่นนุ่มชื้นที่ค่อยๆ ครอบลงมาบนหัวควยของเขา มันช่างเป็นความรู้สึกที่วิเศษจริงๆ และแล้วในที่สุดมันก็กดลงมาเต็มที่ ทำให้ควยของเขาโดนรัดแน่นอยู่ภายในช่องแคบเล็กอันแสนอบอุ่นค่อนข้างร้อนนั้น จากนั้นมันก็รูดเข้ารูดออก เด็กชายช้างเสียวไปทั่วลำควยของเขา ภายในร่องหีของหม่อมชดช้อย ตอดรัด ดูดรั้งควยของเขาจนแทบจะหลุดออกไปจากตัวของเขา เวลาที่หม่อมควบอยู่บนตัวของเขา สองเต้าของหม่อมจะโตงเตงชวนให้จับยิ่งนัก เด็กชายช้างทนไม่ไหวจึงยื่นมือออกไปกุมเต้านมอวบเต่งที่เด้งไปมาอยู่ตรงหน้า พลางบีบบี้หัวนมกลางเต้า พอหม่อมเอนตัวลงต่ำ เขาก็อ้าปากดูดหัวติ่งกลางเต้าเข้าปาก จนกระทั่งหม่อมฟุบตัวลงบนตัวของเขา แต่เขายังไม่เสร็จเลย ดังนั้นเขาจึงดันตัวหม่อมให้พลิกตัวไป ควยของเขาถอนออกจากรูหีของหม่อมดัง ป๊อก เบาๆ รูหีของหม่อมที่เคยปิดสนิท ตอนนี้อ้าโบ๋มองเห็นเนื้อในสีแดงได้ชัดเจน ภายในรูยังขมิบอยู่ยวบๆ แล้วรูก็ค่อยๆ หุบลงจนเหลือเพียงปากทางที่อ้าออกน้อยๆ เท่านั้น หม่อมชดช้อยก็ดึงร่างของเด็กชายช้างขึ้นมาบนตัวของเธอ แล้วเอามือจับควยของเขาจ่อตรงปากทางเข้า แล้วบอกให้เด็กชายช้างกดลงไปช้าๆ ก่อน เด็กชายช้างก็ค่อยๆ กดควยของเขาจมลึกลงไปในร่องหีของหม่อม แคมน้อยๆ ที่ปากร่องค่อยๆ ยู่แล้วก็ม้วนตามลำควยลงไป หม่อมชดช้อยสูดปากด้วยความเสียว แล้วบอกให้เด็กชายช้างกระเด้าเบาๆ ด้วยความไม่เคยเด็กชายช้างจึงถอนควยออกมาในจังหวะถอนจนหลุด แล้วดันเข้าไปเต็มแรง อนิจจา ควยอันพิกลพิสดารของเขากลับหลุดเข้าไปในรูตูดอันคับแคบของหม่อม หม่อมชดช้อยตาเหลือก ร้องไม่ออก จุกแน่น แต่เด็กชายช้างก็อ่อนประสบการณ์ ดึงดันยัดควยเข้ารูตูดเต็มแรงจนมีเสียงดัง ปึด รูตูดของหม่อมชดช้อยรูดตามลำควยของเขาเข้าไป เด็กชายช้างก็ซอยลูกเดียวด้วยความเมามันที่สุดในชีวิตวัยรุ่นของเขา สักพักก็ได้ยินเสียงครางออกมาจากหม่อมชดช้อย แล้วก็ส่ายสะโพกสุดเสียงสังข์สู้กับลำควยจนมีเสียงดังพั่บๆ ในที่สุดเด็กชายช้างก็ถึงจุด ร้องโอ้กออกมา แล้วปล่อยน้ำควยร้อนจี๊เข้าไปในรูตูดของหม่อมชดช้อยจนหมด หลังจากเหตุการณ์ในวันนั้น เด็กชายช้างก็ได้ร่วมเป็นส่วนสำคัญในเรือนของหม่อมชดช้อย ในการกระเด้าหีของสาวๆ ที่เงี่ยนและต้องการควยมาบำบัดความเงี่ยน จนเป็นที่เลื่องระบือว่า ควยของเด็กชายช้างนั้น เป็นสุดยอดของควยจริงๆ สาวแก่แม่หม้าย ที่ต้องการความถึงใจ ความสะใจ ก็จะแอบมาแบให้เด็กชายช้างทะลวงที่เรือนของหม่อมอย่างไม่ขาดสาย ทำให้เด็กชายช้างมีวิชากามารมณ์ที่เชี่ยวชาญจนยากจะหาใครเปรียบได้
ขุนช้างขุนแผน ตอนที่ ๓ (เข้าสู่วัยรุ่น)
หลังเหตุการณ์ที่ขุนไกรถูกตัดหัว เวลาผ่านไป ๓ ปี ทุกชีวิตที่เมืองสุพรรณบุรี ก็ใช้ชีวิตอยู่อย่างไม่ใคร่จะมีความสุขนัก เนื่องจากช่วงนี้มักจะมีโจรร้าย มาปล้นสดมภ์ เหล่าชาวบ้าน และข่มขืนเหล่าผู้หญิงทั้งหลาย ก็ส่งผลให้ทางสมเด็จพระพันวษา ได้ตรัสรับส่งให้บรรดา นายกองทั้งหลาย ออกปราบปรามไอ้โจรกลุ่มนี้ และให้พวกหัวหน้าหมู่บ้านทั้งหลายให้ความร่วมมือในการปราบโจรร้ายนี้ด้วย ณ บ้านของขุนศรีวิชัย เศรษฐีผู้ร่ำรวยที่สุดในเมืองสุพรรณบุรี ในวันนี้ก็เป็นวันเฉลิมฉลองอันเนื่องมากขุนศรีวิชัยขายสินค้าได้เงินทองมามากมาย ดังนั้นขุนศรีวิชัย จึงจัดงานเฉลิมฉลองเพื่อเป็นการบอกชาวสุพรรณบุรีว่า ข้ารวย งานเฉลิมฉลองเริ่มต้นตั้งแต่ช่วงเย็น เลยไปเลิกเอาช่วยเกือบจะย่ำรุ่ง กว่าจะเก็บของเสร็จก็ราวๆ ตีห้า หลังจากนั้นทุกคนก็หลับสนิทกันยกเว้นแต่ “เฮ้ย เร็วๆ เข้าซิวะ” เสียงกระซิบจากชายคนหนึ่งซึ่งมีอายุประมาณ ๔๐ เศษ สักลายพร้อยไปทั้งตัว เอาผ้าปิดหน้าไปจนเหลือแต่ช่องตรงลูกตา กระซิบดุ คนที่ตามมาอีก ๒ คน ให้รีบขนของออกจากบ้านของขุนศรีวิชัย พวกนี้คือ กลุ่มโจรที่ช่วงนี้กำลังลำพองใจ ดำเนินการปล้นและฆ่า เจ้าทุกข์ทั้งหลาย และถ้าบ้านไหนมีผู้หญิงสวยด้วยมันยิ่งไม่เอาไว้ต้องโอนข่มขืนแน่นอน ระหว่างที่พวกอีก ๒ คนกำลังขนหีบสมบัติใบใหญ่ข้ามบานประตูห้อง เจ้าคนที่เดินหลังดันสะดุดธรณีประตูทำให้หีบสมบัติใบใหญ่ใบนั้นหลุดมือตกลงกับพื้น เสียงดังโครมใหญ่ เสียงนี้หาได้ปลุกบ่าวไพร่ให้ลุกขึ้นมาไม่ เนื่องจากเหน็ดเหนื่อยจากงานเลี้ยงทั้งคืน แถมกินสาโทเข้าไปมากอีกด้วย แต่คงเป็นคราวเคราะห์ของขุนศรีวิชัย ที่เกิดปวดเยี่ยวแล้วลุกขึ้นมา ทำให้ได้ยินเสียงนี้ ก็สงสัย และหันไปหยิบดาบที่แขวนที่ข้างฝา แล้วค่อยๆ ย่องออกมายังห้องเล็กที่เก็บสมบัติด้านหลังบ้าน เมื่อมาถึงยังข้างห้องเล็กนั้น ขุนศรีวิชัยก็ได้ยินเสียงเดิน และเสียงกระซิบ จึงกระโดดออกมา แล้วฟันดาบใส่หลังโจรคนหนึ่งที่กำลังแบกสมบัติอยู่ จนโจรล้มกลิ้งไป แต่ขุนศรีวิชัยก็โดนหัวหน้าโจรแทงจากด้านหลังจนมิดด้าม ขุนศรีวิชัยไม่มีโอกาสแม้จะได้สั่งเสียลูกเมียเพราะดาบนั้นมุ่งเข้าไปตัดที่ขั้นหัวใจของขุนศรีวิชัย ทำให้ขุนศรีวิชัยขาดใจตายในทันที แต่พวกโจรก็รีบหามคนที่บาดเจ็บหนีออกจากบ้านของขุนศรีวิชัยทันที ทิ้งให้ขุนศรีวิชัยนอนจมกองเลือดอยู่ที่ตรงนั้นเอง ณ อีกมุมหนึ่งของเมืองสุพรรณบุรี อันเป็นที่อยู่ของพันศรโยธา และนางศรีประจัน ซึ่งเป็นพ่อค้าใหญ่ มีการค้าที่คึกคักไม่น้อย ซึ่งวันนี้เองเป็นวันที่พันศรโยธา กลับมาจากการไปค้าขายที่ต่างเมือง นานถึง 3 เดือน ยังผลกำไรให้กับพันศรโยธาอย่างงาม ดังนั้นคืนนี้จึงเป็นคืนฉลองรับขวัญเมียหลังจากที่จากกันไปนาน “ซี๊ดส์ พี่พันจ๋า พี่พัน น้องใจจะขาดแล้วจ๊ะ พี่จ๋า ซี๊ดส์ โอยยย เสียวจังเลย โอยยย พี่จ๋า” เสียงครวญครางดังจากปากของนางศรีประจัน อดีตคนงามแห่งเมืองสุพรรณบุรี แต่ในขณะนี้กำลังบิดกายด้วยความเสียวซ่านจากรสลิ้นของสามี ที่กำลังเลียกลีบส้มโอของนางอยู่อย่างเมามัน ทั้งดูด ทั้งไช จนน้ำเงี่ยนไหลเยิ้มเต็มออกมา ไม่ไยดีที่พันศรโยธา จะดูดกลืนกินไปจนหมดสิ้น แถมยังเอานิ้วแหย่เข้าไปในร่องหลืบสีชมพูที่ฉ่ำเยิ้ม และชอนไชนิ้วไปจนทั่วร่องเสียวอย่างทุกซอกทุกมุม ปากก็ดูดเน้นไปที่แตดสีชมพูที่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ สั่นระริกชูชันสู้ลิ้นของพันศรโยธา สองมือของนางศรีประจันก็บดบี้ไปที่สองเต้าขาวอล่องฉ่องที่ตั้งชูชัน นิ้วมือก็บดบี้หัวนมสีชมพูที่แข็งเด่มีขนาดเล็กกระจิดริด แต่แข็งชูสู้นิ้ว สะโพกของนางเด้งขึ้นรับตามจังหวะนิ้วของพันศรโยธาที่ชักเข้าออก และคว้านในรูหีอย่างรู้จังหวะ หลังจากที่พ้นศรโยธาดูดดุนจนสาแก่ใจแล้ว ก็ลูกขึ้นยืนพลางถอดกางเกงออก ฉับพลันนั้นเจ้าใบ้หัวโต ขนาด ๕ นิ้วก็โผล่ออกมาดูโลก แต่ถึงแม้พ้นศรโยธาอาจมีขนาดที่ไม่ใหญ่โตนัก แต่ด้วยความที่เขาได้เดินทางไปยังต่างเมือง และที่ต่างๆ มากมาย ก็ทำให้เขาได้พบกับนักรักมากมาย ได้รับประสบการณ์มาก และที่สำคัญก็คือ เขาได้ไปพบกับอาจารย์ผู้หนึ่งซึ่งมีวิชาการในการผ่าตัดผังมุก และติดแผงคอม้า ซึ่งพันศรโยธาได้เห็นประสิทธิภาพมาแล้ว จึงได้ขอผ่าตัดบ้าง และครั้งนี้แหละเขาได้ลองเอามาใช้กับเมียสาวของเขาเป็นครั้งแรก นางศรีประจัน เมื่อได้เห็นควยของผัวที่มีลักษณะผิดแผกไปจากปกติ ก็ตกตะลึงตาค้าง เพราะไม่เคยเห็นมาก่อนว่าทำไม่ควยของผัวจึงมีปุ่มปมไปทั่ว แถมที่ตรงหัวตรงเงี่ยงยังติดอะไรที่เป็นขนยื่นออกมา ด้วยความกลัวนางจึงหุบขาไม่ยอมให้ไอ้ของแปลกนี้มันเข้าไปในรูหีของนาง แต่พันศรโยธาก็ก้มลงดูดเม้มที่หัวนมสีชมพูของนางอีกมือหนึ่งก็เอานิ้วชอนไชเข้าไปในร่องหลืบที่คับติ้วของนางและบางครั้งก็เกี่ยวโดนเอาแตดของนาง ทำให้นางศรีประจันเริ่มตาเยิ้มและมีน้ำเงี่ยนไหลออกมาจากรูหี เริ่มที่จะบิดส่ายสะโพกให้สวนกับนิ้วของพันศรโยธาที่คว้านเข้าไปในรูหี ให้ถ้วนทั่ว พันศรโยธานั้นเมื่อเห็นเมียรักเริ่มเคลิบเคลิ้มแล้ว ก็ค่อยจ่อหัวควยที่ได้รับการปรับปรุงใหม่เข้าไปจรดที่รูหี แล้วค่อยๆ ดันเข้าไป กลีบแคมของนางศรีประจันก็ค่อยๆ ม้วนตามหัวควยเข้าไป พอถึงส่วนที่เป็นเงี่ยงก็ทำให้นางศรีประจันสะดุ้งแล้วจับแขนของพันศรโยธาเอาไว้แน่น เพราะมีความรู้สึกว่าปากรูหีของนางถูกขนอะไรบางอย่างมันครูด ทำให้เกิดความรู้สึกแสบๆ คันๆ เสียวๆ แปลกดี แถมพอถึงจุดที่มุกมันเข้าไปมันจะสะดุดเข้าไปถูกจุดในส่วนกระสันของนางอย่างทั่วถึง พอพันศรโยธากดควยเข้าไปจนมิดก็เริ่มชักออก พอเริ่มที่ชักออก ไอ้แผงคอม้ามันก็เริ่มออกฤทธิ์ มันเริ่มครูดเนื้อในของนางจากด้านในสุด ออกมาจนกระทั่งแคมของนางปลิ้นติดควยออกมาเป็นสีแดงก่ำ ซึ่งมันส่งผลให้นางศรีประจันรู้สึกแสบคันในช่องเป็นอย่างยิ่ง กำลังจะอ้าปากบอกผัวรักให้หยุดเพราะนางรู้สึกแสบคันที่ในรูหี พันศรโยธาก็กระแทกกลับเข้าไปดังฟุบ หนอกควยกระทบกับหนอกหีขาวสะอาดของนางดังพั่บ แล้วก็ซอยเข้าออกเข้าออก เสียงดังฟูบฟาบ น้ำเงี่ยนไหลออกมาเป็นฟองฟอด แคมหีปลิ้นเข้าออก เข้าออก อย่างต่อเนื่อง ทำให้นางศรีประจันเด้งรับการกระเด้าของผัวรัก อย่างไม่กลัวหีพัง กามกิจนี้ดำเนินอย่างต่อเนื่องนานถึง ๒ ชั่วโมง ทำให้นางศรีประจันรู้สึกเสียวซ่านมากที่สุดในชีวิตสาวของนาง ทั้งแผงคอม้า และมุกมันทั้งครูดทั้งสะดุดต่อมเสียวของนางอย่างต่อเนื่อง ทำให้นางถึงจุดสุดยอดอย่างที่ในชีวิตนี้ไม่เคยได้ถึงเลย และก็ถึงจุดต่อเนื่องไปอีกหลายครั้ง แต่ตัวพันศรโยธาเองอยู่ๆ ก็หยุดนอนทับร่างนางแน่นิ่งไป ทำให้นางตกใจอย่างมาก รีบลุกขึ้นมาแต่งตัว และเขย่าเรียกผัวรัก แต่อนิจจาเรียกอย่างไรก็คงไม่ตื่นแล้ว เนื่องจากพันศรโยธานั้น หัวใจวายอันเนื่องมาจากการออกแรกกระเด้าเมียรักให้ถึงจุดสุดยอดเป็นครั้งแรกในชีวิต ได้จึงกระเด้าอย่างไม่คิดชีวิต จนถึงแก่ความตายในที่สุด กล่าวถึงพลายแก้ว และนางทองประศรีที่ได้เดินทางอพยพมาอยู่ ณ เขาชนไก่ จังหวัดกาญจนบุรีนั้น ในช่วงแรกที่เดินทางมาถึงนั้น นางทองประศรีก็ได้มาอาศัยอยู่กับนางแก้ว ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของนาง นางแก้วถูกเลี้ยงดูมากับนางทองประศรีในตอนที่ยังเด็กอยู่ แต่ตอนนี้นางแก้วก็ได้อยู่กินกับคนจีนที่เข้าตั้งรกรากค้าขายอยู่ที่เมืองกาญจนบุรีนั้น ี้ ซึ่งทั้งนางแก้วและสามีของนางคือเจ๊กซุ่น ก็ได้ให้ความช่วยเหลือแก่นางทองประศรีเป็นอย่างดี โดยความช่วยเหลือของครอบครัวนี้ ทำให้นางทองประศรีได้เริ่มมีฐานะที่ดีขึ้นจนได้เป็นเจ้าของที่ดินมากมาย ที่ปล่อยให้คนได้เช่า ทำให้นางได้กินค่าเช่า ไม่ต้องไปทำงานหาเลี้ยงลูกให้เหน็ดเหนื่อยอีกต่อไป สำหรับพลายแก้วนั้น ไม่ต้องห่วงเลย เนื่องด้วยเป็นเด็กฉลาด และกตัญญู เป็นที่หนึ่ง พลายแก้วนั้นไม่ดื้อไม่ซนและขยันช่วยเหลือแม่ในการค้าขาย และเมื่อนางทองประศรีเห็นว่าฐานะของนางมั่นคงพอแล้ว นางจึงคิดจะฝากให้พลายแก้วได้ศึกษาเล่าเรียน เพื่อจะได้เป็นคนที่เก่งเหมือนกับขุนไกรพลพ่ายผู้เป็นพ่อ นางจึงเอาเรื่องนี้ไปปรึกษากับนางแก้วว่าจะให้พลายแก้วได้ไปศึกษาต่อที่ใดดี นางแก้วกับสามีของนางเจ๊กซุ่น ก็ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งก็บอกว่า สมภารบุญที่วัดส้มใหญ่ มีวิชาอาคมมาก น่าจะให้พลายแก้วได้ไปศึกษากับท่านสมภารจะได้มีวิชาความรู้ติดตัว เจ๊กซุ่นก็รับปากจะไปพูดกับสมภารบุญให้ เนื่องจากเจ๊กซุ่นและนางแก้ว เป็นอุบาสก อุบาสิกา ที่เคยช่วยเหลือกับทางวัดส้มใหญ่มามาก ตั้งแต่สมัยที่เริ่มสร้างวัดใหม่ๆ ซึ่งในที่สุดพลายแก้วก็ได้เข้าไปบวชเณร ซึ่งทำให้นางทองประศรีปลาบปลื้มใจเป็นอย่างมากที่ลูกชายจะได้มีวิชาความรู้เหมือนอย่างกับพ่อที่เสียไปของเขา พลายแก้วนั้น เมื่อได้บวชเป็นสามเณรกับสมภารบุญนั้นก็ได้ตั้งใจศึกษาเล่าเรียน หนังสือ การคาถาอาคม และการเข้าญาณสมาธิกับสมภารบุญ ด้วยความที่เป็นเด็กใผ่รู้และฉลาดเฉลียว ทำให้พลายแก้วเป็นที่รักใครเอ็นดูของสมภารบุญมาก สมภารบุญจึงได้ถ่ายทอดวิชาให้จนหมดสิ้น แม้กระทั่งวิชาในการผูกควายธนู ก็ได้สอนใจแก่พลายแก้วไปจนหมดสิ้น จนกระทั่งวันหนึ่งท่านสมภารก็ได้เรียกสามเณรพลายแก้วมาคุยกันที่ในโบสถ์ “เออ เณรแก้วเอ้ย เจ้ามาอยู่กับหลวงตาได้ย่างเข้า ๓ ปีแล้วนะ หลวงตารู้ว่าเจ้าเป็นเด็กดี ขยัน ไม่เกียจคร้าน... หลวงตาสอนอะไรเจ้าก็เรียนรู้ได้เร็ว จนหลวงตาไม่มีอะไรจะสอนแล้ว เอาอย่างนี้ หลวงตาจะส่งเจ้าไปเรียนกับท่านสมภารคงแห่งวัดป่าเลไลย์นะ... ท่านน่ะเป็นอาจารย์ของหลวงตาอีกที เจ้าจะได้เรียนวิชาเพิ่มเติม เพราะหลวงตาสมองโง่ทึบ เรียนวิชามาไม่ได้ถึงหนึ่งในร้อยของท่านอาจารย์... ถ้าเจ้าอยากที่จะไปเรียนหลวงตาจะเขียนหนังสือฝากเจ้าไปให้ ดีมั้ย” สามเณรพลายแก้ว ก้มลงกราบหลวงตา และตอบเสียงเบาๆ ว่า “แล้วแต่หลวงตาเถิดขอรับ เพียงเท่าที่หลวงตากรุณาผมก็รู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างยิ่งแล้วขอรับ” หลวงตาบุญ ลูบหัวสามเณรแก้วด้วยความรักใคร่ แล้วพูด “อืม เจ้ามันเป็นคนดี หลวงตายังไม่เคยรักและเมตตาใครเท่าเจ้าเลยนะ ขอให้เจ้าตั้งใจและขยันอย่างนี้เรื่อยๆ ไปล่ะ... แล้วพร่งนี้เจ้าก็ออกเดินทางไปที่วัดป่าเลไลย์ได้เลยนะ” สามเณรพลายแก้ว ก้มลงกราบหลวงตาอีกครั้ง แล้วลาหลวงตาออกมา หลังจากนั้นสามเณรพลายแก้วก็เดินทางไปยังบ้านของมารดา เพื่อบอกกับมารดาว่าตนจะย้ายไปศึกษากับหลวงตาคง แห่งวัดป่าเลไลย์ในวันพรุ่งนี้แล้ว เมื่อเดินมาถึงหน้าบ้าน หมาหลายตัวที่นางทองประศรีเลี้ยงไว้ก็เห่าใส่สามเณรพลายแก้ว สามเณรพลายแก้วก็หลับตาบริกรรมคาถา เพียงชั่วขณะเดียว หมาเหล่านั้นก็หยุดเห่า แล้วเข้ามาเลียแข้งเลียขากันเป็นการใหญ่ ฝ่ายนางทองประศรีนั้น กำลังนอนให้บ่าวไพร่นวดอยู่ ได้ยินเสียงหมาเห่า ก็บอกกับบ่าวไพร่ว่า “ไอ้มั่น เอ็งลงไปดูซิว่าใครมา รีบๆ ลงไป เดี๋ยวหมามันรุมฟัดตายห่า” บ่าวชาย ก็เดินลงมาที่ด้านหน้าเรือน แล้วพบว่ามีสามเณรรูปหนึ่งรออยู่ด้านหน้าจึงคุกเข่าลงถาม “พระคุณเจ้าขอรับ พระคุณเจ้ามาหาใครหรือขอรับ” สามเณรพลายแก้วก็ตอบอย่างสำรวมว่า “นายมั่น นี่นายมั่นจำอาตมาไม่ได้หรอกหรือ อาตมาคือพลายแก้วลูกของแม่ทองประศรีอย่างไรเล่า” นายมั่น จ้องดูสักพักก็จำได้ รีบนิมนต์สามเณรพลายแก้วมานั่งรอที่ในเรือนด้านหน้าก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปเรียนนายหญิงว่าสามเณรพลายแก้วมา พอนางทองประศรีได้ฟังดังนั้น ก็ดีใจยิ่งนัก รีบลูกขึ้นจนบ่าวไหร่ที่กำลังนวดให้อยู่ หงายหลังหน้าคะมำกันไปตามๆ กัน นางทองประศรีรีบเดินมาจนถึงเรือนด้านหน้า พอพบหน้าลูกชายก็รู้สึกดีใจจนน้ำตาไหล เนื่องด้วยบารมีแห่งผ้าเหลืองที่สวมอยู่ ทำให้นางรู้สึกเลื่อมใสยิ่งนัก นางก้มลงกราบสามเณรพลายแก้วแล้วถามไถ่ทุกข์สุขของลูกชายด้วยความรักและเป็นห่วง ด้วยจากกันมานานถึง ๓ ปี สามเณรพลายแก้วจึงบอกกับมารดาว่า ตนจะต้องเดินทางไปยังวัดป่าเลไลย์ เพื่อไปเรียนวิชาเพิ่มกับหลวงตาปู่คง สมภารแห่งวัดป่าเลไลย์นั้น และจะไปตั้งแต่วันพรุ่งนี้ ทำให้นางทองประศรีปลาบปลื้มยินดีอย่างมาก และบอกกับสามเณรพลายแก้วว่า หลวงปู่คง แห่งวัดป่าเลไลย์นั้น คืออาจารย์เก่าของขุนไกรพลพ่าย ผู้เป็นบิดานั่นเอง ยังความยินดีให้กับสามเณรพลายแก้วยิ่งนัก เมื่อคุยไต่ถามทุกข์สุขกันจนหายคิดถึงแล้ว สามเณรพลายแก้วก็ลาจากนางทองประศรีผู้เป็นมารดาเพื่อเดินทางไปยังวัดป่าเลไลย์ จังหวัดสุพรรณบุรี โดยพลัน
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
หวานมันฉันคือ... ภาค 2
ก่อนที่จะจรดปลายนิ้วลงบนแป้นคีย์บอร์ด ผมชั่งใจอยู่นาน เพราะเหตุการณ์ที่ผมจะเล่าต่อไปนี้ ถ้าบอกใครไปเค้าก็ต้องหาว่าผมบ้า หรือไม่ก็เมา แต่เอาเ...
-
เสียงตะโกนเรียกจากด้านหลัง ทำให้ เมย์ “บุษบา” นักศึกษาแพทย์ปีสุดท้ายที่กำลังจะเดินขึ้นตึกผู้ป่วยต้องหันกลับไปมอง แต่เมื่อแลเห็นชายหนุ่มหน้าต...
-
ก่อนที่จะจรดปลายนิ้วลงบนแป้นคีย์บอร์ด ผมชั่งใจอยู่นาน เพราะเหตุการณ์ที่ผมจะเล่าต่อไปนี้ ถ้าบอกใครไปเค้าก็ต้องหาว่าผมบ้า หรือไม่ก็เมา แต่เอาเ...
-
โหนกหีที่นอนหงายแกล้งทำเป็นหลับจนโหนกหีนูนเด่น.เห็นกลีบหอยที่คาบผ้าเช็ดตัวเข้าไปภายในกลีบหี.จนเห็นเป็นรูป. โอ๊ย.อีสาย.มึงจะยั่วแท่งลำควยก...