วันศุกร์ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2560
พิมผกา 2
รถจอดสนิทนิ่งอีกครั้งเสียงเครื่องยนต์ดับเงียบลงประตูด้านคนขับถูกเปิดรถยวบเอียงเมื่อคนที่นั่งด้านนั้นลุกออกจากรถไปและเสียงปิดประตูดังขึ้น พิมผกาเหลียวหน้าไปมองด้านที่เกิดเสียงนั้นด้วยสัญชาตญาณโดยลืมไปว่าเธอถูกปิดตาอยู่ และเหลียวหน้ากลับมาอีกด้านเมื่อเสียงเปิดประตูดังขึ้นมือแข็งแรงข้างหนึ่งคว้าจับแขนเธอไว้อีกมือหนึ่งโอบรอบไหล่ของเธอรั้งดึงเหมือนเตือนให้ขยับตัวลงจากรถ พร้อมกับเสียงแผ่วนุ่มที่ฟังแล้วรู้สึกอบอุ่น "ค่อยๆก้าวขาลงมาช้าๆนะครับ .....เอาละ...ทีนี้ก้าวมาข้างหน้าช้าๆ...น่านหล่ะดีมาก ค่อยๆเดินไป...ช้าๆจ้ะไม่ต้องรีบ...ฯลฯ.."กวินบอกบทนำทางให้คนถูกปิดตาก้าวเท้าเดินออกไปช้า "เอาละหยุด...อาจจะไม่สะดวกนิดนึงนะครับ ขออนุญาตให้วินอุ้มกวางนะครับ" พิมผกายังมึนงงเช่นเดิมแต่ก็พยักหน้ารับอย่างว่าง่าย แล้วเธอก็รู้สึกวูบหวิวเมื่อสองเท้าลอยพ้นพื้น แขนของกวินช้อนเข้ารับที่ใต้ข้อพับร่างกายเธอเอนหงายไปด้านหลังแล้วถูกรองรับด้วยแขนอีกข้างหนึ่ง แขนข้างนึ่งของพิมผกาโอบอยู่บริเวณต้นคอด้านหลังของลูกชายโดยอัตโนมัติ ส่วนอีกข้างที่ถูกปล่อยห้อยอยู่นั้นเธอก็เอื้อมไปโอบเหนี่ยวรอบคอเขาไว้อีกทีเพื่อเป็นหลักประกันว่าเธอจะไม่ร่วงหล่นลงไปหากผิดพลาดไป กวินก้าวเดินไปประมาณ3-4ก้าวแล้วก็หยุด ความเงียบปกคลุมมาอีกคำรบหนึ่งประมาณชั่วอึดใจ "กวางครับ.....ปล่อยมือออกแล้วแกะผ้าผูกตาออกเถอะ วินอุ้มกวางไว้กระชับดีแล้วกวางไม่ต้องกลัวนะคะ" ท้ายประโยคแผ่วนุ่มเป็นพิเศษ พิมผกาจึงคลายมือออกจากรอบคอของลูกชายแล้ววกกลับไปแก้ปมผ้าปิดตาที่ผูกขมวดไว้อย่างง่ายๆ เมื่อผ้าผูกตาหลุดออก ที่เธอเห็นคือแสงอ่อนๆสาดปกคลุมอยู่รอบกายเธอมันไม่สว่างจ้าเหมือนแสงที่เกิดจากหลอดไฟ เพราะมันเป็นแสงจากธรรมชาติเธอเหลียวหน้ามองไปที่กวินซึ่งขณะนี้ส่งยิ้มบางให้เธออยู่แล้ว เธอเห็นหน้าของกวินได้ค่อนข้างชัดเจนทีเดียว จากนั้นจึงเหลียวมองรอบๆด้านอย่างสำรวจตรวจตราสถานที่ ขณะนี้เธออยู่ท่ามกลางวงล้อมของธรรมชาติ รอบๆด้านมีแต่เงาทะมึนของต้นไม้ที่โยกเอนช้าๆไปตามแรงลมที่พัดระเรื่อยเอื่อยๆนั้น แล้วเธอก็สังเกตุเห็นอีกว่าที่พื้นซึ่งควรจะเป็นดินหรือหญ้า มันกลับไม่ใช่เพราะตอนนี้มันกำลังสะท้อนประกายระยิบระยับจับตาอย่างประหลาด เมื่อเพ่งตาดูอีกครั้งจนสายตายปรับระดับได้แล้วเธอจึงรู้ว่าตอนนี้เขาและเธออยู่เหนือผิวน้ำ แล้วสิ่งที่สะท้อนระยิบระยับอยู่นี้มันคืออะไร พิมผกาได้คำตอบอย่างรวดเร็วเมื่อเธอเงยหน้าขึ้น แสงเป็นจุดๆทั้งขนาดใหญ่และเล็กปะปนกันอย่างมากมายมหาศาลเหลือคณานับลอยกระพริบวิบวาวเต็มทั่วแผ่นฟ้าไปหมด ใช่แล้วที่เธอได้เห็นอยู่ในขณะนี้คือทะเลดวงดาวที่ลอยประชันแสงประดับอยู่บนแผ่นผืนของท้องฟ้าที่ดำมืดเป็นฉากหลังนั้น ความสวยงามตระการตาที่เธอไม่เคยพบพานมาก่อนเช่นนี้ทำให้พิมผกาตะลึงจนตาค้างไป เมื่อเหลียวไปรอบๆพิมผกาก็ได้พบกับต้นกำเนิดของแสงนวลใยนั้น เป็นจันทร์เสี้ยวที่แขวนค้างเปล่งรัศมีเรืองรองบางๆสาดส่องลงมา พิมผกาหันหน้ากลับมาที่กวินอีกครั้งโอบแขนทั้งสองข้างกระหวัดรัดโอบรอบคอเขาอีกครั้งยื่นหน้าเข้าหาจูบแผ่วๆลงบนริมฝีปากและข้างแก้มของเขาแล้วเอียงหัวซบเข้าที่ซอกคอของลูกชายแหงนหน้าน้อยๆเหลือบตาขึ้นมองท้องนภาที่ประดับดาราเกลื่อนกล่นเต็มทั่วแผ่นผืนนั้นอีกครั้ง แล้วครางออกมาเบาๆเหมือนรำพึงรำพัน "โอวว์ ช่างสวยงามเหลือเกิน ลูกจ๋าแม่ไม่เคยมีความสุขอย่างนี้มาก่อนเลย ไหนบอกแม่สิคะว่านี่ที่ไหน" ประโยคสุดท้ายหันไปถามกวิน ซึ่งยืนงงๆอยู่เพราะแม่กลับมาเรียกสรรพนามระบุความสัมพันธ์เดิมทำให้กวินรู้สึกว่าเกิดระยะห่างระหว่างเขาและแม่ กวินรู้สึกเหมือนสูญเสียอะไรบางอย่างไป ความสะท้อนใจนั้นถูกเก็บเงียบไว้ในใจฝืนยิ้มน้อยๆให้ผู้เป็นแม่ แต่ยังไม่สามารถตอบคำถามนั้นได้เพราะมีก้อนสะอื้นแล่นขึ้นมาจุกอยู่ที่ลำคอ พิมผกาเองก็สำเหนียกถึงความผิดปกติของลูกชายได้ "ปละ....ปล่อยแม่ลงก่อนได้มั้ยคะ" กวินยืนหน้าชาแทบไร้ความรู้สึก ไม่รู้ถึงการคงอยู่ของตัวเองค่อยๆปล่อยร่างของพิมผกาลงให้ยืนบนพื้นแพ พิมผกาก้าวเดินไปข้างหน้าห่างจากลูกชายไปก้าวหนึ่งพูดโดยที่ไม่เหลียวหลังกลับมา "ขอ...ให้แม่กลับเป็นแม่ของวินสักครู่ได้มั้ยคะ.......... วิน....แม่อยากนอนดูดาวที่นี่จังเลย ที่....ที่หลังรถมีหมอนอยู่ลูกไปหยิบมาให้แม่หน่อยได้มั้ยจ๊ะ" กวินรู้สึกใจชื้นขึ้นมานิดหนึ่ง อย่างน้อยก็รู้สึกดีที่แม่ชอบสิ่งที่เขาพาดู เดินจากแพกลับมาที่รถ เปิดไฟค้นหาสิ่งของที่ต้องการแล้วจึงเดินย้อนกลับไปที่แพยื่นส่งหมอนให้แม่แล้วจัดแจงปูผ้าที่หยิบติดมือมาด้วยลงบนพื้นแพไม้ไผ่ จนเสร็จเรียบร้อยพิมผกาหันมามองดูลูกชายด้วยดวงตาที่สุกกระจ่างดั่งดาวบนนภาในเวลานี้ "วิน พอจะพาแม่ออกไปตรงกลางๆของ..อืมม..ทะเลสาบ...น่าจะเรียกว่าทะเลสาปนะ พาแม่ไปตรงกลางนั้นได้มั้ยจ๊ะ" อย่างไม่รู้เหตุผลว่าทำไมแม่จึงของเช่นนั้น แต่กวินก็พยักหน้ารับคำสั่งแต่โดยดี เขาก้มลงแก้เชือกที่ผูกแพไม้ไผ่ไว้กับหลักบนฝั่งออก แล้วหันไปหยิบไม้ไผ่ลำยาวที่วางอยู่ตรงกราบข้างแพซึ่งไว้ใช้ทำเป็นถ่อ ดันปลายไม้ไผ่เข้ากับดินริมขอบฝั่ง ออกแรงผลักแพนั้นก็ค่อยๆแหวกน้ำเคลื่อนที่ออกไปอย่างช้าๆ เมื่อแพเริ่มขยับออกพิมผกาเองก็เซเล็กน้อยเนื่องจากไม่มีหลักให้จับยึด เธอจึงต้องทรุดตัวลงนั่งคุกเข่าบนผ้าที่ลูกชายปูรองพื้นไว้ให้ แพเคลื่อนที่ออกมาได้โดยแรงถ่อของกวินประมาณ3-4นาที พิมผกาก็หันไปบอกลูกชายด้วยเสียงใสๆหวานๆ "หยุดตรงนี้ได้มั้ยจ๊ะวิน แม่ว่าตรงนี้กำลังดีเลยมองเห็นท้องฟ้าได้ชัดขึ้น เพราะไม่มีต้นไม้บังแล้ว" กวินยิ้มรับง่ายๆเนือยๆ ปักลำไผ่ลงในน้ำกดจนมันจมไปในเลนลึกแน่นพอสมควรแล้วจึงทรุดตัวลงหยิบเชือกที่ติดอยู่กับตัวแพมามัดไว้กับหลักถ่อที่ปักไว้ พิมผกาหยิบหมอนขึ้นมากอดไว้แล้วนั่งแหงนคอมองดูความสุกสกาวพราวพร่างของหมู่ดาวที่วิบวับระยับตานั้นอย่างเงียบๆอย่างไม่รู้ตัวแม้กระทั่งกวินเดินกลับมานั่งลงที่ข้างๆ แต่ก็รักษาระยะห่างไว้ระดับหนึ่ง กวินก็แหงนหน้าชื่นชมกับความสวยงามที่ยิ่งใหญ่ตระการตานี้ปล่อยความคิดให้ลอยออกไปอย่างไม่มีจุดหมาย เอนกายไปด้านหลังเล็กน้อยสองแขนเหยียดไปด้านหลังท้าวค้ำเป็นหลักไว้สองขาทอดเหยียดยาวไปข้างหน้า ทั้งคู่นั่งเงียบกลืนไปกับบรรยากาศรอบๆตัวหลอมเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติไปแล้ว เหมือนไม่มีกาลเวลาอีกต่อไปในตอนนี้ พิมผการู้สึกเมื่อยคอเป็นกำลังอยากจนจะนอนลงเธอเหลียวหน้าช้าๆมองไปที่ลูกชายที่นั่งอยู่ด้านข้างอย่างเงียบๆริมฝีปากขบเม้มเหมือนจะตัดสินใจอะไรซักอย่าง สักครู่เธอจึงค่อยๆเอนกายลง ศรีษะพาดหนุนลงไปบนต้นขาของลูกชายอย่างช้าๆแผ่วเบาแต่กวินก็สะดุ้งรู้สึกตัวตื่นจากภวังค์ก้มหน้าลงมองใบหน้าของแม่ที่แหงนเงยขึ้นมาดวงตาประสานกัน "อ้าวว...ทำไมแม่ไม่หนุนหมอนล่ะครับผมก็เอามาให้แล้วไง" พิมผกาหลบสายตานั้นวูบเอียงหน้าลงให้ด้านข้างแก้มทาบทับบนต้นขาแทน "กวะ....กวางไม่ได้มากับลูกชายค่ะ ตอนนี้กวางมากับชายคนที่กวางรักและปราถนาเขาที่สุด....." เสียงปลายประโยคแผ่วเบาเหมือนจะหายไปในลำคอ กวินรู้สึกพลุ่งพล่านขึ้นมาผู้หญิงที่เบื้องหน้าเขาตอนนี้เปลี่ยนไปเป็นอีกคนหนึ่งแล้ว เขาให้คำตอบตัวเองไม่ได้ว่าเขาต้องการมีอะไรกับผู้หญิงที่เป็นแม่หรือผู้หญิงที่ชื่อกวางหรือพิมผกากันแน่ พิมผกาขยับตัวอีกครั้งให้หนุนตักกวินได้ถนัดขึ้น คราวนี้หัวเธอหนุนพาดลึกเข้าไปอีกโดยทับคาบไปถึงเป้ากางเกงของกวินด้วย แล้วเสียงสั่นเครือเหมือตกประหม่าหรือแฝงด้วยอารมณ์อะไรบางอย่างก็ดังขึ้น "วินขา...วินรู้มั้ยกวางชอบบรรยากาศที่นี่ที่สุดเลย กวางเคยฝันไว้นะ วินอยากรู้มั้ยว่ากวางคิดฝันไว้ยังไง" กวินก้มหน้ามองสำรวจไปทั่วทั้งเรือนร่างที่อยู่ข้างหน้าปากก็ตอบไปเบาๆ "อยากรู้สิครับ กวางฝันไว้ว่ายังไงเหรอ" พิมผกาบดเบียดด้านข้างของใบหน้าลงกับต้นขาและเป้ากางเกงที่เธอหนุนซุกอยู่นั้นไปมาอย่างช้าๆนุ่มนวล "กวางอยากมีความสุขกับใครสักคนที่กวางรักในสถานที่และบรรยากาศแบบนี้แหละ กวางคิดฝันมานานแล้วนะ แต่ก็ไม่เคยคิดหรอกว่ามันจะมีอยู่จริงพร้อมๆกันทั้งสองอย่าง แต่....แต่วินทำให้มันเป็นจริงต่อหน้ากวางแล้ว....กวาง...." คำพูดของพิมผกาสะดุดลงแค่นั้นกวินขยับตัวเบาๆดึงมือข้างหนึ่งกลับมาลูบไล้เรือนผมที่สยายยาวนั้นอย่างทะนุถนอม "แล้วกวางมีรางวัลอะไรให้วินมั้ยล่ะคะ ที่วินทำได้อย่างที่กวางต้องการ" การบดเบียดเสียดสีทำให้กวินรู้สึกเป็นสุขอย่างยิ่งกล้ามเนื้อทุกสัดส่วนเริ่มตื่นตัวขึ้นเป็นลำดับ "กวาง...กวางให้วินทุกอย่างเลยค่ะถ้าวินต้องการ....แล้ววินล่ะคะ...วินจะ...." คำพูดหยุดหายไปเฉยๆเหมือนจะถามอะไรแต่ไม่ถามให้จบและเหมือนรอคอยคำตอบ กวินโอบรั้งหัวไหล่ของพิมผกาขึ้นมาซุกหน้าเข้าหาพวงแก้มสุกปลั่งนั้นบรรจงแตะริมฝีปากเบาๆลงไปแล้วพรมจูบนั้นไปทั่วใบหน้าจนกระทั่งกลับมาจบลงที่ริมฝีปากบางอ่อนนุ่มที่เผยอน้อยๆนั้น ลิ้นอ่อนนุ่มทั้งสองพัวพันอย่างแผ่วเบากระหวัดรัดรึง โดยพิมผกาเป็นผู้ชักนำให้ลิ้นของกวินล่วงผ่านเข้าโพรงปากอันหอมหวานนั้นแล้วเปลี่ยนเป็นดูดดุนลิ้นนั้นไว้อย่างเนิ่นนานจนกวินเสียวสะท้านไปทั้งกายกับการกระทำของเธอผู้นี้ ผู้ซึ่งเป็นแม่แท้ๆของเขาเอง...............
........"กวะ....กวางไม่ได้มากับลูกชายค่ะ ตอนนี้กวางมากับชายคนที่กวางรักและปราถนาเขาที่สุด....." คำพูดและสำเนียงปลายเสียงยังสะท้อนวนเวียนอยู่ในภวังค์ความคิดคำนึงของกวินอยู่ตลอดเวลา ความปราถนาในดำกฤษณาค่อยๆคุโพลงขึ้นเป็นลำดับด้วยรสจูบที่หวานละมุนจากลิ้นอ่อนนุ่มที่สอดรับอย่างสอดคล้อง พิมผกากดน้ำหนักตัวโน้มไปข้างหน้าอย่างช้าๆในขณะที่กวินก็เอนหลังลงอย่างเชื่องเชื่อเหมือนตกอยู่ในมนต์สะกด จนในที่สุดร่างอวบนุ่มของพิมผกาก็ทาบทับลงบนร่างของกวินโดยที่ปากยังบดเบียดดูดลิ้นซึ่งกันและกันอยู่เช่นนั้น กวินรู้สึกได้ถึงก้อนเนื้ออวบหยุ่นที่บดเบียดอยู่บนแผงหน้าอกสองมือของเขาลูบไล้ไปบนแผ่นหลังของพิมผกาอย่างแผ่วเบาละไลาลงไปจนถึงสะโพกแน่นเนื้อทั้งสองข้างไต่ไล่ไปจนถึงแก้มก้นนุ่มละมุนนอกร่มผ้า อาการลูบไล้เป็นไปอย่างนุ่มนวลไม่แสดงถึงความหื่นกระหาย อารมณ์ของคนทั้งสองค่อยๆถูกสั่งสมกลับมาใหม่ ท่อนควยของกวินตอนนี้แข็งโชนเป็นลำเบียดอัดอยู่ในกางเกง ความแข็งเกร็งนี้พิมผกาผู้ทาบทับอยู่บนมันสามารถรับรู้ได้เป็นอย่างดี สะโพกผายที่ถูกมือของกวินลูบไล้อย่างแผ่วเบาได้อารมณ์ค่อยๆยักย้ายเยื้องโยกบดอัดโคกโหนกนูนสัมผัสรับกับท่อนลำอุ่นระอุนั้นอย่างเป็นธรรมชาต แรงกดจกเต้าอวบหยุ่นผ่อนคลายไปบ้างในความรู้สึกของกวินเพราะพิมผกาค่อยๆขยับตัว ยันกายขึ้นเล็กน้อย เธอถอนปากออกจากปากของกวินช้าๆน้ำลายเหนียวใสยืดตามจากปากของทั้งสองจนขาดจากกัน สองแขนของพิมผกาท้าวยันอยู่เหนือไหล่ทั้งสองข้างของกวินจังหวะบดอัดสะโพกถูกเร่งขึ้นอีกเล็กน้อยแต่ตำแหน่งที่สัมผัสกันของอวัยวะทั้งสองถูกปรับให้สอดรับกันได้ดียิ่งขึ้น ท่อนควยลำอวบยาวถูกถูไถขึ้นลงโดยร่องหีที่เริ่มเปียกชื้นของพิมผกา แม้จะมีเสื้อผ้ากางกั้นอยู่ แต่รสสัมผัสที่ทั้งสองมอบให้และได้รับ ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อความสุขเสียว ที่ทั้งคู่ต่างก็ต้องการจากกันและกันเลย สัมผัสจากมือของกวินที่พิมผกาได้รับตอนนี้เธอรู้สึกได้ถึงความแรงที่เพิ่มขึ้น เมื่อแก้มก้นทั้งสองข้างของเธอถูกบีบเค้นน้ำหนักแรงบีบมันเปลี่ยนไปตามความเสียวช่านที่เธอเป็นผู้บรรจงมอบให้ พิมผกายิ่งรู้สึกก็ยิ่งเสียวซ่านมากขึ้น เพียงแค่ภายนอกร่มผ้านี้ พิมผกาบอกกับตัวเองได้เลยว่าเธอกำลังจะเสร็จแล้ว สายตาปรือเยิ้มไปด้วยไฟราคะและความรักที่ล้นปรี่จ้องมองลงไปในดวงตาของกวินที่นอนรับร่างของเธออยู่นั้นทั้งคู่สบตากันเหมือนกาลเวลาหยุดนิ่ง ทุกสิ่งทุกอย่าง รอบกายเหมือนหยุดความเคลื่อนไหว แม้แต่สายลมก็ไม่โชยพัด เหมือนจะอัดอั้นกลั้นไว้เพื่อรอดูหรือเป็นกำลังใจให้กับหญิงสาวชายหนุ่มคู่นี้ ท่ามกลางความเงียบสงบไร้สิ้นซึ่งเสียงสำเนียงใดๆพิมผกามองเห็นการตอบรับในดวงตาของกวินนั้น โดยไม่ต้องส่งเสียงใดๆเลยกวินพยักหน้าน้อยๆให้พิมผกา เหมือนกับรับรู้ว่าเธอต้องการหรือกำลังร้องขออันใด และกวินเองก็เห็นในดวงตาทั้งคู่ของพิมผกา เต็มเปี่ยมไปด้วยแววความตื่นเต้น อัศจรรย์ และสำนึกขอบคุณ จากนั้นจังหวะก็ถูกเร่งขึ้น พิมผกาทาบทับอยู่บนร่างของกวินในลักษณะคล่อมทับบดอัดร่องหี่ที่เยิ้มแฉะอยู่ในกระโปรงซึ่งไม่มีกางเกงใน พยายามจัดท่าให้ร่องแคมครอบทับไปตามความยาวของลำควยกวินที่แข็งเกร็งดันกางเกงอยู่แทบปริขาด เธอโยกตัวไถร่องแคมกับลำควยด้วยความเสียวสะท้าน พิมผกาเริ่มปล่อยตัวและใจให้ธรรมชาตชักนำการกระทำของเธอไปเอง ความเสียวสยิวเพิ่มขึ้นอย่างไม่อาจฉุดรั้ง กวินแว่วเสียงหอบหายใจแผ่วๆจากหญิงสาวที่โยกตัวบดอัดร่องหีใส่ท่อนควยของเขา กวินเองก็ซ่านเสียวไปไม่น้อยกว่าพิมผกาเลยแต่กวินก็ทำเช่นเดียวกับพิมผกาคือปล่อยให้ธรรมชาตชักนำการกระทำของเขาออกมาเองการตอบสนองเกิดขึ้นที่สะโพกของกวินเอง โดยเริ่มยกสะโพกขึ้นรับจังหวะการบดอัดร่องแคมของพิมผกา เนื้อผ้าของกระโปรงที่พิมผกาสวมใส่อยู่ บริเวณที่สัมผัสถูกร่องหีของเธอ ตอนนี้เปียกแฉะเป็นดอกดวงและขยายวงเพิ่มขึ้น อาการโยกสะโพกให้ร่องหีรูดลำควยเร่งกระชั้นถี่ขึ้นอีกเล็กน้อย และตามมาด้วยอาการเกร็งกระตุก พิมผกาอัดบี้ร่องหีแช่คาไว้บนท่อนควยของกวินพร้อมเสียงครางแผ่วๆ และเสียงหอบหายใจอย่างสุขสม กวินรู้แล้วว่าพิมผกานั้นน้ำแตกไปแล้ว เมื่อเธอทิ้งตัวลงหอบหายใจอยู่บน-อกเขาสองมือยังคงลูบไล้อย่างแผ่วเบาไปทั่วร่าง ตั้งแต่ทั้งสองแลกจูบกันจนกระทั่งพิมผกาสำเร็จความเสียวไปนี้กินเวลาไปแค่ไม่ถึง 5 นาที แต่ในความรู้สึกของทั้งสองกลับรู้สึกเหมือนกับว่ามันยาวนานนับปีนับชาติ ..... พิมผกาที่นอนซบแก้มนวลอยู่บนแผงหน้าอกของกวินขยับเล็กน้อย ประทับจูบแผ่วเบาที่ปลายคางของกวิน "วินขา.....กวางมีความสุขที่สุดเลยค่ะ....รู้มั้ย....วินขา.....เดี๋ยวกวางทำให้วินนะคะ..." จบคำนั้นกวินรู้สึกได้ถึงการรุกรานของสองมือเล็กๆที่สอดเข้ามาใต้หน้าท้องของทั้งสองที่ประกบกันอยู่ สองมือนั้นกระทำอย่างชำนาญและแผ่วเบา ไม่นานนักเข็มขัดก็ถูกแก้ออกกวินรู้สึกเหมือนกับว่ามันหลุดออกพร้อมๆกับตะขอกางเกงของเขาด้วยซ้ำ ซิปที่ถูกดันโดยท่อนควยลำเขื่องของเขาถูกรูดลงอย่างติดขัดเล็กน้อย พิมผกาโหย่งตัวขึ้นเป็นลำดับเธอค่อยๆบรรจงถอดรูดกางเกงของกวินออกทางปลายเท้า กวินต้องผงกหัวขึ้นดูการกระทำของพิมผกาเมื่อเขารู้สึกเย็นๆที่ท่อนควย เพราะพิมผการูดกางเกงเขาออกพร้อมๆกับกางเกงในที่เขาสวมใส่อยู่ จนกระทั่งสิ่งกีดขวางนั้นมันพ้นจากร่างของเขาไปแล้ว
กลุ่มเมฆคล้อยเคลื่อนออกไปแล้ว แสงจันทร์นวลผ่องสาดแสงเย็นตาลงสู่บึงน้ำใสนิ่ง พิมผกาสองตาลูกโชนจ้องมองท่อนควยที่ดีดผงาดออกมาตั้งเป็นลำทะมึนอยู่ที่หว่างขาของกวิน เธอมองมันอย่างหลงไหลงมงาย สองมือสั่นสะท้านลูบคลำอย่างแผ่วเบาและทะนุถนอมไปบนท่อนควยนั้นเหมือนกับว่าเธอพบเจอสิ่งของสุดรักที่หายไปจากเธออย่างยาวนาน พิมผกากำโอบมันด้วยสองมือลูบไล้ลงไปถึงพวงเนื้อที่ห้อยย้อยอยู่ข้างล่างนั้น และเหมือนกับเธอต้องการเห็นมันอย่างเต็มตาในสายตาของกวิน เมื่อพิมผกาค่อยๆเคลื่อนใบหน้าสวยหวานเข้ามาใกล้เป็นลำดับ พิมผกาบรรจงจูบอย่างแผ่วเบาลงบนปลายควยที่เต็มไปด้วยเมือกลื่นไล้ลิ้นวนเลียลงไปช้าๆรอบๆปลายหัวนั้น กวินตัวเกร็งกระตุกสะโพกยกเด้งขึ้นไปเองโดยอัตโนมัติโดยที่พิมผกาเองก็มิได้ระวังปลายควยที่เปียกเยิ้มไปด้วยเมือกลื่นปริ่มๆนั้นถากไถริมฝีปากอ่อนละมุนของเธอพาดผ่านข้างแก้มขาวนวลถากเฉี่ยวไปจนถึงหางคิ้วเพราะเธอเองก็กำลังก้มหน้าเข้าหามันอยู่พอดี พิมผากรีบใช้สองมือโอบกำโคนควยของกวินไว้ออกแรงกดลงไปมันยิ่งเป็นการดึงรั้งหนังหุ้มปลายควยลงมาทำให้ปลายหัวควยนั้นถอกออกแผ่ปลายเงี่ยงออกมา ริมฝีปากน้อยๆเผยออ้าออกจูบลงไปบนปลายถอกของกวินให้ปลายควยค่อยไหลเลื่อนผ่านริมฝีปากคู่บางนั้นเข้าไปช้าโดยเธอห่อลิ้นรออยู่ภายในโพรงปากจนเมื่อปลายควยผ่านล่วงเข้าไปในโพรงปากแล้วพิมผกาจึงใช้ลิ้นตวัดรับ แล้วแหย่ปลายลิ้นดุนดันใส่รูเยี่ยวกลางหัวถอกนั้นพร้อมทั้งขยี้ปลายลิ้นสะบัดใส่รูกลางหัวควย กวินสะท้านไปทั้งตัวสองมือผวาโอบจับไปที่หัวของพิมผกา แต่ก็เพียงแค่จับไว้เท่านั้น อาการที่เกิดขึ้นของกวินนี้พิมผการับรู้ได้โดยตลอด เธอเริ่มโยกศรีษะของตัวเองขึ้นลงช้าๆพร้อมๆกับเพิ่มแรงดูดในโพรงปากของเธอมือที่จับโคนควยของกวินก็เริ่มกระทอกไปด้วยช้าๆและเร่งเร็วขึ้นตามลำดับ ความเงี่ยนง่านของกวินปะทุขึ้นอย่างเต็มที่ ซึ่งพิมผกาเองก็เช่นกันเธอรู้สึกได้ถึงอาการตอดขมิบที่เกิดขึ้นในโพรงหีของเธอเองในตอนนี้หยาดเมือกแห่งความเงี่ยนง่านหลั่งไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง จนเมื่อแรงจับที่ศรีษะของเธอเพิ่มมากขึ้นซึ่งมันมาพร้อมๆกับอาการเกร็งจากร่างกายของกวิน พิมผการูดปากออกจากท่อนควยของกวินอย่างรวดเร็วเหมือนสะบัดหน้าหนีขึ้นมามือที่จับกำท่อนควยก็ปล่อยออก ปล่อยให้ท่อนควยลำเขื่องของกวินตั้งส่ายโดกเดกเส้นเอ็นตามลำควยเต้นกระตุกปลายถอกแดงเข้มเหมือนมันจะโกรธอะไรซักอย่าง กวินเองนั้นแทบจะผวาลุกขึ้นทั้งตัวตามจังหวะการสะบัดปากออกจากท่อนควยของพิมผกานั้น เขารู้สึกอย่างฉับพลันถึงความโหวงเหวง ไร้เขา ไร้เรา เหมือนมีตัวตนแต่ไม่มี ไร้แผ่นฟ้า สิ้นแผ่นดินให้ทรงกาย ไม่สามารถบอกบรรยายได้โดยละเอียดถึงความรู้สึกที่เกิดขึ้นในตอนนี้ เป็นความรู้สึกที่เหมือนวิญญาณถูกกระชากออกจากคราบร่าง ท่อนควยหยาบใหญ่ยังเต้นกระตุกอยู่แต่เหมือนกับว่าการรับรู้ของกวินขาดสิ้นไปแล้วโดยสิ้นเชิง ไม่รู้แม้กระทั่งว่าขณะนี้คุณแม่พิมผกาของเขานั้นขณะนี้ได้ลุกขึ้นยืน และค่อยๆปลดเปลื้องเสื้อผ้าที่หลงเหลืออยู่บนร่างของเธออยู่ที่เบื้องหน้าของลูกชายสุดที่รัก ที่อยู่ในลักษณะครึ่งนั่งครึ่งนอนคนนี้ พิมผกาบอกตัวเองในใจอย่างคนที่จมอยู่ในห้วงรักดั่งสาวแรกรุ่นว่า เธอพร้อมที่จะมอบทุกสิ่งทุกอย่างให้แก่ชายที่อยู่ตรงหน้าคนนี้แล้ว ถึงแม้คนผู้นี้จะเป็นลูกชายแท้ๆของเธอเองก็ตาม ...........
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
หวานมันฉันคือ... ภาค 2
ก่อนที่จะจรดปลายนิ้วลงบนแป้นคีย์บอร์ด ผมชั่งใจอยู่นาน เพราะเหตุการณ์ที่ผมจะเล่าต่อไปนี้ ถ้าบอกใครไปเค้าก็ต้องหาว่าผมบ้า หรือไม่ก็เมา แต่เอาเ...
-
เสียงตะโกนเรียกจากด้านหลัง ทำให้ เมย์ “บุษบา” นักศึกษาแพทย์ปีสุดท้ายที่กำลังจะเดินขึ้นตึกผู้ป่วยต้องหันกลับไปมอง แต่เมื่อแลเห็นชายหนุ่มหน้าต...
-
ก่อนที่จะจรดปลายนิ้วลงบนแป้นคีย์บอร์ด ผมชั่งใจอยู่นาน เพราะเหตุการณ์ที่ผมจะเล่าต่อไปนี้ ถ้าบอกใครไปเค้าก็ต้องหาว่าผมบ้า หรือไม่ก็เมา แต่เอาเ...
-
โหนกหีที่นอนหงายแกล้งทำเป็นหลับจนโหนกหีนูนเด่น.เห็นกลีบหอยที่คาบผ้าเช็ดตัวเข้าไปภายในกลีบหี.จนเห็นเป็นรูป. โอ๊ย.อีสาย.มึงจะยั่วแท่งลำควยก...
ขอบคุณครับ
ตอบลบhttps://www.lnwballsod.com
https://www.88movie-hd.com
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ตอบลบขอแบบจบ มีต่อไหม
ตอบลบ