วันศุกร์ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

แรงแค้น แรงเสน่หา 2

แรงแค้น แรงเสน่หา ตอนที่ 2 ประกาศสงคราม โดย ใจร้าย ความเดิมตอนที่แล้ว “ใยเด็กบ้า!” มดสบถออกมา “คอยดูฉันจะไม่มีวันเข้าใกล้เธออีกเป็นแน่” มดพูดพร้อมกับติดกระดุมเสื้อและแต่งกายให้เรียบร้อย ************************ เดน่า เดินออกจากห้องพักอาจารย์ ทิ้งความรู้สึกไว้หลาย ๆ อย่าง ไว้ให้มด มด ทั้ง โกรธ โมโห แค้นใจ อาย ที่โดนดูถูก ทั้ง ๆ ที่เพิ่งเจอกันเป็นครั้งแรก รวมทั้งรู้สึกในอารมณ์วาบหวามที่เดน่าทำไว้กับเธอ ไม่ทันที่มดจะแต่งตัวเสร็จดี ลิลลี่ ก็เดินเข้ามาในห้องพักอาจารย์ “เป็นอย่างไรบ้างจ๊ะน้องมด สอนวันแรก” ลิลลี่ ทักทายทันที่เข้ามาในห้องพักอาจารย์ “ดีค่ะ พี่ลิลลี่” มดตอบสั้น ๆ พร้อมหันหลังก้มหน้าก้มตารีบแต่งตัว กลบเกลื่อนหน้าตาและความรู้สึกของตัวเองที่ยังครุกกรุ่นอยู่ “แล้วทำไมหน้าแดงอย่างนั้นละ ไม่สบายรึเปล่า” ลิลลี่ ถามกลับเมื่อสังเกตเห็นสีหน้าของมด “เอ่อ.............” มดตะกุกตะกักที่จะตอบ “คงยังไม่หายตื่นเต้นละสิ” ลิลลี่ถามพร้อมกับยิ้ม เมื่อคิดว่าตัวเองคิดถูก “ค่ะ คงเป็นอย่างนั้น คงยังตื่นเต้นอยู่ค่ะ” มดรีบตอบทันที เพื่อไม่ให้ พี่ลิลลี่สงสัยอีก “อย่างนี้ละค่ะ สอนครั้งแรกใครก็เป็นอย่างนี้ทั้งนั้น ตอนสมัยพี่ก็เหมือนกัน สอนครั้งแรกตื่นเต้นจนแทบอยากจะเป็นลม แต่น้องมดเนี่ยเก่งนะค่ะ ดูแล้วคงสู้ไหวนะค่ะ เอ่อ...... ก่อนเข้ามาพี่เห็นใยแหม่มกะปิ แว๊บ ๆ เด็กคนนั้นมาพบพี่รึเปล่าจ๊ะ อุ้ย! พี่ลืมบอกน้องมดไป ว่าพี่เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาของนักศึกษาปี 2นะ” ลิลลี่พูดเจื้อยแจ้วไปเรื่อย ๆ พร้อมกับถามถึงข้อสงสัยของตัวเอง “เอ่อ................ เดน่า ช่วยมดถือของนะค่ะ พี่ลิลลี่เป็นที่ปรึกษาของ นักศึกษาปี 2 เหรอค่ะ” มดเริ่มใคร่อยากที่จะรู้เรื่องของนักศึกษาปีนี้ ยิ่งเรื่องของนักศึกษาสาวหน้าตาฝรั่ง “ใช่จ๊ะ นักศึกษาห้องนี้น่ารักทุกคนจ๊ะ แต่อย่างที่บอกมีพวกทโมนเยอะพอสมควร แต่พี่ขอรับรองด้วยเกียรติของสาวประเภทสองที่สวยที่สุดในมหาลัยนะจ๊ะว่าเด็ก ห้องนี้นิสัยดีมาก มาก ขอบอก ยิ่งยัยแหม่มที่ช่วยน้องมดถือสมุดนะ นิสัยดีมาก ชอบกิจกรรม ช่วยเหลืองานอาจารย์ดี แต่ที่สำคัญที่สุดอาจารย์ที่ปรึกษาดีด้วยจ๊ะ” ลิลลี่สาธยายถึงความดีของนักศึกษาในความดูแลของตัวเอง.......... “หรือค่ะ ใช่ค่ะ มด ดูแล้วนักศึกษาห้องนี้ต้องดีแน่ ๆ เลย เพราะมีที่ปรึกษาดีอย่างพี่ลิลลี่นี่เอง ฮิ ๆ ๆๆ” มดหัวเราะชอบใจในสิ่งที่ลิลลี่พูด “มด อยากรู้ถึงพฤติกรรมเด็กคนไหนเป็นพิเศษไหมจ๊ะ พี่จะได้บอกว่าคนไหนเป็นอย่างไร พี่สามารถบอกได้ทุกคนจ๊ะ” ลิลลี่พูดพร้อมกับทำท่าเป็นผู้หยังรู้ในทุก ๆ เรื่อง ได้ทีของมดในทันที ที่จะได้รู้ข้อมูลของ นักศึกษาสาวหน้าฝรั่งที่ดูถูกเธอ “ที่สะดุดตา มดนะค่ะ เอ่อ....... ก็มีเดน่า ที่พี่ลิลลี่เรียกว่า แหม่มนะค่ะ” “น้องมด เนี่ยตาแหลมนะจ๊ะ เพราะใยแหม่ม เนี่ย ป๊อบในหมู่นักศึกษาทั้งหญิง ทั้งชาย ทั้งเก่งเรื่องเรียน เก่งกิจกรรมด้วย อ๋อ ใยแหม่มเนี่ย เป็นฝรั่งเลยจ๊ะไม่มีเชื้อไทย” ออด................ เสียงออดดังเปลี่ยนคาบเรียน “ออดแล้ว พี่ไปก่อนนะจ๊ะน้องมด พี่มีสอน เดี๋ยววันหลังพี่เล่าให้ฟังใหม่นะ” ลิลลี่ รีบออกไปเมื่อได้ยินเสียงออด “ใยเด็กฝรั่งบ้า คอยดูเถอะเธอจะไม่มีทางทำกับชั้นอย่างนี้ได้เป็นครั้งที่สองแน่” มดคิดในใจ ขณะที่มดนั่งรอเวลางานเลิก เธอก็ได้นั่งตรวจงานของนักศึกษาที่เธอสั่ง เมื่อตรวจมาถึงงานของเดน่า เธออ่านแล้วเธอก็ต้องตกใจในข้อความที่เดน่า เขียนไว้ว่า “ความรักที่แท้จริงไม่มีในโลก เพราะทุกอย่างมันเกิดขึ้นจากอารมณ์ มากกว่า เมื่อความรู้สึกของคน ที่เราเรียกว่าความรักเกิดขึ้น มันมักจะทำให้คน ๆ นั้น เป็นทุกข์ เสียใจ และใจสลาย แต่ถ้าใครสามารถทำใจยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้นได้ คน ๆ นั้น ก็พ้นทุกข์ไป ส่วนใครที่ทำใจไม่ได้ก็ต้องทนยอมรับความเจ็บปวด อยู่ที่ว่าใครจะทนได้มากน้อยแค่ไหนถ้าใครทนไม่ได้ก็ต้องตายไป หรือจากไป สำหรับบางคนก็จะกลายเป็นความแค้นที่จะรอวันชำระ ให้คน ๆ นั้นรู้สึกถึงสิ่งที่ทำไว้กับคนอื่น ให้มันสาสม ให้กระอักออกมาเป็นเลือด ให้ทุกข์ เจ็บปวด เสียใจ มากกว่าคนที่โดนกระทำเป็นร้อยเท่าพันเท่า” “เด็กคนนี้มีความคิดแปลก ๆ” มดคิดในใจ เมื่อปิดหน้าสมุดของเดน่า มดก็ต้องตกใจอีกครั้งนึงกับชื่อของเดน่า ชื่อเต็ม ๆ ของ เดน่า คือ เดน่า ลุมเบิร์ก ! “นี่ นามสกุล มาร์ค” มดอุทานออกมาในทันทีที่เห็นชื่อและนามสกุล ของ เดน่า ทำให้ มดหวนคิดถึงอดีตที่เธอยังศึกษาอยู่ที่เยอรมัน มาร์ค เป็นเพื่อนที่เรียนปริญญาโท ที่มหาวิทยาลัยเดียวกัน เป็นชาวต่างชาติที่มดยอมคบให้ความสนิทด้วย มดให้ความสำคัญกับ มาร์ค มากกว่าผู้ชายคนอื่น ๆ ที่เข้ามาในชีวิตเธอช่วงที่เธออยู่ที่เยอรมัน มด ยอมรับตัวเองเสมอว่าเธอเป็นคนเจ้าชู้ เธอไม่ใช่ผู้หญิงไทยที่เรียบร้อย รักนวลสงวนตัว ที่มีความเป็นกุลสตรี แต่กลับตรงกันข้าม มด เป็นหญิงไทยที่ยุคใหม่ ที่มีความเป็นฝรั่งอยู่ในตัวเองสูง รักอิสระ รักความเสรี ชอบให้ชีวิตตัวเองโลดแล่นไปกับสิ่งต่าง ๆ ที่เข้ามาในชีวิต ชอบที่จะลองรักในรูปแบบต่าง ๆ ก่อนที่เธอจะเจอมาร์ค เธอก็คบกับชาย มากหน้าหลายตา แม้แต่ตอนที่คบมาร์คอยู่เธอก็ยังคบกับคนอื่นที่เธอต้องการ ถ้าถามว่าเธอรักมาร์ค ไหม เธอสามารถตอบใจตัวเองได้ทันทีว่า เธอไม่ได้รักมาร์ค เลย เธอแค่มีความรู้สึกดี ๆ ให้กับ มาร์ค มากกว่าคนอื่น ๆ เธอจึงไปไหนมาไหนกับมาร์ค ให้ความสำคัญกับมาร์ค แต่เมื่อวันนึงที่เธอได้มีความสัมพันธ์กับมาร์คทำให้ มาร์คเริ่มเข้ามาวุ่นวายในชีวิตส่วนตัวของเธอ แสดงความเป็นเจ้าของในตัวเธอ ซึ่งเวลาที่มาร์คบอกรักเธอ และมาร์ค จะถามกลับเสมอว่า “รักมาร์คบ้างไหม” ทุกครั้งที่มาร์ค ถาม เธอจะตอบเสมอว่าตอนนี้มาร์คเป็นคนที่มดสนิทด้วยมากที่สุด หรือ บอกว่าตอนนี้มาร์คเป็นคนพิเศษสำหรับเธอ มดไม่ เคยบอกรักมาร์คเลยสักครั้งเดียว เวลาที่มาร์คขอเธอแต่งงาน เธอก็จะปฏิเสธทุกครั้ง และเธอพูดปัดเสมอว่า มดไม่พร้อม มดอยากจะบอกมาร์ค ว่ามดไม่ได้รักมาร์ค แต่เธอก็ไม่อยากทำลายน้ำใจผู้ชายที่ดีกับเธอ มาร์คเป็นฝรั่งที่มีความเป็นไทยในตัวเองสูง มาร์ค เคยเล่าให้มดฟังว่า เขาเกิดที่เมืองไทย เขามีน้องสาวอีกคนนึง ที่อยู่ที่เมืองไทย พอเขาอายุได้ 18 เขาก็ย้ายมาอยู่กับยายที่เยอรมัน เขาจึงถูกอบรม ได้รับการดูแลจากพี่เลี้ยงที่เป็นคนไทย ทำให้เขามีความคิดแบบคนไทย ชอบผู้หญิงไทย เพราะมาร์คจะคิดเสมอว่า ผู้หญิงไทย เป็นคนที่รักเดียวใจเดียว เลยทำให้มาร์คให้ความรักกับเธอ เต็มที่ แต่มาวันนึงเมื่อมาร์ค มาเจอมด ที่กำลังยืน พลอดรัก กอดจูบกับผู้ชาย คนอื่น ทำให้มาร์คเสียใจมาก เขายืนดูมดกับผู้ชายอีกคนแสดงความรักกัน ยืนอยู่อย่างนั้น จึงทำให้มดเห็นว่า มาร์คยืนมองเธออยู่ “ทำไม มดทำกับมาร์ค อย่างนี้ มดมีคนอื่น มดไม่ได้รักมาร์คเหรอ ” มาร์คตัดพ้อทั้งน้ำตา เสียใจกับสิ่งที่เขาเห็น ทันทีเมื่อเขามาพบมดที่ห้อง “มาร์ค มดขอโทษมาร์คนะ แต่มด.........” มดไม่รู้จะตอบอย่างไรดี เพราะเมื่อเธอเห็นน้ำตาของเขาเธอก็รู้สึกผิด “ทำไม ๆ ๆ ๆ มดไม่สนใจความรู้สึกของมาร์คเลย ทั้ง ๆ ที่มดบอกว่า มาร์ค เป็นคนพิเศษ เป็นคนสำคัญ ทำไม ๆ ๆ” มาร์คพูดพร้อมกับเอามือทั้งสองข้างดึงมดเข้ามากอดไว้แน่น เหมือนจะให้หัวใจของเขาหยั่งรู้ถึงหัวใจของเธอ “มาร์ค มดขอโทษ” มดดันตัวมาร์คออก ถึงคราวที่เธอต้องพูดความจริงกับมาร์คเสียที “มาร์ค เป็นคนพิเศษสำหรับมด แต่.............. มดไม่ได้รักมาร์ค” มดพูดโพล่งออกมา “มดไม่ได้รัก....” เสียงของมาร์คพูดออกมาเสียงหายเข้าไปในลำคอเหมือนเป็นเสียงกระซิบ ไม่มีเรี่ยวแรงที่จะเปล่งเสียง “แล้วมด ให้ความสำคัญกับ มาร์ค ทำไม แล้วที่เรามีอะไรกัน ไปไหนมาไหนด้วยกัน ไม่เคยปฏิเสธซักครั้งเวลาที่มาร์ค บอกกับเพื่อว่ามดเป็นแฟนมาร์ค ที่ผ่านมา 4 ปี ไม่มีความหมายเลยรึไง” มาร์คตะโกนออกมาดัง ๆ เหมือนอยากให้คนทั้งโลกรับรู้ถึงความรู้สึกของเขา เขาดึงกระชากตัวมดเข้ามาเขย่าตัวเธอแรงขึ้น แรงขึ้น มดพยายามสะบัดตัวออกจากมือของมาร์ค “ก็บอกแล้วไง มด ไม่ได้รักมาร์ค มาร์คก็แค่เป็นเพื่อนมดเท่านั้น กับการที่เราเคยนอนด้วยกันนะ มันไม่ได้สำคัญอะไรสำหรับมดหรอกนะ มดก็เคยนอนกับคนอื่นเหมือนกัน มดอยากจะยุ่งกับใครมันก็เรื่องของมด การที่เรามีอะไรกัน มันก็แค่ความสนุกร่วมกันก็แค่นั้น” มด หมดความอดทนกับความรู้สึกของมาร์ค เธอตะโกนใส่หน้ามาร์ค ไม่แคร์ความรู้สึกของมาร์คอีกต่อไป “ไม่ ๆ ๆ ๆ ๆ” มาร์คตะโกนเสียงดังผลักมดล้มลง แล้วมาร์คก็วิ่งออกจากห้องไป ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์วันนั้น มด ก็ไม่ได้พบมาร์คอีกเลย ทั้งที่มหาวิทยาลัย และที่อื่น ๆ ที่มาร์ค เคยไป ความที่มดเป็นสาวสมัยใหม่ เป็นคนมั่นใจในตัวเองสูง ทำให้มดไม่ได้สนใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นสักเท่าไหร่ มีแค่ความรู้สึกผิดนิดหน่อยที่ทำให้ผู้ชายคนนึงเสียใจ ก็เท่านั้น “ขยันจังเลยนะจ๊ะน้องมด” เสียงพี่พร หัวหน้าหมวดทักขึ้น ทำให้มดหลุดจากภวังค์ความคิดของตัวเอง “ค่ะ......มดไม่อยากให้งานมันค้างนะค่ะ จะได้มีเวลาเตรียมการสอน” มดตอบรับแบบเขิน ๆ “ขยันอย่างนี้ พี่รักตายเลย” ยกนาฬิกาที่ข้อมือขึ้นดู “อย่างนั้นพี่กลับก่อนนะค่ะ ได้เวลาเลิกงานพอดี กลับบ้านดี ๆ นะค่ะ” พี่พร หัวหน้าหมวดของเธอพูดชื่นชมแกมเอ็นดูนิด ๆ “ถึงเวลาเลิกงานแล้วเหรอเนี่ย ทำงานวันแรกของเรา ก็เจอดีซะแล้ว” มดพูดกับตัวเองเบา ๆ พร้อมกับเก็บงานของนักศึกษาที่เธอตรวจเรียบร้อยแล้ว เมื่อเธอเดินออกมาทางหน้าตึกคณะ เธอก็รู้สึกว่าเหมือนมีคนมองเธออยู่ เธอหันกลับไปข้างหลัง เธอก็เห็น เดน่า สาวหน้าฝรั่งคนนั้น ยืนมองเธออยู่ด้วยสายตาที่มุ่งหมายจะทำอะไรสักอย่าง มดเดินเอาของไปเก็บที่รถที่จอดไว้ที่หน้าตึก เธอหันกลับมามองอีกที เธอก็ยังเห็น สาวฝรั่งคนนั้น ยังยืนมองเธออยู่ เธอยังไม่ก้าวขึ้นรถในทันที เธอปิดประตูรถ เธอหันกลับเดินตรงไปหาเดน่า ที่หน้าตึกในขณะนั้น นักศึกษาเหลืออยู่ไม่กี่คน เพราะเป็นเวลาเย็นแล้ว นักศึกษาส่วนมากจะกลับบ้านกันไปแล้ว หรือจะไปนั่งกันตามที่นั่งในสวนหย่อมของบริเวณมหาวิทยาลัย “เรามีอะไรต้องพูดกัน” มด พูดทันทีเมื่อเธอมายืนอยู่ตรงหน้าเดน่า มดพูดด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบพอที่จะได้ยินกันสองคน “คุณมีอะไรจะพูดกับชั้น เหรอค่ะ หรือว่า คุณ อยาก....................แบบเมื่อตอนกลางวัน ติดใจแล้วละสิ แต่ตรงนี้คนอยู่เยอะนะค่ะ คุณน่าจะหาที่คนน้อยกว่านี้หน่อย ” เดน่า ทำหน้าตายียวนกวนประสาท พร้อมกับใช้นิ้วมือเขี่ยที่กระดุมเสื้อของตัวเองทำท่าเลียนแบบเหตุการณ์ที่ ห้องพักอาจารย์ “เดน่า! เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกลางวันนะ มันไม่ทำให้ชั้นรู้สึกอะไรสักเท่าไหร่หรอกนะ มันก็แค่เรื่องเล็กน้อย มันไม่ได้มีผลกระทบอะไรหรอก กับแค่เด็กที่ปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม ริอาจจะลองก็แค่นั้น” มดพูดย้อนกลับใส่หน้า เดน่า ด้วยสีหน้าและแววตาที่นิ่งเฉย เหมือนไม่ได้มีความรู้สึกใด ๆ “ชั้นลืมไปว่าคุณไปอยู่เมืองนอกตั้งหลายปี คงจะช่ำชองเรื่องพรรค์อย่างนี้อยู่แล้ว มันคงเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับคุณ” เดน่า ตอกกลับไปโดยไม่ยอมลดละ “เอาละ เปลี่ยนเรื่องคุย อาจารย์อยากจะถามเธอว่า เธอเป็นน้องของมาร์ค ใช่ไหม” มดถามถึงข้อสงสัยของเธอ “ใช่ค่ะ มาร์ค ลุมเบิร์ก นะ พี่ชายชั้นเอง คุณจำได้ด้วยเหรอค่ะ มาร์ค ผู้ชายที่คุณทิ้งไปอย่างไม่มีเยื่อใย คุณรู้ไหมทุกวันนี้ยังไม่มีใครตาม มาร์ค เจอ มาร์ค หายไป ไม่ติดต่อกลับมา มันเป็นเพราะคุณนั่นแหละ คุณรู้ตัวบ้างรึเปล่า ว่าคุณทำลายชีวิตของผู้ชายคนนึง ทำให้ครอบครัวเขาต้องเสียใจ ไม่รู้ว่า มาร์คยังอยู่หรือตายไปแล้ว” น้ำเสียงของเดน่าเต็มไปด้วยความแข็งกระด้าง มีแต่ความขุ่นแค้นที่แสดงออกมาทางสีหน้าและแววตา “มันไม่ใช่ความผิดของชั้น พี่ชายเธอนั่นแหละ ที่ทำตัวของเขาเอง ชั้นไม่เคยรักเขา และไม่คิดจะรักด้วย พี่ชายเธอคาดหวังในตัวของชั้นเอง ถึงชั้นจะย้อนเวลากลับไปได้ ชั้นก็ไม่รักพี่ชายของเธอ” มด ไม่ยอมรับในสิ่งที่เดน่า กล่าวหาเธอ เรื่องอะไรที่เธอจะต้องยอมรับชีวิตเป็นของเธอ เธออยากจะทำอะไรก็ได้ “ทั้ง ๆ ที่ มาร์ครักคุณมาก อย่างนั้นหรือค่ะ” “ใช่ !” มดตอบกลับไปอย่างหนักแน่น “อ้อ! ชั้นพอจะเข้าใจคุณแล้ว คุณจำคำพูดของคุณไว้ให้ดีนะค่ะ ชันขอบอกกับคุณไว้ตรงนี้เลย ชั้น จะแก้แค้นให้ มาร์ค คุณระวังตัวไว้ให้ดี ชั้นจะทำให้คุณย์ต้องเจ็บปวดกว่ามาร์คหลายเท่า ชั้นจะทำให้คุณรู้ว่าความเจ็บปวดนะมันเป็นอย่างไร คุณจะต้องได้รับกรรมในสิ่งที่คุณทำกับมาร์คไว้” “ได้! ชั้นจะรอดูว่าเธอจะทำอะไร แต่ขอบอกไว้อย่างนึงนะ ชั้นไม่มีวันที่จะตกหลุมพรางของเธอแน่นอน เธอยังรู้ชั้นน้อยเกินไป” “แล้วเราจะได้รู้กันค่ะ แล้วคุณจะได้รู้ในสิ่งที่คุณไม่เคยรู้” ทั้งสองคนต่างยืนจ้องหน้ากัน สายตาคนนึงมองด้วยความเคียดแค้น แต่อีกคนนึง มองด้วยสายตาท้าทายและเย็นชา ไม่มีความรู้สึกผิดกับสิ่งที่เกิดขึ้น “อ้าวยังไม่กลับบ้านหรือจ๊ะน้องมด” เสียงลิลลี่ดังมาแต่ไกล ทำให้ทั้งสองสาวที่ยืนจ้องหน้ากันอย่างไม่ลดละ ต้องหันไปมองทางเดียวกัน “กำลังจะกลับค่ะพี่ลิลลี่” มดตอบกลับ เมื่อตั้งสติได้ “อ้าว! ใยแหม่ม ยืนคุยอะไรกับอาจารย์เขาเหรอจ๊ะ ถ้าท่าทางจริงจังเชียว” ลิลลี่หันไปถามสาวน้อยหน้าฝรั่งที่ยืนปรับสีหน้าอยู่อีกทางนึง “พอดี แหม่ม กำลังถามอาจารย์เขาเกี่ยวกับประเทศเยอรมันค่ะ ว่าเป็นอย่างไรบ้าง” เดน่า ปรับทั้งสีหน้าและคำพูด โดยใช้คำพูดแทนตัวเองว่าแหม่ม กับอาจารย์ลิลลี่ เป็นคำพูดที่ไพเราะ เปลี่ยนสีหน้าให้เป็นนักศึกษาน่ารักสดใส ผิดกับคนละคนที่ยืนคุยกับมดเมื่อสักครู่ “งั้นแหม่ม ขอตัวกลับบ้านก่อนนะค่ะ เย็นแล้ว สวัสดีค่ะอาจารย์” เดน่ายกมือสวัสดี อาจารย์ลิลลี่ และหันไปสวัสดี มด มองมด ด้วยสายตาอาฆาต

1 ความคิดเห็น:

หวานมันฉันคือ... ภาค 2

ก่อนที่จะจรดปลายนิ้วลงบนแป้นคีย์บอร์ด ผมชั่งใจอยู่นาน เพราะเหตุการณ์ที่ผมจะเล่าต่อไปนี้ ถ้าบอกใครไปเค้าก็ต้องหาว่าผมบ้า หรือไม่ก็เมา แต่เอาเ...